อ่าวมาหยา เริ่มฟื้นฟูปลูกปะการังในทะเลและต้นไม้บนบก ช่วงปิดอ่าว 4 เดือน ขณะที่ชาวเกาะขอให้ประชาสัมพันธ์ให้ทั่วถึงว่าปิดแค่อ่าวมาหยา หวั่นกระทบการท่องเที่ยวหมู่เกาะพีพี
นายจงคล้าย วรพงศธร รองอธิบดี กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ดร ทรงธรรม สุขสว่าง ผอ สำนักอุทยานแห่งชาติ นายสุพจน์ เพริดพริ้ง ผอ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักที่ 5 นายวรพจน์ ล้อมลิ้ม หน.อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี พร้อมด้วยผู้เกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่อ่าวมาหยา แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของจ.กระบี่ ที่เกาะพีพี ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ เพื่อแถลงถึงแนวทางการฟื้นฟู บริเวณอ่าวมาหยา หมู่เกาะพีพี ตำบลอ่าวนาง อำเภอเมืองกระบี่ ในระหว่าง การประกาศปิดตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2561 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2561 เพื่อฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติทั้งบนบกและใต้ทะเลในช่วงฤดูมรสุม เป็นระยะเวลา 4 เดือน
โดยการฟื้นฟูครั้งนี้ ใช้วิธีการขยายพันธุ์ปะการังด้วยวิธี โครรอล โปรเท็คชั่น coral propagation โดยการนำเศษปะการังที่แตกหักมาใช้ในการขยายพันธุ์ และการทำ coral tree เพื่อเตรียมกิ่งพันธุ์ เป็นแนวทาง ใช้ในการปลูกขยายพันธุ์ปะการัง เนื่องจากทรัพยากรแนวปะการัง ได้รับความเสียหายเป็นอย่างมากจากกิจกรรมการท่องเที่ยว ได้แก่ กิจกรรมการดำน้ำตื้น การทิ้งสมอเรือ การเข้า-ออกของเรือของเรือนำเที่ยว ซึ่งในแต่ละวันมีจำนวนนักท่องเที่ยวเฉลี่ย 3 -4 พันคน พบว่าแนวปะการังบริเวณใกล้ชายหาด ซึ่งมีเรือเข้าออกตลอดเวลาไม่มีปะการังที่มีชีวิตเหลืออยู่
รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธ์พืช กล่าวว่า ในช่วงการปิดอ่าวมาหยา จะห้ามทำกิจกรรมการท่องเที่ยวบริเวณอ่าวมาหยาโดยเด็ดขาด แต่อนุญาตให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวนำเรือเข้ามาลอยลำนอกบริเวณแนวทุ่นไข่ปลาที่กั้นแนวเขตห้ามเข้าไว้ ระหว่างนี้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จะดำเนินการแก้ไขปัญหาการพังทลายของเนินทรายหน้าชายหาด โดยการปลูกพันธุ์ไม้ป่าชายหาด โดยคัดเลือกชนิดพันธุ์ที่มีอยู่ในพื้นที่ เช่น รักทะเล เตยทะเล สวาด คันทรง เป็นต้น เพื่อช่วยยึดหน้าดิน ป้องกันการพังทลายของเนินทรายหน้าชายหาด และมีการติดตามการเปลี่ยนแปลงของสังคมพืช ขณะเดียวกันวันนี้ ทางตัวแทนชาวเกาะพีพี ได้เดินทางมายื่นหนังสือขอให้มีการประชาสัมพันธ์ให้ทั่วถึงว่ามีการปิดแค่อ่าวมาหยาเท่านั้น ส่วนอื่นๆ ไม่เกี่ยวข้อง เพราะหวั่นว่าจะกระทบต่อการท่องเที่ยวของหมู่เกาะพีพี
