วันที่ 8 พย. นายนิอันนุวา สุไลมาน นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองปัตตานี นายวัลดีนฮูสเซ็นต์ หะยีฮัสซัน สมาชิกสภาจังหวัดปัตตานี ให้การต้อนรับ ดร.วิสุทธิ์ บิลล่าเต๊ะ แคนดีเดทผู้สมัครจุฬาราชมนตรี หลังจากลงพื้นที่พบปะผู้นำศาสนาในพื้นที่จังหวัดปัตตานี
ดร.วิสุทธิ์ บิลล่าเต๊ะ กล่าวว่า ตนดีใจมากและสัมผัสได้ถึงความอิคลาส (ความจริงใจ) เรื่องกาหรือไม่กานั้นไม่มีพลังที่แท้จริงว่าจะบังคับใครได้ ตนไม่ได้มาจากการเลือกตั้งของใคร แต่มาด้วยอัลเลาะห์ ตนถือว่าเป็นการทดสอบ และตนตั้งใจที่จะทำงานเพื่อศาสนาเพื่อประชาชน เมื่ออัลเลาะห์ให้เราต้องต่อสู้กับอะไรบางอย่างตนก็พร้อม เพราะมันจะเป็นบททดสอบแม้จะเป็นตำแหน่งที่ใหญ่ระดับประเทศ ก่อนที่ตนจะมีความตั้งใจจะลงสมัครตนก็ได้ปรึกษาคุณพ่อคุณแม่ ว่าตนจะลงสมัครตำแหน่งจุฬาราชมนตรีคิดว่ายังไง ซึ่งคำตอบที่ได้จากคุณพ่อคุณแม่ คือ จะขอดุอาร์ให้ จากนั้นตนก็พร้อมที่จะออกพื้นที่พร้อมดุอาร์ และมีผู้ใหญ่อีกหลายท่านที่ตนปรึกษาก็สนับสนุน ตนถือว่าผ่านด่านแรกแล้ว ตนมีที่ปรึกษาและอาจารย์หลายท่านก็ได้มาช่วยกัน ถึงแม้ว่าเล่นระดับบนอาจจะยาก แต่ตนก็พร้อมที่จะมุ่งเข้าหา ตนได้เข้าพบส่วนตัวส่วนบุคคลหลายท่านก็ผ่านด้วยดี ส่วนระดับสูงนั้นจะดำเนินแนวทางอย่างไรนั้น ตนก็ไม่อาจจะทราบได้ แต่ตนขอเดินหน้าด้วยความตั้งใจต่อไป
“ตำแหน่งจุฬาฯถือเป็นตำแหน่งสำคัญ ถือเป็นเครื่องมือที่จะเปลี่ยนแปลงอะไรหลายอย่างให้ดีขึ้น และเป็นเครื่องมือชิ้นสำคัญในการผลักดันอะไรหลายสิ่งให้ดีขึ้นในประเทศ และพี่น้องประชาชน”
ดร.วิสุทธิ์ บิลล่าเต๊ะ กล่าวอีกว่า พื้นเพตนก็เรียนจบที่ จ.ปัตตานี ตนมีเพื่อนใน จชต.หลายคน ตนผูกพันพื้นที่นี่มาก ในเมื่อตนเติบโตจากที่นี้ ก็ถือว่าจะต้องมีผู้นำที่เข้าใจตนในพื้นที่ ฉะนั้นผู้นำจะเข้าใจพื้นที่ ผู้นำก็ต้องเข้าใจคนในพื้นที่ที่พร้อมจะเป็นผู้นำ คนนอกพื้นที่คงไม่เข้าใจพื้นที่แห่งนี้ จะเป็นใครก็แล้วแต่ก็ขอตำแหน่งนี้เป็นคนในพื้นที่ ตนจะใช้ดุอาร์ถึงแม้ว่ามีคนสบประมาทว่า “สู้ไปก็แพ้” แต่สำหรับตนอยู่ที่อัลเลาะห์เท่านั้น
“เราจะแพ้หรือชนะขึ้นอยู่กับอัลเลาะห์และกติกาในหลักการ อัลเลาะห์คงบอกว่าเรายังไม่ถึงเวลา ซึ่งตนก็จะทำงานเพื่อศาสนาต่อไป เราพ่ายแพ้ด้วยความชนะดีกว่าเราชนะด้วยความสกปรก ทุกคนเป็นคนดี แต่อาจจะมีสิ่งแวดล้อมที่ไม่ดี ฉะนั้นดุอาร์เท่านั้นจะสร้างความหวังถ้าได้แล้วเราก็จะทำงานเพื่อเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนต่อไป.”
