สำนักงานการยางแห่งประเทศไทย สาขาเมืองกระบี่ ลงพื้นที่ ตำบลทับปริก ให้เกษตรกรชาวสวนยางพารา ยื่นเอกสาร ยืนยันสิทธิ์รับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาล ไร่ละ 1,800 บาท แต่ไม่เกิน 15 ไร่ ขณะที่ผอ.สำนักงานการยางแห่งประเทศไทย สำนักงานกระบี่ พร้อมเปิดให้เกษตรกรมาลงทะเบียนอีกครั้ง วันที่ 25 ธ.ค.61นี้ ณ ที่ทำการกำนันตำบลทับปริก
วันที่ 13 ธ.ค. 61 ที่ทำการกำนันตำบลทับปริก อ.เมือง จ.กระบี่ สำนักงานการยางแห่งประเทศไทย สาขาเมืองกระบี่ พร้อมเจ้าหน้าที่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน จัดพื้นที่รองรับลงทะเบียนให้กับเกษตรกรชาวสวนยางพาราในพื้นที่ตำบลทับปริก ที่เดินทางมายื่นเอกสารยืนยันสิทธิ์เป็นจำนวนมาก เพื่อรับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาล ไร่ละ 1,800 บาท/ไร่ แต่ไม่เกิน 15 ไร่ /ราย ต้องเป็นสวนยางพาราที่ เปิดกรีดจริง หากมีคนกรีดยางจะแบ่งจ่าย 2 ส่วน คือ ให้เจ้าของสวนยาง ผู้เช่าหรือผู้ทำสวนยาง 1,100 บาท/ไร่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ปรับปรุงคุณภาพผลผลิต และให้คนกรีดยาง 700 บาท/ไร่ เพื่อเป็นค่าครองชีพ เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการฯ ต้องเป็นเกษตรกรชาวสวนยางที่มีสวนยางในพื้นที่มีเอกสารสิทธิ์ที่เปิดกรีดแล้วเท่านั้น
ข่าวน่าสนใจ:
นายธนู ประเสริสกุล ผอ.สำนักงานการยางแห่งประเทศไทย สาขาเมืองกระบี่ กล่าวว่า ในจังหวัดกระบี่มีเกษตรกรสวนยางพารา ที่ขึ้นทะเบียนไว้ก่อนหน้านี้จำนวนมากกว่า 30,200 คน ผู้ที่จะได้สิทธิในการช่วยเหลือ จะต้องเป็นผู้ลงทะเบียนเกษตรกรก่อนวันที่ 14 พ.ย.61 เกษตรกรสวนยางพาราในพื้นที่ตำบลทับปริก ที่มายื่นเอกสารแล้ว เกิดข้อ ผิดพลาด เอกสารไม่ครบ ในวันนี้ ทางสำนักงานการยางแห่งประเทศไทย สาขาเมืองกระบี่ จะเปิดโอกาสให้เกษตรกร สามารถมายื่นเอกสารเพื่อยืนยันสิทธิได้อีกครั้งในวันที่ 25 ธ.ค. นี้ ณ ที่ทำการกำนันตำบลทับปริก ได้อีกครั้ง เพื่อที่จะให้เกษตรกรได้รับเงินช่วยเหลือจากรัฐ ในวันที่ 28 ธ.ค.นี้พร้อมกัน
ในส่วนของเกษตรกรสวนปาล์มน้ำมัน ที่มีการขึ้นทะเบียนเอาไว้ 5 หมื่นกว่าราย ซึ่งในวันที่ 20 ธันวาคมเป็นต้นไป จะมีการตรวจสอบสิทธิการรับความช่วยเหลือ เพื่อให้ได้รับเงินช่วยเหลือในวันที่ 28 ธันวาคมนี้ ซึ่งเกษตรกรสวนปาล์มในพื้นที่ตำบลทับปริก ให้ไปยื่นเอกสารได้ที่เกษตรอำเภอเมืองกระบี่ ซึ่งเกษตรกรจะต้องมีสวนปาล์มน้ำมัน ที่ให้ผลผลิตแล้ว (อายุมากกว่า 3 ปี) ช่วยเหลือตามพื้นที่ปลูกจริงในอัตราไร่ละ 1,500 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 15 ไร่ มีเงื่อนไข ดังนี้ 1.ต้องเป็นเกษตรกรที่มีสัญชาติไทย 2.มีพื้นที่ปลูกจริง พื้นที่ปลูกที่ต้องมีเอกสารสิทธิ์ถูกต้อง เพื่อใช้ยื่นรับสิทธิ์ได้รับการช่วยเหลือ 3.ชดเชยไม่เกิน 15 ไร่ ไร่ละ 1,500 บาท เกษตรกรจะได้รับเงิน 22,500 บาท 4.สวนปาล์มน้ำมันนั้นต้องออกผลผลิตแล้ว
ด้านนายอาทิตย์ ในสระ เกษตรกรสวนยางพารา ในพื้นที่ ต.ทับปริก กล่าวว่า เงินที่รัฐบาลช่วยเหลือถือเป็นเงินช่วยเกษตรกรในระยะสั้นเท่านั้น เพื่อให้เกษตรกรพอมีเงินหมุนเวียนเป็นค่าใช้จ่าย แต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้อะไรเสียเลย สิ่งที่ต้องการมากที่สุดคือราคายางพาราที่มั่นคงมากกว่า การที่ตนเองมายื่นเอกสารในวันนี้ ทำไปตามสิทธิที่พึงจะได้รับการช่วยเหลือจากรัฐบาลเท่านั้นเอง
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: