ปัตตานี – แม่ทัพภาคที่ 4 ย้ำดำเนินคดีตามกฏหมายผู้ร่วมกิจกรรมแบ่งแยกดินแดน เชื่อมีผู้ชักใยอยู่เบื้องหลัง
พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวถึงความคืบหน้าขบวนการนักศึกษาจัดเสวนาแบ่งแยกดินแดนที่ผ่านมาว่า เหตุการณ์ไม่สงบที่เกิดขึ้นในช่วงนี้เกี่ยวเนื่องกับการเสวนาของนักศึกษาหรือไม่นั้น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ให้พนักงานสอบสวนได้ดูสาเหตุว่าเกิดขึ้นจากสาเหตุใดบ้างปกติเราทราบอยู่แล้วว่าผู้ก่อเหตุรุนแรง จะกระทำด้วยการวางแผนมาตลอดเวลา เมื่อมีความพร้อมก็จะก่อเหตุ อยู่ที่ความพร้อมของเจ้าหน้าที่และการป้องกันดูแลของเราว่าดีหรือไม่อย่างไร มีช่องผิดพลาดตรงไหนต้องนำมาแก้ไข โดยเฉพาะเคสเรื่องการยิงและระเบิดไทยพุทธในห้วง 2-3 วันที่ผ่านมา ซึ่งตนได้ลงพื้นที่ ได้สอบถามกับทางเจ้าหน้าที่ว่า เหตุที่ขึ้นเกิด เกิดขึ้นได้อย่างไรสาเหตุมาจากอะไร ต้องรับมาแก้ไข และได้เน้นย้ำกับพี่น้องไทยพุทธในพื้นที่ให้ระมัดระวังด้วยในช่วงนี้ เพราะอาจจะเกิดขึ้นอีกทุกพื้นที่ ในลักษณะเดียวกันนี้
ส่วนทางกองทัพและฝ่ายความมั่นคงจะดำเนินการอย่างไรกับกลุ่มนักศึกษาที่มีการเสวนากรณีกิจกรรมแบ่งแยกดินแดนนั้น แม่ทัพภาคที่ 4 เผยว่า อย่างที่ได้บอกผ่านไปทุกสื่อว่า เราไม่ได้นิ่งนอนใจในการที่จะดำเนินการ ในการเสวนาในวันนั้น ซึ่งตอนนี้ได้เดินหน้าไปพอสมควรไม่ว่าจะเป็นข้อมูลข่าวสารและหลักฐานต่างๆ ตนจะบอกทุกครั้งว่าจะพยายามทำให้ดีที่สุด ทำแล้วต้องให้เกิดความมั่นใจว่า เราจะดำเนินคดี ดำเนินการกับกลุ่มบุคคลได้เพราะว่า การที่นักศึกษาออกมาพูดนั้นตนค่อนข้างมั่นใจว่านักศึกษามีผู้เชื่อมโยง ชักใยอยู่เบื้องหลังสงสารเยาวชนอาจหลงผิดโดนชักจูงทำให้เกิดเหตุการณ์นั้นขึ้น ซึ่งต้องใช้เวลาในการรวบรวมข้อมูลเพราะต้องรัดกุมและรอบคอบ ทำแล้วไม่หลุด ตนบอกว่าไม่ใช่แค่นักศึกษาต้องมีมากกว่านั้น จะเป็นกลุ่มอะไรก็ตามที่มีความเชื่อมโยงหลักฐานอะไร เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายความมั่นคงก็จะดำเนินการไปให้ถึงจุดๆ นั้นให้ได้
แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวถึงกรณีกองทัพมีมาตรการอย่างไรกับการจัดเสวนาและ สัมมนาต่อจากนี้ ตนยกเคสนี้ว่า ถ้าเราดำเนินการในเรื่องผิดกฎหมายได้ เคสอื่นใครจะทำก็ต้องดูก่อน โอกาสที่จะทำเร็วๆ นี้คงจะยากเพราะพี่น้องประชาชนทั้ง 70 กว่าล้านคนจับตามองดูอยู่ จะมีการพัฒนา ต้องการแบ่งแยกทุกภาคของไทยคงจะยาก จะดำเนินคดีไปได้แค่ไหน
อีกประเด็นคือ การสร้างความตระหนักรู้ให้กับ พี่น้องและเยาวชนในพื้นที่ว่า การนำเรื่องนี้มาสัมมนาเสวนาต่างๆ นั้น ถ้าเรื่องนี้เป็นเรื่องผิดกฎหมายที่ขัดรัฐธรรมนูญ อาจเข้ามาตราอะไรก็ตามอยู่ที่ทีมกฎหมายจะดำเนินการ ใครคิดจะทำก็ผิด จะเห็นได้ว่าน้องนักศึกษาเหมือนโดนลอยแพ คนที่ชักใยมาร่วมเสวนา ต่างออกเอาตัวเองออกหมดแล้วในเรื่องการเมือง ตนอยากให้พี่น้องเห็นว่าเมื่อทำแล้วผลกระทบเป็นอย่างไรต่อสังคมและครอบครัว
ส่วนการบังคับใช้กฎหมายที่ตึงและเข้มมากอาจจะมีผลอีกด้านไหมนั้น ตนไม่ได้มองอย่างนั้น การทำผิดกฎหมายต้องว่าไปตามตัวบทกฎหมายจริงๆ แต่ทั้งนี้ และด้วยความยุติธรรม ใครไม่ได้ทำ ใครทำอะไร ต้องมีคำตอบให้ทุกคนรับทราบ ต้องระดมความคิดผู้มีความสามารถในพื้นที่ให้มาก ตนไม่ไปลิดรอนสิทธิ์ของใครอยู่แล้วจะพยายามทำให้ดีที่สุด
แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวถึงกรณีไม่กังวลการต่อต้านกับการบังคับใช้กฎหมาย ว่า ใช่ครับเราทำตามกฎหมายกฎหมายว่าอย่างไรเราทำอย่างนั้น ยืนยันว่าตนไม่ใช้กำลังแน่นอนใช้ตัวบทกฎหมายและการพูดคุยมากกว่า ฝากถึงเยาวชนที่อาจจะเข้าร่วมกิจกรรมเหล่านี้อีก ฝ่ายเยาวชนที่อาจคิดสั้นๆ ให้คนที่ชักจูงไปในทางที่ผิดปลุกใจ ปลุกปั่น ให้ใช้ความคิดและฟังว่าเป็นเรื่องส่วนรวมส่วนใหญ่ว่า เขาต้องการแบบไหน เราไม่ได้ว่านักศึกษาผิดเพราะนักศึกษาเป็นเยาวชนที่อ่อนไหว เป็นเหมือนผ้าขาวที่เราต้องดูแลค่อยๆ พูดจากัน เรื่องนี้ต้องเข้าอกเข้าใจกัน
ฝากถึงน้องๆ ว่า เรื่องการแบ่งแยกดินแดนไม่มีทางเกิดขึ้นในประเทศไทยได้ แต่ความผิดมี เรามาคุยกันดีกว่า ให้อยู่ในกรอบของกฎหมายก็เพียงพอแล้ว.
## ไม่อนุญาตใช้ภาพและข่าวนำเสนอที่อื่นๆ
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: