โครงการวิลล่าหรูเกาะสมุยยังฝืนมาตรการบังคับทางปกครอง หลังถูกคำสั่งห้ามใช้อาคารและคำสั่งให้รื้อถอนอาคาร ปล่อยนักท่องเที่ยวต่างชาติเช่าวิลล่าพักอาศัย
เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 67 พ.อ.ดุสิต เกษรแก้ว หัวหน้าชุดแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ ทำลายทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมในพื้นที่กองทัพภาคที่ 4 กอ.รมน.ภาค 4 เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 67 ที่ผ่านมา คณะทำงานแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐฯ พร้อมด้วย ร.ต.ต.พงศกร มีพันธุ์ ผอ.ส่วนสอบสวน 4 สำนักสอบสวน 4 สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน และผู้อำนวยการสำนักกองช่าง เทศบาลนครเกาะสมุย เข้าตรวจสอบอาคารบริเวณโครงการอาริยะเรสซิเด้นท์ ต.มะเร็ต อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี กรณีฝ่าฝืนคำสั่งทางปกครองให้รื้อถอนอาคาร และห้ามใช้อาคารของเจ้าพนักงานท้องถิ่นเทศบาลนครเกาะสมุย โดยมีเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จังหวัดสุราษฎร์ธานี เข้าร่วมสังเกตการณ์การดำเนินการมาตรการบังคับทางปกครองของเทศบาลนครเกาะสมุย
ในระหว่างเข้าตรวจสอบพบว่า ที่ด้านหน้าโครงการมีประตูบานเหล็กปิดกั้นอยู่ แต่ขณะนั้นได้มีนักท่องเที่ยวสัญชาติเยอรมนี ได้มาเปิดประตูเหล็ก เจ้าหน้าที่จึงได้สอบถามทราบว่า ได้เดินทางมาท่องเที่ยวที่เกาะสมุย และติดต่อเช่าวิลล่าในโครงการเป็นระยะเวลา 10 วัน คิดเป็นเงิน 2,200 ยูโร หรือเกือบ 80,000 บาท จากนั้นเจ้าพนักงานจึงได้เดินทางเข้าไปตรวจสอบภายในโครงการดังกล่าว ขณะตรวจสอบพบว่ามีวิลล่าอีก 1 หลังที่มีนักท่องเที่ยวเช่าพักอาศัยอยู่เช่นกัน คณะเจ้าหน้าที่จึงได้ไปตรวจสอบที่วิลล่าดังกล่าว พร้อมเชิญนักท่องเที่ยวมาสอบถาม ทราบว่าเป็นนักท่องเที่ยวสัญชาติอังกฤษ โดยให้ข้อมูลว่า ได้เดินทางมาท่องเที่ยวพักผ่อนที่เกาะสมุย ซึ่งได้วิลล่าหลังนี้ผ่านทางแอบพลิเคชั่นจองที่พักชื่อดัง โดยตกลงเช่าวิลล่าเป็นระยะเวลา 2 เดือน คิดเป็นเงินไทยประมาณ 225,000 บาท คณะเจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งกับนักท่องเที่ยวดังกล่าวให้ทราบว่า โครงการนี้ได้มีคำสั่งการห้ามใช้อาคาร และคำสั่งรื้อถอนอาคาร อันเป็นคำสั่งของเจ้าพนักงานท้องถิ่น
ขณะที่คณะเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบว่า มีการทำลายแนวกั้น (Police Line) ที่กำหนดเขตรื้อถอนอาคารออก และให้ชาวต่างชาติเข้าพักอาศัยในอาคารตามปกติ ซึ่งเป็นการไม่ปฏิบัติตามคำสั่งทางปกครองที่ห้ามใช้อาคาร ที่มีแนวกั้นเขตห้ามใช้อาคาร กำหนดเป็นพื้นที่อันตรายเพื่อรื้อถอนอาคาร โดยการกระทำดังกล่าวเจ้าของอาคารหรือผู้ถือกรรมสิทธิ์ยังฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานท้องถิ่น ตามพ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 เจ้าหน้าที่จึงได้บันทึกภาพถ่ายไว้เป็นหลักฐาน รวบรวมหลักฐานต่าง ๆ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
จากนั้นคณะเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันถอดประตูเหล็กด้านหน้าโครงการออก จำนวน 2 บาน และถอดประตูหน้าอาคาร A1 จำนวน 2 บาน พร้อมส่งมอบให้กับเจ้าหน้าที่ของเทศบาลนครเกาะสมุย ซึ่งเป็นผู้แทนหรือผู้รับมอบหมายจากเจ้าพนักงานท้องถิ่น แต่เจ้าหน้าที่ของเทศบาลนครเกาะสมุยกลับไม่ยินยอมรับมอบ คณะเจ้าหน้าที่จึงได้นำไปเก็บไว้ในโครงการวิลล่าดังกล่าว ต่อมาได้มีทนายความผู้รับมอบอำนาจจากโครงการอาริยะเรสซิเด้นท์ มาพบกับเจ้าหน้าที่บริเวณด้านหน้าโครงการ พร้อมสอบถามทางผู้อำนวยการสำนักกองช่าง เทศบาลนครเกาะสมุย ว่าได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ที่มาตรวจสอบหรือไม่ว่าทางโครงการได้ใช้สิทธิอุทธรณ์คำสั่งตามกฏหมาย ขั้นตอนตรงนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ และผู้ที่กระทำทั้งหมดในวันนี้ก็จะต้องดำเนินการตามกฏหมายเช่นกัน
