กฟผ. เตรียมเปิดใช้ระบบกักเก็บพลังงานหมุนเวียนแบบไฮบริดจับคู่พลังงานลมกับเซลล์เชื้อเพลิงแห่งแรกในเอเชีย เพื่อพัฒนาต่อยอดนวัตกรรมในการเพิ่มขีดความสามารถของพลังงานหมุนเวียนในอนาคตอย่างยั่งยืน
นายสหรัฐ บุญโพธิภักดี รองผู้ว่าการพลังงานหมุนเวียนและพลังงานใหม่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กล่าวว่า กฟผ. กำลังดำเนินการพัฒนานวัตกรรมต้นแบบของระบบกักเก็บพลังงานจับคู่กับการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลม เพื่อช่วยลดข้อจำกัดและแก้ปัญหาความไม่เสถียรของการผลิตไฟฟ้าที่จ่ายไฟฟ้าได้เพียงบางช่วงเวลาซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียนในอนาคตของไทย โครงการกังหันลมผลิตไฟฟ้าลำตะคอง ระยะที่ 2 ตั้งอยู่บริเวณพื้นที่อ่างเก็บน้ำบนเขายายเที่ยง อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพพลังงานลมในการผลิตไฟฟ้ามากที่สุดในประเทศไทย โดยติดตั้งกังหันลมจำนวน 12 ต้น กำลังผลิตรวม 24 เมกะวัตต์ ซึ่งจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบได้ตั้งแต่วันที่ 13 ธันวาคมปีที่แล้ว
ปัจจุบัน กฟผ. กำลังดำเนินการต่อยอดนำระบบพัฒนาเสถียรภาพการผลิตไฟฟ้าจากกังหันลม (Wind Hydrogen Hybrid) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีกักเก็บพลังงานไฟฟ้าจากกังหันลมในรูปของก๊าซไฮโดรเจน เพื่อนำมาจับคู่กับเซลล์เชื้อเพลิง (Fuel Cell) ผลิตไฟฟ้าขนาด 300 กิโลวัตต์ สำหรับจ่ายไฟฟ้าให้กับศูนย์การเรียนรู้ กฟผ. ลำตะคอง ทั้งนี้ ประเทศไทยถือเป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเชียที่นำเอานวัตกรรมดังกล่าวมาใช้กักเก็บพลังงานไฟฟ้าจากกังหันลมซึ่งจะช่วยให้สามารถจ่ายไฟฟ้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงจะใช้เป็นแหล่งเรียนรู้สำคัญในด้านการพัฒนาระบบกักเก็บพลังงานหมุนเวียน
นอกจากนี้ กฟผ. อยู่ระหว่างติดตั้งเครื่องกำเนิดไฟฟ้าพลังน้ำลำตะคองแบบสูบกลับ เครื่องที่ 3 และ 4 ซึ่งเมื่อแล้วเสร็จจะช่วยเพิ่มกำลังผลิตติดตั้งรวมถึง 1,000 เมกะวัตต์ เป็นเสมือนแบตเตอรี่กักเก็บพลังงานไฟฟ้าของ ภาคอีสานที่จะช่วยเสริมความมั่นคงของระบบไฟฟ้าในภาคอีสานได้อีกส่วนหนึ่ง และช่วยลดการปล่อย ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 2.6 แสนตันต่อปี
กฟผ. มุ่งพัฒนานวัตกรรมเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบใหม่ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียนของประเทศในอนาคต และช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตามกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศสมัยที่ 21 (COP21)
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: