ปัตตานี- ไฟใต้ระอุ ! ระเบิดรถน้ำมันในปั้มถล่มเละ คนร้ายตะโกนไล่พนักงานแล้ววางระเบิด
เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 17 สค. พ.ต.อ.คมกฤช ศรีสงค์ ผกก.สภ.หนองจิก จ.ปัตตานี ได้รับแจ้งเกิดเหตุระเบิดและเพลิงไหม้ปั้มน้ำมันบางจาก เลขที่ 200/1 บ้านดอนยาง ม.8 ต.บ่อทอง บริเวณริมถนนสายปัตตานี-หาดใหญ่ หลังได้รับแจ้งจึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมประสานรถดับเพลิงของเทศบาลตำบลบ่อทอง จำนวน 3 คัน และนำกำลังไปที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยพันเอกทวีพร คณะทอง ผบ.ฉก.ทพ.43 เมื่อไปถึงพบว่าเพลิงกำลังลุกไหม้อย่างรุนแรงภายในปั้มบริเวณหัวจ่ายโดยมีรถบรรทุกน้ำมันอีก 1 คันซึ่งอยู่บริเวณหัวจ่ายด้วย เจ้าหน้าที่จึงได้ปิดกั้นพื้นที่บริเวณที่เกิดเหตุพร้อมกับเร่งฉีดน้ำเพื่อดับเพลิงที่กำลังลุกไหม้ เนื่องจากเกรงว่าจะลุกลามไปติดร้านค้าซึ่งอยู่บริเวณปั้มเจ้าหน้าที่ใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมงจึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบว่า เพลิงได้เผาผลาญอาคารซึ่งเป็นหลังคาของปั้มจนถล่มลงมาบางส่วน หัวจ่ายน้ำมัน จำนวน 4 จุด รถบรรทุกน้ำมัน 10 ล้อ และรถบรรทุกแบบพ่วง 18 ล้อซึ่งจอดไว้ข้างปั้ม อีก 2 คัน เสียหายอย่างหนัก แต่โชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
ข่าวน่าสนใจ:
จากการสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่า ปั้มน้ำมันดังกล่าวได้เปิดให้บริเวณทั้งวันตลอด 24 ชั่วมง โดยก่อนเกิดเหตุมีพนักงานปั้ม จำนวน 2 คนทำงานปกติในช่วงกะกลางคืน ปรากกว่าได้มีคนร้าย 4 คนใช้รถ จยย.เป็นพาหนะ จำนวน 2 คันขับเข้ามาจอดและตะโกนว่ามีระเบิดพร้อมไล่ให้พนักงานหนีออกจากปั้ม จากนั้นคนร้ายได้ปีนขึ้นไปบนถังน้ำมันรถบรรทุก 10 ล้อที่จอดไว้ใกล้กับหัวจ่ายน้ำมัน ก่อนทำการปิดฝาถังน้ำมันที่มีน้ำมันอยู่ประมาณ 2 พันลิตร จากนั้นได้นำระเบิดแสวงเครื่องวางไว้ ก่อนที่จะหลบหนีไป ประมาณ10 นาทีก็ได้เกิดระเบิดขึ้นเสียงดังสนั่นหวั่นไหว และเพียง 1 นาทีได้ระเบิดขึ้นอีก 1 ครั้งทำให้น้ำมันที่อยู่ภายในถังน้ำมันรถบรรทุกพุ่งกระจายเป็นเปลวไฟลุกลามไปทั่วปั้มเกิดเพลิงไฟอย่างรุนแรงแต่โชคดีที่เจ้าหน้าที่สามารถระงับเหตุได้ก่อนที่เพลิงจะลุกลามร้านค้าต่างบริเวณรอบ ๆ ของปั้ม
หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ได้ปิดกั้นบริเวณที่เกิดเหตุ เพื่อรอเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสวบสวนและพิสูจน์หลักฐานเข้าพื้นที่ตรวจสอบหาวัตถุพยานในช่วงเช้าอีกครั้ง ด้าน พันเอกทวีพร คณะทอง ผบ.ฉก.ทพ.43 เจ้าหน้าที่มีการระดมกำลังไล่ล่ากลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุ และทำการปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายหลายจุด เชื่อว่าคนร้ายน่าจะเป็นกลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่ ส่วนเหตุการณ์ครั้งนี้เชื่อว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่
เช่นเดียวกับที่ อ.ทุ่งยางแดง ในเวลาไล่เลี่นกัน พ.ต.อ.จิระวัฒน์ ดูดิง ผกก. ได้รับแจ้งว่ามีเหตุเพลิงไหม้ บิ๊กซีมินิมาคร์ ตั้งอยู่ที่ ต.น้ำดำ จึงได้ประสานรถดับเพลิงเข้าระงับ เมื่อไปถึงก็พบว่าเพลิงยังลุกภายสินค้าที่อยู่ภายในร้าน เจ้าหน้าที่จึงได้ฉีดน้ำสกัดเพลิงไว้ได้จากการตรวจสอบพบว่าเพลิงได้เผาทำร้ายสินค้าภายในร้านได้รับความเสียหาย มูลค่าประมาณ 4 แสนบาท
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ พนักงานของร้านทำงานปกติ คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้รถ จยย.เป็นพาหนะจอดหน้าร้าน ก่อนจะทุบทำลายกระจกจนแตกแล้วปาระเบิดเพลิงเข้าไปด้านในร้านจนเป็นเหตุให้ไฟไหม้ พนังงานในร้านต่างวิ่งหนีตายออกมาด้วยความตกใจ หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบพบชิ้นส่วนระเบิดเพลิงจึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน และเชื่อว่าน่าจะเป็นการสร้างสถานการณ์
จากนั้นเมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 17 สค. พล.ต.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ รองผอ.กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า พ.อ.ทวีพร คณะทอง ผบ.ฉก.ทพ.43 ได้เดินทางเข้าตรวจสอบเหตุคนร้ายบุกเข้าไปลอบวางระเบิดและเผา ปั้มน้ำมันบางจาก เลขที่ 200/1 บ้านดอนยาง ม.8 ต.บ่อทอง บริเวณริมถนนสายปัตตานี-หาดใหญ่ อ.เมืองปัตตานี เป็นเหตุให้ปั้มน้ำมันดังกล่าวได้รับความเสียหายอย่างหนัก เหตุเกิดเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา
ซึ่งตั้งแต่เช้าวันนี้ เจ้าหน้าที่ได้ทำการปิดเส้นทางขาขึ้น อ.หาดใหญ่ และปิดกั้นบริเวณที่เกิดเหตุไม่ให้บุคคลอื่นเข้าไปเด็ดขาด เนื่องจากสถานที่เกิดเหตุยังไม่มั่นใจในความปลอดภัย เกรงว่าคนร้ายจะลวงแผนซ้ำซ้อนอย่างที่เคยเกิดขึ้น ขณะที่ภายในปั้มดังกล่าวได้มีเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบเพื่อหาวัตถุพยานในที่เกิดเหตุ ซึ่งภายหลังเกิดเหตุและตรวจสอบพบว่า หลังคาปั้มบริเวณที่คนร้ายลอบวางระเบิดรถบรรทุกน้ำมันที่จอดอยู่ติดกับหัวจ่ายน้ำมันได้พังลงมาทั้งแทบเหลือเพียงหลังคาด้านหน้าที่ถูกไฟไหม้เสียหาย นอกจากนี้เพลิงได้เผาแคชเชียร์ปั้ม หัวจ่ายน้ำมันทั้ง 4 หัวและอุปกรณ์ต่าง ๆ ถูกไฟไหม้เสียหายทั้งหมด เช่นเดียวกับรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อที่จอดไว้ด้านข้างได้รับความเสียหายไปด้วย จำนวน 2 คัน
พล.ต.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ รอง ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า การก่อเหตุครั้งนี้ ที่ผ่านมากลุ่มคนร้ายได้พยายามสะสมอาวุธและวัตถุระเบิดเพื่อเตรียมจะก่อเหตุตั้งแต่ในช่วงเดือนรอมฎอนที่ผ่านมา ได้มีการโจมตีสถานีตำรวจน้ำที่ อ.ตากใบจ.นราธิวาส ลอบวางระเบิดป้อมจุดตรวจปาลัส อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ล่าสุดครั้งนี้ ที่ ปั้มน้ำมันบางจาก อ.หนองจิก ที่คนร้ายได้เข้าโจมตีเมื่อคืนที่ผ่านมา ซึ่งเป็น 1 ใน 17 จุดในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยภาพรวมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมาตั้งแต่เวลาหลังเที่ยงคืน คนร้ายได้ก่อเหตุพร้อมกันทั้ง 3 จังหวัด ปัตตานี 2 จุด ยะลา 6 จุด และ นราธิวาส 9 จุด โดยทั้ง 17 จุด โดยเป็นร้านสะดวกซื้อ เซเว้น 11 จุด ร้านบิ๊กซีมินิมาค์ร 4 จุด เสาส่งสัญญาณโทรศัพท์ 1 จุด และปั้มน้ำมัน1 จุด ซึ่งปั้มน้ำมันหน้าจะได้รับความเสียหายมากที่สุด ซึ่งทั้ง 17 จุดคนร้ายได้แต่งกายอำพรางคลายผู้หญิง ใช้รถจยย.เป็นพาหนะ ก่อเหตุโดยการใช้ระเบิดเพลิงปาเข้าไปภายในร้านสะดวกซื้อ บางส่วนก็ได้นำระเบิดเข้าไปวางในร้าน ขณะที่ปั้มน้ำมันบางจาก คนร้ายได้ลอบวางระเบิดที่รถบรรทุกน้ำมันที่จอดไว้ใกล้กับหัวจ่ายน้ำมัน ทำให้เกิดเหตุระเบิดจนสร้างความเสียหายจำนวนมาก ซึ่งทาง แม่ทัพภาคที่ 4 ได้สั่งการให้หน่วยเร่งดำเนินการตามขั้นตอนโดยเฉพาะการนิรภัยพื้นที่ให้มีความปลอดภัย ก่อนที่จะให้เจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบหาวัตถุพยานเพื่อที่จะพดำเนินการต่อกลุ่มคนร้าย
จากเหตุการณ์ในครั้งนี้เป็นหนึ่งความพยายามของกลุ่มคนร้าย แต่ยังไม่สามารถที่จะสรุปปัจจัยที่เป็นมูลเหตุจูงใจว่าก่อเหตุในประเด็นอะไร แต่ก็ยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง ไม่ว่าจะเป้นเรื่องของการพูดคุยสันติสุข ประเด็นทางการเมือง หรือความขัดแย้งอื่น ๆ ซึ่งต้องรอให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกในรอบด้าน สิ่งที่เป็นเรื่องเร่งด่วนขณะนี้คือการรวบรวมวัตถุพยานเพื่อดำเนินการกับคนร้าย และ เร่งสำรวจความเสียหายทุกพื้นที่เพื่อทำการช่วยเหลือเยียวยา ถึงแม้ว่าคนร้ายจะพยายามก่อเหตุสร้างสถานการณ์ก็ตาม ทาง กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ยังยึดมันในแนวทางสันติในการแก้ปัญหา และการบังคับใช้กฎหมาย สำคัญคือ เรื่องปรับแผนในการใช้กำลังจรยุทธเข้าพื้นที่ล่อแหลมและเสี่ยงภายให้มากขึ้น และการพูดคุยเพื่อสันติสุขก็ยังเดินทางต่อไป
ส่วนกระแสข่าวที่ว่าการก่อเหตุครั้งนี้อาจจะเชื่อมโยงเรื่องการเรียกค่าคุ้มครองนั้นพล.ต.ปราโมทย์ กล่าวว่า ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเป็นเหตุจูงใจของคนร้ายหรือไม่ แต่สิ่งที่เป็นเหตุจงใจของกลุ่มก่อความไม่สงบตลอด 18 ปีที่ผ่านมานั้น คือการก่อเหตุต่อชีวิตประชาชน การทำร้ายภาพลักษ์ทางเศรษฐกิจ การทำร้ายทรัพย์สิน ทำร้ายระบบสาธารณูปโภค ฉะนั้นถ้าย้อนกลับไปดูสถานการณ์ครั้งล่าสุดหลังจากที่มีการพูดคุยสันติเมื่อวันที่ 2 สค.ที่ผ่านมา จากนั้นเพียงวันเดียว คนร้ายก็ได้สังหารประชาชนหาของป่าโจมตีขบวนรถไฟ สายสุไหงโกลก ก่อเหตุลอบวางระเบิดหาดบ้านทอน ล่าสุดเมื่อวานได้วางลอบชาวบ้านที่หาของป่าและวางระเบิดซ้ำเจ้าหน้าที่เก็บกู้ระเบิด ที่ อ.สุไหงปาดี จนมาถึงเหตุการณ์เมื่อคืนที่ผ่านมา การก่อเหตุของคนร้ายยังคงยืนยันในเจตนาเดิมคือการมุ่งทำร้ายประชาชนและภาพลักษณ์ทางเศรษฐกิจและทำร้ายระบบอำนาจรัฐ ซึ่งจากนั้นก็ต้องเร่งรัดจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุให้ได้เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนให้เร็วที่สุด โดยเฉพาะพี่น้องชาวไทยพุทธที่บอบบางที่สุดและส่งผลกระทบต้อสังคมในวงกว้าง การยิงรถไฟซึ่งเป็นพาหนะของคนจนสร้างความเดือดร้อนต่อประชาชน การวางระเบิดร้านสะดวกซื้อซึ่งถือว่าเป็นสัญลักษณ์ทางเศรษฐกิจ ซึ่งทางรัฐจะเร่งดำเนินการปรับแผนการดูแลความปลอดภัยและจับกุมคนร้ายให้เร็วที่สุด
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: