ปัตตานี – ตม.ร่วมสนธิกำลังจนท. ระดมกวาดล้างตามแผนป้องกันปราบปรามอาชญากรรมในช่วงเทศกาลลอยกระทง 2566 จับกุมการลักลอบขนแรงงานเถื่อนข้ามประเทศสัญชาติเมียนมาร์ 7 ราย
ภายใต้การสั่งการของ พล.ต.ต.ทรงโปรด สิริสุขะ ผบก.ตม.6, พ.ต.อ.ศุภโชค หยงสตาร์ รอง ผบก.ตม.6, พ.ต.อ.ภาณุภาคยณ์ จิตต์ประยูรตี รอง ผบก.ตม.6, พ.ต.ท.กฤตกรอิชณน์ คงขำ สว.ตม.จว.ปัตตานี สั่งการให้ชุดสืบสวนปราบปราม ตม.จว.ปัตตานี บูรณาการร่วมกับ ตร.ท่องเที่ยว, บก.ปส.4, กก.สส.บก.ตม.6, ส.รน.2 กก.7 บก.รน., กก.6 บก.ปคม. มว.ฉก.นปพ.ปน.12,ฉก.ทพ.43,กก.3 บก.ปอท.,กก.2 บก.สอท.5, และ สภ.หนองจิก ร่วมกันจับกุมตัว บุคคล สัญชาติไทย 1 ราย คือ นายอิสมาแอ มายิ อายุ 35 ปี บ้านเลขที่ 120/2 ม.2 ต.บางปู อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี พร้อมด้วยของกลาง รถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแม็ค สีดำ จำนวน 1 คัน และโทรศัพท์มือถือ
สืบเนื่องจากเจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุมได้รับแจ้งว่า จะมีการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายผ่าน สาย 43 (สงขลา-ปัตตานี) ช่วงพื้นที่ อ.เทพา จ.สงขลา ถึง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี โดยใช้รถยนต์กระบะยี่ห้อดีแม็ค สีดำ เจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุมจึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และได้รับคำสั่งให้ทำการตรวจสอบหากพบการกระทำความผิดให้ดำเนินการตามกฎหมาย เจ้าพนักงานจึงไปซุ่มรอตลอดเส้นทางตามที่ได้รับแจ้ง จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมพบเห็นรถยนต์กระบะ ซึ่งมีลักษณะตรงกันตามแจ้งขับขี่ผ่านมาตามเส้นทาง จึงได้ขับรถติดตามอย่างกระชั้นชิด จนเมื่อมาถึง บริเวณจุดตรวจเกาะหม้อแกง ม.7 ต.ท่ากำชำ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุมจึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าพนักงานตำรวจแล้วสั่งให้หยุดรถเพื่อขอทำการตรวจสอบ เมื่อรถหยุดพบนายอิสมาแอ มายิ อายุ 35 ปี เป็นผู้ขับขี่
ข่าวน่าสนใจ:
- นครปฐม บิ๊กตร.ลงพื้นที่ ไล่ล่า 3 มือยิงสนามชนไก่หลังรวบตัวได้ 2 ราย เดอะโอ๋บอกใช้ยาแรง อย่าคิดสู้ตำรวจ
- มุกดาหาร -เลขาธิการ ป.ป.ส. ควงแม่ทัพภาค 2 ลงเรือตรวจสกัดกั้นการนำเข้ายาเสพติดตามแนวชายแดนไทย-ลาว จ.มุกดาหาร
- นครพนม: เลขาธิการ ป.ป.ส. และ มทภ.2/ผบ.นบ.ยส.24 ประชุมสรุปผลรอบ 3 เดือน โชว์ผลงานยึดยาบ้ากว่า 45 ล้านเม็ด มูลค่ากว่า 3 พันล้านบาท
- อย่างเท่! เด็กมัธยมต้นโชว์สกิลเครื่องดนตรีพิศวง สมัครเรียนนาฏศิลปสุโขทัย
จากการสอบถามนายอิสมาแอ ให้การว่าตนได้รับแจ้งจากภรรยาผ่านทางโทรศัพท์ว่าให้เดินทางไปรับบุคคลต่างด้าว(เมียนมาร์) ที่ อ.บางกล่ำ จ.สงขลา จำนวน 7 คน โดยให้ค่าจ้างในราคาคนละ 3,000 บาท เพื่อนำไปส่งที่พื้นที่บ้านตาบา ต.เจ๊ะเห อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ซึ่งจะมีคนมารอรับอีกที ตนจึงได้ขับขี่รถยนต์กระบะยี่ห้อดีแม็ค สีดำ เป็นรถยนต์ที่ตนพึ่งซื้อมายังไม่ได้รับโอน โดยออกเดินทางจากบ้านบางปู ตั้งแต่เวลา 08.00 น. ของวันที่ 26 พ.ย. 66 เมื่อเดินทางถึงที่หมายเวลาประมาณ 09.30 บริเวณป่ายางหลังนิคมอุตสาหกรรมบางกล่ำ ได้พบบุคคลต่างด้าว(เมียนมาร์) จำนวน 7 คน จากนั้นจึงให้บุคคลต่างด้าววางสัมภาระไว้หลังกระบะ แล้วให้ขึ้นไปแอบในห้องโดยสารทั้งหมด แล้วเดินทางไป ต.เจ๊ะเห อ.ตากใบ จ.นราธิวาส โดยใช้เส้นทาง หาดใหญ่ – สุไหงโก-ลก จนมาถึงริมถนนสาย สาย 43 (สงขลา-ปัตตานี) จุดตรวจเกาะหม้อแกง ม.7 ต.ท่ากำชำ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี พบเห็นเจ้าพนักงานตำรวจส่งสัญญาณให้หยุดรถ ตนจึงได้ทำการหยุดรถ ต่อมาเจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุมพบชายทราบเป็นสัญชาติเมียนมา จำนวน 7 คน นั่งอยู่ภายในห้องโดยสารรถตรงเบาะหลังคนขับ
จากการสอบถามผู้ต้องหา(ผ่านล่าม)ให้การว่า มีนายหน้าชาวเมียนมาร์เป็นผู้หญิงอยู่ประเทศมาเลเซียติดต่อผ่านนายหน้าซึ่งอยู่ประเทศเมียนมาร์ ซื่อ นายอูไข่ อายุประมาณ 35 ปี ประสานมายังพวกตนให้ไปทำงานที่มาเลเซียโดยจะแจ้งค่าใช้จ่ายเมื่อไปถึง โดยพวกตนเดินทางมาจากเมืองย่างกุ้ง เมื่อวันที่ 19 พ.ย.66 มาถึงเกาะสองวันที่ 25 พ.ย.66 จากนั้นนั่งเรือประมงเล็ก(เรือหางยาว) มาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที ถึงฝั่งประเทศไทยเวลาประมาณ 20.00 น. แล้วนั่งรถกระบะสีดำโดยมีคนไทยเป็นคนขับ ไม่ทราบแผ่นป้ายทะเบียน ในลักษณะแอบซ่อนนั่งซ้อนกันในห้องผู้โดยสารโดยไม่ได้จอดหรือแวะจุดใด จนมาถึงป่ายางอยู่หลังนิคมอุตสาหกรรมบางกล่ำ เวลาประมาณ 08.00 น. พวกตนได้ลงจากรถคันดังกล่าวแอบซ่อนเพื่อรอรถมารับ เวลาประมาณ 09.00 น. ได้มีรถยนต์กระบะดีแม็ค สีดำ (คันที่ถูกจับกุม) มาจอดและส่งสัญญาณขึ้นรถ พวกตนจึงรีบขึ้นรถคันดังกล่าวในลักษณะนั่งทับซ้อนกันภายในห้องผู้โดยสาร
นายอิสมาแอฯ ได้ให้การเพิ่มเติมว่าตนได้รับจ้างขนบุคคลต่างด้าวชาวเมียนมาร์ในลักษณะนี้มาแล้ว 9 ครั้ง ได้ค่าจ้างครั้งละ 3,000 บาทต่อคนต่างด้าวชาวเมียนมาร์ 1 คน โดยค่าจ้างตนจะรับเป็นเงินสด จากชายชาวไทยทราบชื่อแบมะ(ไม่ทราบชื่อสกุลจริง) เป็นชาว อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส เมื่อส่งคนต่างด้าวชาวเมียนมาร์ ถึงชายแดนช่องทางธรรมชาติที่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้แจ้งว่าเขาต้องถูกจับกุม โดยแจ้งข้อกล่าวหาผู้ถูกจับกุมคนไทย ว่ากระทำผิดฐาน “รู้ว่าคนต่างด้าวคนใดเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย นำพา ซ่อนเร้นหรือช่วยเหลือด้วยประการใดใดเพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม” แจ้งข้อกล่าวหา คนต่างด้าว ว่ากระทำผิดฐาน “เป็นบุคคลต่างด้าวไม่เดินทางเข้ามาตามช่องทางด่านตรวจคนเข้าเมือง เขตท่า สถานี หรือท้องที่ และตามกำหนดเวลาตามที่รัฐมนตรีประกาศในราชกิจจานุเบกษา , เป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาโดยไม่ยื่นการตรวจอนุญาตของพนักงานเจ้าหน้าที่ของด่านตรวจคนเข้าเมืองประจำเส้นทางนั้นและไม่ยื่นรายการตามแบบที่กำหนดในกฎกระทรวง และ เป็นบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” พร้อมทั้งได้แจ้งสิทธิตามกฎหมายให้ผู้ถูกจับกุมทราบ ในชั้นจับกุมให้การรับสารภาพตลอดตามข้อกล่าวหา จากนั้นจึงได้ควบคุมตัวมาทำบันทึกการจับกุมที่ สภ.หนองจิก จ.ปัตตานี และนำตัวส่ง พนักงานสอบสวน สภ.หนองจิก จ.ปัตตานี เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: