ตร.ท่องเที่ยวสมุยจับกุมชาวเมียนมา แย่งอาชีพคนไทย เปิดร้านเป็นช่างตัดผม รายได้ดี แต่ผิดกฎหมายเป็นอาชีพที่ห้ามคนต่างด้าวทำ
เมื่อวันที่ 14 ต.ค. 67 ภายใต้การอำนวยการสั่งการของ พล.ต.ท.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผบช.ทท. สั่งการให้ พ.ต.ท.วินิจ บุญชิต สว.ส.ทท.5 กก.2 บก.ทท.3 ด.ต.พีรเดช คงยศ จ.ส.ต.อนุวัฒน์ ขี่ทอง ส.ต.ท.ภาสกร เนียมมีศรี ผบ.หมู่ ส.ทท.5 กก.2 บก.ทท.3 เข้าตรวจสอบที่ร้านMR.BARBER SHOP SAMUI ตั้งอยู่เลขที่ 64/51 ม.5 ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฏร์ธานี หลังจากได้รับแจ้งว่าที่ร้านดังกล่าวมีชายอายุประมาณ 20 ปี คาดว่าเป็นชาวเมียนมา เป็นเจ้าของร้านตัดผม และเป็นช่างตัดผม เปิดให้บริการตัดผมให้กับลูกค้าทั่วไป
จากนั้นจึงได้ส่งสายลับเข้าไปเป็นลูกค้าตัดผม และมีชายต้องสงสัยเข้ามาให้การบริการ โดยมีการสื่อสารเป็นภาษาไทยแต่สำเนียงไม่ชัด เมื่อให้บริการตัดผมกับสายลับเสร็จ มีการจ่ายเงินค่าตัดผมเป็นที่เรียบร้อย และเก็บรวบรวมหลักฐานได้แล้ว เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวขอตรวจสอบเอกสารประจำตัวหรือหนังสือเดินทาง จนทราบชื่อว่า นายอ่าว ซอ ทน (MR.AUNG ZAN TUN) สัญชาติ เมียนมา อายุ 20 ปี ถือหนังสือเดินทางหมายเลขCC8544811 เลขบัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทยเลขที่ 00 8493 129611 4
นายอ่าว ซอ ทน ให้การว่า ตัวเองมีความรู้ความสามารถในอาชีพตัดผม จึงได้มาเช่าอาคารเปิดร้านตัดผมมาได้ประมาณ 1 เดือน คิดค่าบริการตัดผมชาย 300 บาท ตัดผม,โกนหนวด,แต่งเครา 400 บาท ตัดผมเด็ก 150 บาท โกนหนวด แต่งเครา 200 บาท โกนผม 300 บาท ตั้งแต่เปิดร้านมาก็มีทั้งลูกค้าคนไทยและชาวต่างชาติ เข้ามาใช้บริการ
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แจ้งให้ นายอ่าว ซอ ทน (MR.AUNG ZAN TUN) สัญชาติ เมียนมา อายุ 20 ปี กระทำการโดยผิดกฎมาย โดยกล่าวหาว่า “ เป็นบุคคลต่างด้าวได้รับอนุญาตทำงาน ทำงานนอกเหนือสิทธิที่ได้รับอนุญาต (ช่างตัดผม)” พร้อมยึดของกลางประกอบด้วย ปัตตาเลี่ยน 2 เครื่อง กรรไกร 1 เล่ม ผ้าคลุมตัดผม 1 ผืน นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ่อผุด เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
สำหรับการจับกุมครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายรัฐบาลวางแผนกระตุ้นการท่องเที่ยว เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติในช่วงไฮซีชั่น ทางการท่องเที่ยวในช่วงปลายปี 2567 เพื่อผลักดันจำนวนและรายได้ทางการท่องเที่ยวสู่เป้าหมาย โดยเน้นให้กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวดูแลรักษาความปลอดภัยสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากในห้วงดังกล่าว โดยให้มีการบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวอย่างจริงจัง เข้มงวดตามปฏิบัติการ 10 กลุ่มต้องห้าม โดยเฉพาะการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ ทัวร์ด้อยคุณภาพ ไกด์ผิดกฎหมาย การหลอกลวงเอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยว และความผิดอื่นๆ ที่ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของประเทศในภาพรวม โดยให้มีผลการปฏิบัติเป็นรูปธรรม สร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยว
สำหรับอาชีพช่างตัดผมเป็นหนึ่งในอาชีพที่ห้ามคนต่างด้าวทำโดยเด็ดขาด ซึ่งมีการประกาศไว้ในพระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติมในประกาศกระทรวงแรงงาน เรื่อง กำหนดงานที่ห้ามคนต่างด้าวทำ ซึ่งมีทั้งสิ้น 40 งาน
