ปัตตานี- น้ำท่วม 10 อำเภอแล้ว โรงเรียนปิดกว่า 40 แห่ง พบหมู่บ้านถูกตัดขาดจากโลกภายนอกจนเป็นเกาะ
วันที่ 20 ธค. ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.ปัตตานี ว่า หลังจากฝนที่ตกลงมาอย่างหนักเป้นเวลาต่อเนื่องหลายวัน ประกอบกับมวลน้ำจากพื้นที่ตอนบนจำนวนมากที่ไหลลงสู่แม่น้ำทั้งสองสาย คือ แม่น้ำปัตตานี แม่น้ำสายบุรี ทำให้เอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่ราบลุ่มบ้านเรือนประชาชนจมน้ำรวมไปถึงถนนเข้าออกหมู่บ้าน ซึ่งบ้างหมู่บ้านถูกตัดขาดจากโลกภายนอก เสมือนเป้นเกาะกลางน้ำต้องใช้เรือลากดึงเข้าออกในการเดินทาง
ข่าวน่าสนใจ:
- บ้านใหญ่พรรคเพื่อไทยเชียงราย เปิดตัวผู้สมัครนายก อบจ.พร้อมกับนำทีมผู้สมัคร สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย ทั้ง 36 เขต ในนามพรรคเพื่อไทย
- เปิดศึกชิงนายก อบจ.ปัตตานี อดีต สส.ท้าชน อดีตนายก อบจ.4 สมัยเดือดตั้งแต่วันแรก (มีคลิป)
- นนทบุรี ธงชัย ไม่หวั่นชน เลิศมงคล จากพรรคประชาชน เผยไม่สังกัดพรรคทำงานให้ประชาชนได้ทุกคน
นอกจากนี้น้ำป่าที่ไหลหลากจากภูเขาประกอบกับลมแรงทำให้เข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน รวมไปถึงโรงเรียนหลายแห่งได้รับเสียหายจึงต้องประกาศหยุดการเรียนการสอนทันที ซึ่งสถานการณ์น้ำท่วมครั้งนี้ยังส่งผลให้ประชาชนต้องอพยบออกจากพื้นที่มาพักอาศัยในที่ที่ทางอำเภอจัดไว้เป็นการชั่วคราว ล่าสุดทางกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ปัตตานี ได้รายงานพื้นที่ประสบอุทกภัยแล้ว จำนวน 10 อำเภอ ประกอบด้วย อ.เมือง อ.มายอ อ.กะพ้อ อ.ยะหริ่ง อ.ปะนาเระ อ.ยะรัง อ.หนองจิก อ.สายบุรี อ.ไม้แก่น และ อ.โคกโพธิ์ รวม 79 ตำบล 356 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 19,275 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 1 ราย คือ ดญ.วาตีฟ อรุณสวัสดิ์ อายุ 10 ปี สาเหตุเล่นน้ำในสระก่อนจะจมน้ำเสียชีวิต และบาดเจ็บสาหัส 1 ราย คือ ดช.ภานุวิช แดงแก้ว อายุ 1 ปี สาเหตุจมน้ำ
ขณะที่ ต.ตะโละดือรามัน อ.กะพ้อ ซึ่งได้รับผลกระทบทั้ง 7 หมู่บ้าน โดยเฉพาะ บ้านอุแตบือราแง ประชาชนที่อยู่ในหมู่บ้านถูกน้ำป่าและฝนตกหนักเข้าท่วมหมู่บ้านระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตร โดยเฉพาะเส้นทางเข้าออกหมู่บ้านจมใต้น้ำจนรถไม่สามารถสัญจรได้ ทำให้หมู่บ้านดังกล่าวเสมือนเป็นเกาะกลางน้ำ ชาวบ้านได้นำเชือกมาผูกไว้กับต้นไม้ทั้งสองฝั่งเพื่อลากเรือนำชาวบ้านออกจากหมู่บ้าน
ขณะที่โรงเรียนในพื้นที่พื้นที่การศึกษาปัตตานี เขต 3 ต้องประกาศหยุดเรียนกว่า 40 โรงเรียน เนื่องจากน้ำท่วมน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมถึงในห้องเรียนอุปกรณ์การเรียนการสอนได้รับความเสียหายและหลายโรงเรียนได้รับความเสียหายจากลมแรงทำให้หลังคาพังเสียหาย ล่าสุด ดร.ณิชา เทียมสุวรรณ ผู้อำนวนการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปัตตานี เขต 3 ได้สั่งการให้ผู้บริหารโรงเรียนและเจ้าหน้าที่เร่งลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหายของโรงเรียนเพื่อประเมินและดำเนินการซ่อมแซม พร้อมกันนี้ได้ลงพื้นที่ตรวจพื้นที่ความเสียหายที่โรงเรียนบ้านป่าม่วง ต.มะนังดาลำ อ.สายบุรีพบว่าน้ำเข้าท่วมทั่วบริเวณโรงเรียนตั้งแต่ประตูทางเข้า ส่งผลให้ห้องเรียนมีน้ำท่วม หลังคาพังเสียหายจากลมพายุกระหน่ำช่วงกลางดึกที่ผ่านมา..
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: