ปัตตานี- เปิดเวที “ดีเบตสันติภาพ” 8 พรรคการเมือง ร่วมแสดงวิสัยทัศน์ หนุนสันติภาพเดินหน้า
เมื่อวันที่ 10 เมย. 2566 ที่ห้องประชุม สนง.อธิการบดี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์วิทยาเขตปัตตานี บรรยากาศความเคลื่อนไหวทางการเมือง ในจังหวัดปัตตานี วันนี้มีได้การจัดเวที สานเสวนา ขึ้น เรื่องพรรคการเมือง ในเส้นทางสันติภาพปาตานี โดยมีตัวแทนจาก 8 พรรคการเมือง ที่ขึ้นเวทีพูดคุยดีเบต ด้วยกัน ได้แก่ นายอารีเพ็ญ อุตรสินทร์ รองหัวหน้าพรรคประชาชาติ นายนัจมุดดีน อูมา ผู้สมัครปารตี้ลิสต์ พรรคภูมิใจไทย นายชารีฟฟุดดีน สารีมิง ผู้สมัครปารตี้ลิสต์ จากพรรคประชาธิปัตย์, พลโทภราดรพัฒนถาบุตร ตัวแทนพรรคเพื่อไทย นายรอมฎอน ปันจอร์ ผู้สมัครปาตี้ลิสต์ พรรคก้าวไกล นายแพทย์ แวมาฮาดี แวดาโอะ ผู้สมัคร สส.เขต 1 จังหวัดนราธิวาส,พล.ต.ต.สะท้านฟ้า วามะสิงห์ ตัวแทนพรรคเสรีรวมไทย ดำเนินรายการโดยนส.ฐาปณีย เอียดสีไชย และ นายซาฮารี เจ้ะหลง
เวที พูดคุย ได้ตั้งประเด็นถึงการแก้ปัญหาสถานการณ์จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่สำคัญเช่น เรื่องของสันติภาพชายแดนใต้ เรื่องความมั่นคง ประเด็นเรื่องการพูดคุยสันติสุขและกฎหมายพิเศษ เป็นต้น
นายอารีเพ็ญ อุตรสินธุ์ จากพรรคประชาชาติ ย้ำว่า4 ปีที่ผ่านมาแสดงให้เห็นชัดว่าพรรคไม่ได้เป็นนอมินีพรรคเพื่อไทย
“แม้หัวหน้าพรรคจะเป็นมุสลิม แต่เป็นพรรคประชาชาติเป็นของคนทุกเชื้อชาติทุกศาสนา แต่เน้นการเป็นพรรคของคนในพื้นที่ เช่นการแก้ไขกฎหมายอาญาความผิดทางศาสนา ชูความเป็นอัตลักษณ์มลายู ที่รัฐต้องไม่ขัดขวางการแสดงออกของประชาชนอย่างเสรีและเสมอภาค การพูดคุยเป็นแนวทางนำไปสู่สันติภาพ เลือกพรรคที่เป็นประชาธิปไตยจะสามารถขยับเรื่องนี้ไปได้ 50 เปอร์เซ็นต์”
พล.ท. ภราดร พัฒนถาบุตร ในฐานะอดีตหัวหน้าคณะพูดคยเพื่อสันติภาพคนแรกกับขบวนการ BRN ยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยส่งผู้สมัครทุกเขต เพราะหวังชนะเลือกตั้งได้เป็นรัฐบาล
“สันติภาพปาตานีจะเกิดได้จากรัฐบาลประชาธิปไตยตัวจริงเท่านั้น ยึดประชาธิปไตยแบบสากล หัวใจสำคัญคือ พื้นที่ต้องมีส่วนร่วม การพูดคุยสันติภาพมีความสำคัญมากในปัจจุบันของทั้งสองฝ่ายคือตัวจริง หากต้องใช้เวลาในการทำให้เกิดอย่างยั่งยืน”
คำถามถึงนโยบายกัญชาเสรีที่อาจขัดกับหลักการศาสนาอิสลามนายนัดมุจดีน อูมา ที่ย้ายมาสังกัดพรรคภูมิใจไทย ยืนยันว่า ไม่เห็นด้วยให้กัญชาเป็นยาเสพติด หากต้องมีเพื่อการแพทย์ ซึ่งที่มีปัญหาเพราะกฎหมายไม่ผ่านทำให้เกิดช่องว่าง ทุกพรรคอยากเห็นตรงกันต่อกระบวนการสันติภาพ มาเลเซียต้องเป็นคนจัดการทั้งหมด
ด้านพรรคก้าวไกล นายรอมฎอน ปันจอร์ กล่าวถึงกรณีคนในพื้นที่ไม่เห็นด้วยพ.ร.บ.สมรสเท่าเทียมและความหลากหลายทางเพศ ว่าเป็นเรื่องที่ปฏิเสธไม่ได้
“พรรคจึงต้องต่อสู้เพื่อการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างด้วยนโยบายสันติภาพก้าวหน้าจัดการกับองค์กรที่เป็นปัญหาและเป็นภัยคุกคามสิทธิเสรีภาพของประชาชน เช่นการยุบ กอ.รมน. เปลี่ยนสงครามความมั่งคั่งทางทหาร เป็นความมั่นคงทางอาหาร สร้างสันติภาพอย่างมั่นคง สิทธิของทุกคน ทุกศาสนา ต้องเท่าเทียมกัน
พรรคเป็นธรรม โดยนายกัณวีร์ สืบแสง เปิดเผยว่า พรรคใหม่ มีนักกิจกรรมคนรุ่นใหม่รู้ปัญหาแท้จริงของพื้นที่หวังเป็นตัวแทนทางเลือกใหม่ของคนปาตานี สร้างสันติภาพที่กินได้ภายใต้หลักการมนุษยธรรมนำการเมือง
” อย่าหมดหวังกับกระบวนการสันติภาพ แต่สิ้นหวังกับผู้นำ ยกระดับการเจรจาสันติภาพไม่ให้มีแค่ผู้จับอาวุธสองฝ่าย แต่ต้องมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง ยกเลิกกฏหมายพิเศษทุกอย่าง กระจายอำนาจด้วยแนวคิดจังหวัดจัดการตนเอง ยุบกอ.รมน.และศอ.บต. ขจัดทุจริตทุกรูปแบบซึ่งจะได้พาทหารกลับบ้าน รวมทั้งแสดงออกซึ่งอัตลักษณ์ของแต่ละศาสนาได้เสรี”
สำหรับ นายซารีฟุดดีน สารีมิง พรรคประชาธิปัตย์ ย้ำถึงความมั่นใจว่าพรรคจะกลับมาทวงพื้นที่ครั้งนี้ด้วยนโยบายสันติภาพนำสันติสุข เน้นการเมืองนำการทหาร การพัฒนาเศรษฐกิจ นำวาระสันติภาพสู่รัฐสภา พรรคจะเป็นเจ้าภาพดูแลสันติภาพในอนาคต
ขณะที่นายแพทย์แวมาฮาดี แวดาโอ๊ะ พรรคพลังประชารัฐ ย้ำถึงการเห็นด้วยกับการพูดคุยสันติภาพ ต้องมีความจริงใจกันทั้งสองฝ่าย ประชาชนอยู่ตรงกลาง ส่วนการชูความเป็นอัตลักษณ์มีความเสมอภาคกันทุกเชื้ชาติแต่ต้องอยู่ภายใต้กฏหมาย
“อยากเน้นการพัฒนาเช่นโครงการแพทย์ 1,000 คน ประจำรพ.สต.ครบในปี 2572 ซึ่งบรรจุในแผนปี 66 ของศอ.บต.แล้ว รวมทั้งโครงการพยาบาลอินเตอร์ 3,000 คนรองรับการรักษาลูกค้าชาวอาหรับ เพื่อเศรษฐกิจในพื้นที่”
พลตำรวจตรี สะท้านฟ้า วามะสิงห์ จากพรรคเสรีรวมไทย มองว่าการพูดคุยสันติภาพเป็นเหมือนปาหี่ ต้องสร้างสันติภาพเสรีปากท้องและคุณภาพชีวิตที่ดีให้เกิดกับประชาชนก่อน รวมทั้งยุบกอ.รมน.และ ศอ.บต. ดึงงบประมาณทุกอย่างมาทำเพื่อประชาชนและพื้นที่จริงแล้วจะเกิดสันติภาพ
แม้จะมีเพียง 13 เขตเลือกตั้งใน จังหวัดชายแดนภาคใต้ หากความตื่นตัวทางการเมืองของประชาชน ทุกพรรคจึงหวังคะแนนเสียงด้วยมีนโยบายที่น่าสนใจ พร้อมหนุนให้เกิดผลจริง..สันติภาพกินได้ สันติภาพที่เป็นจริงคงอยู่ไม่ไกล.
