วันที่ 10 เมษายน 61 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า ที่สระมรกต ภายในเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าเขาประ-บางคราม อ.คลองท่อม จ.กระบี่ แหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดกระบี่ ถูกคนมือบอนใช้ของแข็งไปขีดเขียนตามโขดหินขอบสระ ซึ่งเป็นหินดินดาน รูปภาพต่างๆทำลายทัศนียภาพและความสวยงามของสระมรกต
ตรวจสอบข้อเท็จจริงพบมีทั้งนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติจำนวนมาก เดินทางมาท่องเที่ยวภายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาประ-บางคราม พร้อมลงเล่นน้ำภายในสระมรกต อย่างสนุกสนาน แต่บริเวณโขดหินรอบขอบสระซึ่งมีลักษณะคล้ายกับหินดินดาน กลับมีรอยขีดเขียน สลักชื่อด้วยของแข็ง เป็นหนังสือคล้ายกับภาษาอังกฤษ บ้างก็ลากเป็นทางยาว ไม่มีความหมาย
ซึ่งนักท่องเที่ยวบางคนบอกว่าเห็นแล้วหดหู่ และไม่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง กับรอยขีดเขียนบนแผ่นหินขอบสระมรกต ที่เกิดขึ้น เนื่องจากสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้เป็นสิ่งที่ล้ำค่า และเป็นอันซีนของจังหวัดกระบี่ หากปล่อยไว้จะมีคนขีดเขียนเพิ่มเติมอีกอย่างแน่นอน เชื่อน่าจะเป็นการขีดเขียนเพื่อเป็นที่ระลึก ว่าครั้งหนึ่งเคยได้มาเที่ยวที่ตรงนี้ จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ได้มีการติดป้ายเตือนให้นักนักท่องเที่ยวเห็นถึงความสำคัญของสถานที่แห่งนี้
ข่าวน่าสนใจ:
- ชิง ส.อบจ.เพชรบูรณ์ ส่อเดือด! นักการเมืองรุ่นใหม่ทยอยเปิดตัว ท้าชนแชมป์เก่า
- เดือดกลางวอล์กกิ้ง ปมขัดแย้งร้านบีบีกัน ควงมีด ควงปืน หมายเปิดศึก พลเมืองดีห้ามวุ่น หวั่นนทท.ถูกลูกหลง
- บุรีรัมย์ โรงเรียนอนุบาลบุรีรัมย์ จัดโครงการ “พัฒนาวิชาการ ส่งเสริมคุณธรรม ก้าวทันเทคโนโลยี ระดับปฐมวัย”
- บุรีรัมย์ ปล่อยแถวระดมกวาดล้าง ตรวจค้น ยาเสพติด ก่อนปีใหม่
ด้านนายวุฒิพงษ์ ชูสังฆ์ราช หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาประ-บางคราม กล่าวว่า รอยขีดเขียนที่เกิดขึ้นตามโขดหินรอบขอบสระมรกตได้สั่งกำชับให้เจ้าหน้าที่เพิ่มความเข้มงวดในการสอดส่องดูแลพฤติกรรมกลุ่มนักท่องเที่ยวบริเวณสระมรกต และให้ประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวทราบ
หากพบหรือเจอในขณะขีดเขียน เบื้องต้นก็จะว่ากล่าวตักเตือนก่อน พร้อมทำประวัติไว้แล้วเชิญออกจากพื้นที่ทันที แต่หากพบการกระทำซ้ำซากก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป แต่อย่างไรก็ตามการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ก็ยากที่จะตรวจสอบพบเห็นในขณะที่นักท่องเที่ยวกำลังขีดเขียน เนื่องจากแต่ละวันนักท่องเที่ยวใช้บริการบริเวณสระมรกตจำนวนมาก แต่อัตรากำลังเจ้าหน้าที่ดูแลมีจำกัดจึงไม่สามารถดูแลได้ทั่วถึง
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: