พบร่องรอยรีสอร์ทหรู ลักลอบขุดร่องน้ำทำลายแนวปะการังหน้าเกาะไหง อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ เจ้าหน้าที่อุทยานฯในพื้นที่ปิดหูปิดตา ปล่อยให้ทรัพยากรธรรมชาติ โดนทำลาย โดยเฉพาะแนวปะการังน้ำตื่น ได้รับความเสียหายอย่างหนัก ขณะที่หน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรง อย่างอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา ทำนิ่งเฉยทั้งที่เป็นเจ้าของพื้นที่โดยตรง
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.กระบี่ ได้รับข้อความ และภาพสะเทือนใจเหล่านักอนุรักษ์ ปรากฏบนโลกโซเชียล หลังผู้ใช้โซเชียลรายหนึ่งได้โพสต์ภาพบริเวณด้านหน้าเกาะไหง หมู่ 4 ต.เกาะลันตาใหญ่ อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ มีสภาพบริเวณหน้าชายหาดมีการขุดร่องน้ำยาวลงไปในทะเล โดยร่องน้ำดังกล่าวเป็นร่องน้ำที่ขุดขึ้นเพื่อให้เรือหางยาวใช้วิ่งเข้าไปรับส่งนักท่องเที่ยวบริเวณด้านหน้ารีสอร์ทแห่งหนึ่งบนเกาะไหง ซึ่งเรื่องดังกล่าวมีชาวบ้านรายหนึ่งร้องเรียนเข้าไปยังกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ให้ดำเนินการตรวจสอบแล้ว เนื่องจากพื้นที่เกาะไหง อยู่ในความดูแลของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบในพื้นที่ดังกล่าว พบว่าสภาพบริเวณด้านหน้าหาด มีร่องรอยการขุดร่องน้ำอยู่จริง โดยสภาพร่องน้ำเป็นระยะทางยาว 186 ม. กว้างประมาณ 18 ม. ลึกประมาณ 1 ม. รวมเป็นเนื้อที่กว่า 2 ไร่ โดยสภาพใต้น้ำบริเวณด้านหน้าเกาะไหง จะเป็นแนวปะการังน้ำตื้น ที่นักท่องเที่ยวนิยมไปดำน้ำชมความงามกัน ทำให้แนวปะการังบริเวณดังกล่าวได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง
ทั้งนี้สอบถามจากชาวบ้านในพื้นที่รายหนึ่ง ทราบว่า ร่องน้ำดังกล่าว มีการลักลอบขุดกันมานานหลายปีแล้ว ซึ่งที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่อุทยานฯ เคยดำเนินการเพียงแจ้งลงบันทึกประจำวันไว้เท่านั้น แต่ไม่ได้ดำเนินการตรวจสอบเพื่อหาคนกระทำความผิดมาดำเนินการใดๆ
ทั้งนี้ภายหลังมีการแจ้งร้องเรียนเข้าไปยังกรมอุทยานฯ ล่าสุดนายโอภาส นวลมังสอ ผอ.ส่วนอุทยานฯ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 (นครศรีธรรมราช) สั่งการให้อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา เข้าตรวจสอบ โดยทางนายกรรณเกษม มีสุข หน.อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา ทำหนังสือตอบกลับ รายงานการตรวจสอบไปยังกรมอุทยานฯ ซึ่งเมื่อวันที่ 26 ก.ย.ที่ผ่านมาว่า ผลการตรวจสอบไม่พบสภาพการทำลายดังกล่าว ซึ่งขัดกับภาพถ่ายทางอากาศของกรมอุทยานฯ ที่มองเห็นชัดเจนทางอากาศว่าพื้นที่ดังกล่าวมีการขุดเป็นร่องน้ำจริง โดยทางกรมอุทยานฯ ได้นำภาพถ่ายทางอากาศตั้งแต่ปี 2538 ไล่เปรียบเทียบมาจนถึงปี 2561 พบมีการเปลี่ยนแปลงมาอย่างต่อเนื่อง โดยภาพถ่ายปี 2545 เป็นภาพที่ยังไม่มีการก่อสร้างรีสอร์ทดังกล่าว สภาพในทะเลหน้าหาดยังเป็นปกติ และภาพในปี 2549 ซึ่งมีการก่อสร้างรีสอร์ทแล้ว พบว่าสภาพในทะเลเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง กระทั่งภาพปี 2561 พบเป็นร่องน้ำชัดเจน
นอกจากนี้ชาวบ้านผู้ร้องเรียนเข้าไปยังกรมอุทยานฯ ยังระบุให้มีการตรวจสอบรีสอร์ท ซึ่งอยู่บริเวณด้านหน้าร่องน้ำดังกล่าว ว่าก่อสร้างรุกล้ำในเขตอุทยานฯ หรือไม่ ซึ่งผลการตรวจสอบของหน่วยอุทยานฯหมู่เกาะลันตา ระบุว่ารีสอร์ทดังกล่าว อยู่ในที่ดินเอกสารสิทธิ์ น.ส.3 ก. 4 ฉบับ รวมเนื้อที่กว่า 21 ไร่ ซึ่งขัดกับแนวเขตอุทยานฯ ที่ปรากฏว่า มีบางส่วนของรีสอร์ทดังกล่าว อาจจะรุกล้ำเข้าไปในเขตอุทยานฯ ทางชาวบ้านที่ร้องเรียนจึงอยากให้กรมอุทยานฯ ตรวจสอบเรื่องนี้อย่างละเอียดอีกครั้ง.
