มัสยิดทั้งจังหวัดในจังหวัดปัตตานีเปิด ชาวมุสลิมร่วมละหมาดวันศุกร์ ส่งท้ายรอมฎอน หลังผู้ว่าผ่อนปรนคุมเข้มโควิด
วันที่ 22 พค. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการละหมาดวันศุกร์ หลังจาก นายไกรศร วิศิษฎ์วงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ได้ผ่อนปรนให้มัสยิดใน 12 อำเภอของ จ.ปัตตานีสามารถปฏิบัติศาสนกิจได้ หลังจากเมื่อวันที่ 15 พค.ที่ผ่านมา มีบางมัสยิดในพื้นที่ กว่า 200 แห่งได้เปิดมัสยิดให้ทำการละหมาดวันศุกร์ หรือละหมาดญุมอะห์ได้ โดยมีการลงทะเบียนคัดกรองผู้ที่จะเข้าละหมาดทุกคนอย่างเข้มงวด
สำหรับการละหมาดวันศุกร์วันนี้เป็นครั้งที่สองของพี่น้องมุสลิมในจังหวัดปัตตานี ซึ่งบรรยากาศโดยทั่วไปที่มัสยิดรายอ ต.จะบังติกอ อ.เมือง จ.ปัตตานีได้มีพี่น้องมุสลิมเป็นจำนวนมากต่อแถวรอคิวในการตรวจคัดกรอง สอบถามข้อมูล และ วัดอุณหภูมิ จากนั้นเข้าไปยังมัสยิดเตรียมฟังการบรรยายธรรม และร่วมละหมาดวันศุกร์พร้องกัน โดยมีการเว้นช่วงระยะห่าง 1.5 เมตร ซึ่งการทำละหมาดวันศุกร์หรือญุมอะห์ครั้งนี้ ทุกอย่างมีการจัดระบบต่างๆ เป็นไปอย่างความเรียบร้อย พี่น้องมุสลิมให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 15 พค.ที่ผ่านมานั้น มีมัสยิดประมาณ 200 แห่งได้เปิดให้พี่น้องมุสลิมได้เข้าไปทำการละหมาดวันศุกร์เป็นครั้งแรกหลังจากได้หยุดทำการละหมาดกว่า 1 เดือนเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 และผู้ที่มาละหมาดได้ปฏิบัติอย่างเคร่งครัด อีกทั้งให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี จนนำไปสู่วันนี้ วันที่ 22 พค ที่สามารถเปิดมัสยิดละหมาดได้อีกครั้ง ทำให้มัสยิดทุกมัสยิดในจังหวัดปัตตานีมีความพร้อมและจำนวนเพิ่มมากขึ้นกว่า 350 มัสยิดใน 12 อำเภอ อีกทั้งถือเป็นการส่งท้ายละหมาดวันศุกร์ของเดือนรอมฎอนอีกด้วย
ขณะเดียวกัน วันที่ 22 พค. ทางสำนักจุฬาราชมนตรีได้มีประกาศเรื่องการดูดวงจันทร์ จึงประกาศให้พี่น้องชาวไทยมุสลิมทั่วประเทศดูดวงจันทร์ ในวันศุกร์ที่ 22 พฤษภาคม 2563 เวลาหลังดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า เพื่อกำหนดวันที่ 1 เดือนเซาวาล (วันอีฎิ้ลฟิตริ) ฮิจเราะห์ศักราช 1441 คาดว่าจะมีพี่น้องมุสลิมร่วมละหมาดตามมัสยิดต่าง ๆ ในวันฮารีรายออีฎิ้ลฟิตริ ครอบคลุม 700 กว่ามัสยิดทั้งจังหวัดปัตตานี
อย่างไรก็ตาม ในส่วนที่เป็นคำแนะนำของท่านจุฬาราชมนตรี ที่เป็นมติแนะนำจากป้องกันโรคติดต่อจังหวัด เช่น การไม่ให้คนหนาแน่นเกินไป การกำกับดูแลการเข้า – ออกให้รวดเร็ว ไม่ใช้เวลาในมัสยิดเกินกว่าที่กำหนด อีกทั้งมาตรการป้องกันโรคต่าง ๆ ให้มีการสวมหน้ากากอนามัย อาบน้ำละหมาดจากบ้าน เอาผ้าละหมาดมาจากบ้าน และในมัสยิดจะต้องเว้นระยะห่างทางสังคม 1.5 ถึง 2 เมตร โดยทางกระทรวงมหาดไทย ได้จัดชุดปฏิบัติการระดับอำเภอ ไปดูแลช่วยส่งเสริมสนับสนุนเพิ่มเติม ให้อีหม่ามประจำมัสยิดเป็นผู้รับผิดชอบ มีที่ปรึกษา 4- 5 คน จะช่วยสนับสนุนเพื่อให้เป็นไปตามระเบียบมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด19
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: