วันที่ 7 มค. ที่ หน่วยเฉพาะกิจปัตตานี ค่ายอิงคยุทธบริหาร อ.หนองจิก จ.ปัตตานี นายวีรนันทน์ เพ็งจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี พร้อมด้วย พล.ต.จตุพร กลัมพสุต ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี พ.ต.อ.จีรเศรษฐ ดาวเงินตระกูล รอง ผบก.ภ.จ.ปัตตานี นายต้นพงศ์ คำพลงาม หัวหน้าด่านกักกันสัตว์นราธิวาส ร่วมแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาในคดีลอบนำเนื้อหนีภาษีเข้ามาจำหน่ายในประเทศ โดยนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย คือนายอิสมาอีล เลาะยิ และนายแวอาแซ โต๊ะอาแด พร้อมของกลางประกอบด้วย เนื้อวัวแช่แข็ง เครื่องในวัวแช่แข็ง จำนวน 1,235 กิโลกรัม และรถยนต์กระบะโต้โยต้าวีโก้ สีบรอนทอง ป้ายทะเบียน ผข3634 สงขลา 1 คัน
ด้าน พลตรีจตุพร กลัมพสุต ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี เปิดเผยว่า จากการปฏิบัติงานด้านการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังในการตั้งจุดตรวจจุดสกัด โดย วันเกิดเหตุ ทางเจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 43 ได้ตั้งจุดตรวจจุดสกัดบริเวณด่านเกาะหม้อแกง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ปรากฏว่าเห็นรถยนต์กระบะโต้โยต้าวีโก้ สีบรอนทอง ป้ายทะเบียน ผข3634 สงขลา ด้านท้ายกระบะดัดแปลงเป็นห้องเย็น ท่าทางมีพิรุธ จึงให้หยุดรถและตรวจสอบ พบในห้องเย็นมีเนื้อวัวแช่แข็งที่นำเข้าจากประเทศอินเดีย จำนวน 930 กิโลกรัม จึงได้ขอเอกสาร ปรากฏว่าไม่มีเอกสารนำเข้า จึงได้นำตัวนายอิสมาอีล เลาะยิ ซึ่งเป็นคนขับรถมาสืบสวน พร้อมทั้งได้ขยายผล เข้าตรวจสอบบ้านเลขที่ 95/29 ต.บาราเฮาะ อ.เมือง จ.ปัตตานี และพบเนื้อวัวและเครื่องในแช่เข็งที่ยำเข้าจากประเทศอินเดียเพิ่มอีก 315 กิโลกรัม จึงยึดของกลางไว้ และนำตัว นายแวอาแซ โต๊ะอาแด เจ้าของบ้านมาดำเนินคดีต่อไป
ด้านนายวีรนันทน์ เพ็งจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เปิดเผยว่า การนำเข้าอาหารสดอย่างผิดกฎหมาย ถือว่าเป็นภัยต่อสังคมอย่างมาก เนื่องจากเนื้อสดดังกล่าวไม่ได้มีการตรวจสอบและผ่านการรับรองรองความปลอดภัย ซึ่งหากเนื้อดังกล่าวมีเชื้อโรค ก็จะส่งผลต่อสุขภาพของผู้บริโภคโดยตรง ซึ่งทางภาครัฐจะต้องมีการปราบปรามอย่างจริงจัง และบูรนาการกันทุกฝ่าย ทั้งกรมปศุสัตว์ และเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ และต้องขอฝากไปยังแม่ค้าเขียงต่าง ๆ ในตลาดที่ขายเนื้อ อยากให้ไปซื้อจากเกษตรกรโดยตรง อย่านำเนื้อหนีภาษีมาขาย ทั้งนี้ก็เพื่อความปลอดภัยต่อประชาชน อีกทั้งยังได้ส่งเสริมเกษตรกรในพื้นที่ และรวมถึงโรงฆ่าสัตว์ ทำให้รายได้กระจายไปยังประชาชนในพื้นที่ทุกภาคส่วน
สุไลมาน ปัตตานี
