เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 4 พฤษภาคม ที่สถานีตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี พล.ต.ต.นิตินัย หลังยาหน่าย รอง ผบช.ภาค 9 นางพาตีเมาะ สะดียามู ผวจ.ปัตตานี พล.ต.ต.สันทัศน์ เชื้อพุฒตาล ผบก.ภ.จ.ปัตตานี ด้วยเจ้าหน้าที่ ปปส. ทหารและฝ่ายปกครองร่วมแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายสำคัญจำนวน 4 ราย ประกอบด้วย นายเอกทัศน์ ปาละกะวงษ์ อายุ 41 ปี นายอาทิตย์ ปาละกะวงษ์ อายุ 43 ปี นายอนันต์ชวัฒน์ ยืนยิ่ง อายุ 35 ปี และ นายสมชาย รัตนดี อายุ 27 ปี พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 1,400,000 เม็ด ยาไอซ์ จำนวน 350 ถุง รวมน้ำหนัก 350 กิโลกรัม รถยนต์ใช้ก่อเหตุ จำนวน 3 คันและ โทรศัพท์มือถือจำนวน 6 เครื่อง
ซึ่งแนวทางการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 4 รายให้การรับสารภาพโดยกล่าวหาว่าร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภทหนึ่งยาบ้ายาไอซ์โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาตอันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนและกระทำให้เกิดผลกระทบกับความมั่นคงของรัฐและความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป
สำหรับการจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจาก พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบช.ภาค 9 ได้รับแจ้งจากชุดสืบสวนสอบสวน จ.ปัตตานีว่าจะมีกลุ่มขบวนการนักค้ายาเสพติดรายใหญ่จะลำเลียง ยาเสพติดด้วยรถยนต์มาจากภาคกลางลงมาพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้และจากกระจายยาเสพติดส่งต่อไปยังประเทศเพื่อนบ้าน หลังได้รับแจ้งจึงได้ประสานไปยัง พล.ต.ต.สันทัศน์ เชื้อพุฒตาล ผบก.ภ.จ.ปัตตานี จัดกำลังเพื่อดำเนินการจับกุมทันที โดยสั่งการให้ พ.ต.ท.วัธราวุฒิ เพ็ชรฉุย สว.กก.สส.ภ.จว.ปัตตานี กำลังร่วม 3 ฝ่าย พร้อมชุด ปปส.ทำการสืบสวนสอบสวนจนทราบว่า
นักค้ายาเสพติดกลุ่มนี้จะใช้รถยนต์จำนวน 3 คันในการลำเลียงยาเสพติดลงมา จึงได้วางกำลังตามจุดต่างๆ เพื่อจับตารถต้องสงสัยทั้งสามคัน จนกระทั่ง พบเห็นเข้าไปภายในปั๊มน้ำมัน ปตท. พื้นที่ หมู่ 1 ตำบลควนรู อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา เจ้าหน้าที่จึงเข้าไปทำการแสดงตัวเพื่อตรวจค้น ปรากฏว่าพบยาเสพติดตามที่รับแจ้ง ซ่อนไว้อยู่ด้านหลังรถ พร้อมควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 รายทันที หลังจับกุมเจ้าที่ได้ทำการยึดทรัพย์ที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดจำนวน 11 รายการ มูลค่าประมาณ 80 ล้านบาทโดยผู้ต้องหาทั้งสี่รายยังให้การซัดทอดถึงผู้ร่วมการทราบชื่อว่านายโทซึ่งอยู่ภาคกลางโจที่อยู่ในระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติศาลออกหมายจับและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป..
/// ไม่อนุญาตนำข่าว ภาพ คลิป ไปเผยแพร่ช่องทางอื่นๆ
