รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน รองอธิบดีกรมการค้าภายใน และ ผู้บริหารการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ลงพื้นที่ จ.ชุมพร จ.ประจวบคีรีขันธ์ และ จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อติดตามการรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบสำหรับการผลิตไฟฟ้าที่โรงไฟฟ้าพลังความร้อนบางปะกง หน่วยที่ 3 จ.ฉะเชิงเทรา ตั้งแต่ต้นทาง วัตถุดิบ ลานเท โรงสกัดน้ำมันปาล์ม โดยมั่นใจว่าจะสามารถช่วยเกษตรกรได้ตามแผน
ดร.ศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน (รมว.พน.) พร้อมด้วย นายฉัตรชัย ศักดิ์ศิลปชัย รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ และนายธวัชชัย จักรไพศาล รองผู้ว่าการเชื้อเพลิง กฟผ. ลงพื้นที่ จ.ชุมพร จ.ประจวบคีรีขันธ์ และ จ.สุราษฎร์ธานี ระหว่างวันที่ 7 – 8 ธันวาคม 2561 ติดตามการรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบสำหรับการผลิตไฟฟ้าที่โรงไฟฟ้าพลังความร้อนบางปะกง หน่วยที่ 3 จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อสร้างความมั่นใจว่าการรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบ ตั้งแต่วัตถุดิบ, จุดรับซื้อผลปาล์ม, ลานเท รวมทั้งขั้นตอนการผลิตในโรงสกัดน้ำมันปาล์ม สถานที่เก็บน้ำมันปาล์มดิบ ตลอดจน ท่าเรือขนส่ง มีความพร้อมและสามารถดำเนินการให้การนำน้ำมันปาล์มดิบมาใช้เป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าร่วมกับก๊าซธรรมชาติที่โรงไฟฟ้าบางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา บรรลุผลสำเร็จตามที่วางแผนไว้
ที่โรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม “บมจ.ชุมพรอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม” เพื่อดูกระบวนการผลิตและสถานที่เก็บน้ำมันปาล์มดิบ และเดินทางไปยังจุดรับซื้อผลปาล์มตาเงาะ ต.สลุย และจุดรับซื้อผลปาล์มตาหงษ์ ต.หงส์เจริญ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร พร้อมทั้งเยี่ยมลานเท และพบปะเกษตรกรเพื่อรับฟังสถานการณ์ราคาผลปาล์มสดในพื้นที่ หลังจากนั้นเดินทางไปที่ท่าเรือประจวบ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อดูความพร้อมของท่าเรือที่จะใช้สำหรับ การขนส่งน้ำมันปาล์มดิบไปโรงไฟฟ้าบางปะกง และในวันที่ 8 ธันวาคม 2561 ได้เดินทางไปดูงานที่ท่าเรือ บริษัทโกลบอล อินเตอร์ จำกัด อ.ดอนสัก จ.สุราษฎร์ธานี และเยี่ยมชมสถานที่เก็บน้ำมันปาล์ม และท่าเรือ บริษัท PK Marine Trading หลังจากนั้นเดินทางไปที่โรงสกัดน้ำมันปาล์ม บริษัท กรีนลอรี่ จำกัด อ.ท่าฉาง จ.สุราษฎร์ธานี
ทั้งนี้ได้ร่วมกับหน่วยราชการส่วนท้องถิ่น นำโดยนายสนิท ศรีวิหค รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร และนายธีระ อนันตเสรีวิทยา รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี และผู้ประกอบการ สร้างความมั่นใจว่าการรับซื้อผลปาล์ม การสกัดและการขนส่งน้ำมันปาล์มดิบมาใช้เป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าร่วมกับก๊าซธรรมชาติที่โรงไฟฟ้าบางปะกง หน่วยที่ 3 ปริมาณ 160,000 ตัน นั้น จะสามารถช่วยพยุงราคาผลปาล์มให้อยู่ในระดับสูงกว่า 3 บาท/กก. ได้ตามแผน โดย กฟผ. จะเริ่มทยอยรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบเพื่อทดสอบระบบภายในเดือนธันวาคมนี้ และจะใช้น้ำมันปาล์มดิบเดือนละ 30,000 ตัน อย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม 2562 เป็นต้นไป และจะสิ้นสุดโครงการในเดือนกรกฎาคม 2562 รวมระยะเวลาดำเนินโครงการทั้งสิ้น 6 เดือน
