ระบบนิเวศใต้ทะเลบริเวณอ่าวมาหยา หมู่เกาะพีพี ตำบลอ่าวนาง อำเภอเมืองกระบี่เริ่มฟื้นตัวดี หลังจากพบสัตว์ทะเลหายากหลายชนิด กลับมาหากินถิ่นฐานเดิม ทั้งปลาฉลามหูดำ ปลาฉลามวาฬ และเต่าตนุขนาดใหญ่
ขณะที่เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา หมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ นำเรือตรวจการณ์สำรวจแนวปะการังน้ำตื้น ที่บริเวณหน้าอ่าวมาหยา หมู่เกาะพีพี ตำบลอ่าวนาง อำเภอเมืองกระบี่ พบฝูงปลาฉลามหมูดำชนิดตัวสีดำ จำนวน 15 ตัว ความยาว ประมาณ 80 เซนติเมตร – 1 เมตร น้ำหนัก 15 – 20 กิโลกรัม กำลังแหวกว่ายหากินอาหารลูกปลาและแพลงตอน ที่ระดับน้ำลึก 30 เซนติเมตร ห่างจากชายหาด 50 เมตร โดยแหวกว่ายเป็นเวลานานถึง 3 ชั่วโมง จากนั้นจึงว่ายออกไปสู่แนวปะการังน้ำลึก ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยหากินช่วงเวลากลางวันและเป็นแหล่งหลบภัย
นายวรพจน์ ล้อมลิ้ม หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา หมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ กล่าวว่า การปรากฏตัวของปลาฉลามหูดำ เป็นครั้งที่สาม ที่บริเวณอ่าวมาหยา แต่ครั้งนี้ปลาฉลามหูดำที่พบเป็นตัวสีดำ ซึ่งไม่เหมือนกับที่พบสองครั้งที่ผ่านมาเป็นสีน้ำตาล ตั้งแต่กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชประกาศปิดอ่าวมาหยา เขตอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา และหมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2561 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน เป็นระยะเวลา 6 เดือน เพื่อฟื้นฟูสภาพสิ่งแวดล้อมทางใต้ทะเลและบนบก มีสัตว์น้ำขนาดใหญ่และชนิดที่หาดูได้ยากมากหวนกลับคืนมายังถิ่นอาศัยเดิมแล้ว เช่น ปลาฉลามหูดำที่พบเป็นครั้งที่สาม แต่ละฝูงมีจำนวนไม่เท่ากัน และมีลำตัวยาวและน้ำหนักที่แตกต่างกันออกไป ส่วนปลาฉลามวาฬเช่นเดียวกัน ครั้งแรกพบลำตัวยาว 6 – 7 เมตร น้ำหนักไม่ต่ำกว่า 3 พันกิโลกรัม ครั้งที่สองลำตัวยาว 4 เมตร น้ำหนักไม่ต่ำกว่า 1,500 กิโลกรัม รวมถึงเตาตนุ ลำตัวยาว 1 เมตร น้ำหนัก 35 กิโลกรัม
สัตว์น้ำเหล่านี้ล้วนแล้วมีถิ่นอาศัยเดิมในพื้นที่หมู่เกาะพีพี การหวนกลับคืนถิ่นเดิม นับว่าหลังปิดอ่าวมาหยา โดยเฉพาะบริเวณเทือกเขาที่เป็นเวิ้งอ่าวมีแนวปะการังน้ำตื้นและน้ำลึก เริ่มมีความอุดมสมบูรณ์ของสัตว์น้ำขนาดเล็กและขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นวัฏจักรห่วงโซ่ของอาหารสัตว์ที่ต้องพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน หากไม่ถูกรบกวนจากนักท่องเที่ยวหรือเรือมากเกินไป อีกไม่นาน เชื่อว่าจะได้พบเห็นสัตว์น้ำขนาดใหญ่ที่หาดูได้ยากอีกหลายสายพันธุ์ ที่กำลังจะเข้ากลับมายังถิ่นอาศัยเดิม
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: