ปัตตานี- DSI บุกค้นโกดังยึดเนื้อวัวเถื่อนลักลอบนำเข้า เจอเกือบ 10 ตัน มูลค่าความเสียหายหลายล้านบาท สงสัยผ่านด่านตรวจ 4 แห่งสายนราธิวาส-ปัตตานี ได้ไง !
วันที่ 17 พฤษภาคม 2566 นายชยพล สายทวี ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษจังหวัดชายแดนภาคใต้ ร่วมกับด่านศุลกากรปัตตานี ปศุสัตว์จังหวัดปัตตานี เข้าบุกค้นโกดังติดป้ายว่า อิควาน 99 บ้านเลขที่ 114 ถนนฤาดี ตำบลอาเนาะรู อำเภอเมืองจังหวัดปัตตานี ในขณะที่ผู้กระทำความผิดกำลังลำเลียงเนื้อจากรถกระบะบรรทุกเข้าไปเก็บในโกดัง เจ้าหน้าที่ชุดตรวจค้นจับกุมจึงได้แสดงตัวและบูรณาการกำลังในการตรวจค้น ในเวลาประมาณ 20.00 น. ของวันที่ 16 พฤษภาคม 66 เมื่อคืนที่ผ่านมา
พบนายสุกรี สะอะ ทำหน้าที่ขับรถกระบะบรรทุกยี่ห้อโตโยต้า รีโว่ หมายเลขทะเบียนบท 3788 ยะลา พร้อมนายอิบรอฮิม หะยีดาโอะ นั่งข้างคนขับ และนายอับดุลบาศิตตามา ผู้ครอบครองสถานที่ พร้อมของกลางเนื้อวัว เนื้อควาย ตับ ซึ่งมีต้นทางจากประเทศอินเดีย และเนื้อวัวซึ่งมีต้นทางจากประเทศบราซิล โดยบรรทุกอยู่หลังรถกระบะจำนวน 3.7 ตัน 150 กล่อง ผ่านทางชายแดนประเทศมาเลเซีย และที่เก็บอยู่ในบริเวณโกดังจำนวนประมาณอีก 4 ตัน จากการตรวจค้นและซักถามผู้ต้องหาให้การว่าเนื้อวัวดังกล่าวได้ลักลอบนำเข้ามาจากต่างประเทศและไม่มีใบอนุญาตตามกฎหมาย มูลค่าความเสียหายวันละกว่าหนึ่งล้านบาท โดยกลุ่มผู้กระทำความผิดได้ลักลอบค้ามานานกว่าสองปี
โดยเนื้อดังกล่าว ถ้ามองลักษณะภายนอกเหมือนเนื้อเกรดพรีเมี่ยมบรรจุกล่องอย่างดีกล่องละ 20 กิโลกรัม และมีส่วนต่างๆ ของ เนื้อวัว และเนื้อควาย แต่ในความเป็นจริงแล้วเนื้อวัวดังกล่าวเป็นเนื้อที่ไม่ได้รับรองมาตราฐาน และยังไม่ผ่านการตรวจโรค หากประชาชนในพื้นที่บริโภคเข้าไปอาจส่งผลเสียหายต่อสุขภาพอนามัยและโดยเฉพาะอย่างยิ่งอาจมีการปนเปื้อนของโรคติดต่อ เช่น โรควัวบ้า เป็นต้น และพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งมีประชาชนผู้นับถือศาสนาอิสลามก็นิยมบริโภคเนื้อวัวโดยปกติกันอยู่แล้ว นั้นอาจทำให้ชาวบ้านที่ได้ซื้อเนื้อดังกล่าวไปอาจได้รับผลเสียจากการบริโภคเนื้อดังกล่าวได้
โดยหลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่จะขยายผลและตามจับกุมกับเจ้าของโกดังที่พักเนื้อดังกล่าว ในข้อหาประกอบความผิดฐานนำเข้าสัตว์หรือซากสัตว์โดยไม่ได้รับอนุญาต รวมไปถึงความผิดอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ส่วนเนื้อได้สามารถจับกุมได้นั้น ทางเจ้าหน้าที่จะนำจำนวนทั้งหมดและยึดไว้เป็นหลักฐาน โดยหลังจากที่เสร็จสิ้นคดีความ ก็จะนำไปทำลายต่อไป
นายชยพล สายทวี ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษจังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวว่า กรณีการลักลอบค้าเนื้อวัวเถื่อนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งประชาชนผู้นับถือศาสนาอิสลามส่วนใหญ่นิยมบริโภค โดยเนื้อวัวดังกล่าว ถ้ามองลักษณะภายนอกเหมือนเนื้อเกรดพรีเมี่ยม แต่ในความเป็นจริงแล้วเนื้อวัวดังกล่าวเป็นเนื้อวัวที่ไม่ได้มาตราฐาน ไม่ผ่านการตรวจโรค หากประชาชนในพื้นที่บริโภคเข้าไปอาจส่งผลเสียหายต่อสุขภาพอนามัยและโดยเฉพาะอย่างยิ่งอาจมีการปนเปื้อนของโรคติดต่อ เช่นโรควัวบ้า เป็นต้น
การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดฐานลักลอบนำเข้าสินค้าโดยไม่ผ่านพิธีการศุลกากร หรือรับไว้ด้วยประการใดๆ ตามมาตรา 242 และมาตรา 246 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 ประกอบความผิดฐานนำเข้าสัตว์หรือซากสัตว์โดยไม่ได้รับอนุญาตตามพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 มาตรา 31 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง และอาจเข้าข่ายเป็นความผิดทางอาญาตามที่กฎหมายกำหนดไว้ในบัญชีท้ายประกาศ กคพ.(ฉบับที่ 8) พ.ศ. 2565 เรื่อง กำหนดรายละเอียดของลักษณะของการกระทำความผิดที่เป็นคดีพิเศษ ตามมาตรา 21 วรรคหนึ่ง (1) แห่งพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ.2547 ตามบัญชีท้าย ข้อ 7 และข้อ 13 ซึ่งเป็นความผิดมูลฐานตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน โดยจะได้พิจารณาประมวลเรื่องเสนออธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษเพื่อพิจารณาสั่งการให้ทำการสอบสวนเป็นคดีพิเศษต่อไป
ซึ่งคณะพนักงานสืบสวน ศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษจังหวัดชายแดนภาคใต้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ จะได้ดำเนินการสืบสวนขยายผล ตรวจสอบเส้นทางการเงิน เพื่อเป็นการบังคับใช้กฎหมายให้เด็ดขาดและเข้มข้น โดยจะร่วมบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องข้างต้นอย่างต่อเนื่องต่อไป
ขณะที่เจ้าหน้าที่และประชาชนที่ทราบข่าวการจับกุมครั้งนี้นั้น ต่างสงสัยว่า ขบวนลักลอบขนเนื้อเถื่อนสามารถรอดพ้นการตรวจสอบตรวจค้นตามจุดตรวจ ด่านตรวจ ถนนสายนราธิวาส-ปัตตานี ซึ่งมีหลายด่านได้อย่างไร โดยเบื้องต้นที่สอบถามคนรับจ้างระบุว่า เมื่อขับถึงด่านก็ผ่านด่านตรวจปกติ ?
ไม่อนุญาตนำภาพและข่าวไปเผยแพร่ที่อื่นๆ
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: