เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 5 กรกฎาคม 2567 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในพิธีมอบเงินช่วยเหลือเยียวยาให้แก่ผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบ ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมด้วย พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พลเอก เจริญชัย หินเธาว์ ผบ.ทบ. ร่วมพิธี มอบเงินช่วยเหลือเยียวยาฯ และพบปะ ผู้บริหารหน่วยงานทางการศึกษาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ณ ศูนย์ขับเคลื่อนการศึกษาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตำบลบ่อทอง อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี โดยมี นายสุเทพ แก่งสันเทียะ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวรายงาน และผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานีกล่าวต้อนรับ ณ ศูนย์ขับเคลื่อนการศึกษาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตำบลบ่อทองอำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี
ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติ เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2556 เห็นชอบสนับสนุนสวัสดิการครูและบุคลากร ทางการศึกษาผู้เสียชีวิตย้อนหลังไปถึง วันที่ 1 มกราคม 2547 โดยให้กระทรวงศึกษาธิการจัดสรรงบประมาณใน การช่วยเหลือเยียวยารายละไม่เกิน 4,000,000 บาท โดยให้หักลบจากเงินเยียวยาที่เคยได้รับไปแล้ว
พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้มอบหมายให้สำนักงาน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ จัดพิธีมอบเงินช่วยเหลือเยียวยาให้แก่ผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบ ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ครั้งที่ 6 ให้แก่ครอบครัวผู้ได้รับความเสียหาย จำนวน 48 ราย ซึ่งมีผู้ได้รับผลกระทบ จํานวน 190 ราย เป็นเงิน 129,104,789.62 (หนึ่งร้อยยี่สิบเก้าล้านหนึ่งแสนสี่พันเจ็ดร้อยแปดสิบเก้าบาทหกสิบ สองสตางค์) โดยการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของผู้ได้รับผลกระทบซึ่งขณะนี้ได้มอบเงินช่วยเหลือเยียวยาครูและ บุคลากรทางการศึกษาผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้แล้วทั้งสิ้น จำนวน 140ราย เป็นเงิน373,229,677.15 บาท (สามร้อยเจ็ดสิบสามล้านสองแสนสองหมื่นเก้าพันหกร้อยเจ็ดสิบเจ็ดบาทสิบห้า สตางค์) จากครูและบุคลากรทางการศึกษาที่เสียชีวิต รวมทั้งสิ้น184ราย
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยกล่าวว่า วันนี้ พวกเรา ขาวมหาดไทย ฝ่ายปกครอง ผู้นำท้องถิ่น ซึ่งมีภารกิจหน้าที่สำคัญในการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข และให้การสนับสนุน กับทุกท่านในการดูแลพี่น้องประชาชน ได้มาร่วมรับรู้รับทราบ ภารกิจหน้าที่ของ ครู อาจารย์ ผู้บริหาร ศึกษาธิการที่มีความรับผิดชอบอันสำคัญ ต่อการจัดการศึกษา อบรมสั่งสอนให้ลูกหลานมีความรู้มีคุณธรรม ตามปกติในยุคสมัยนี้ การอบรมดูแลเยาวชนก็เป็นเรื่องที่ไม่ง่ายอยู่แล้ว แม้ในภาวะปกติ เพราะสังคมเปลี่ยนไปมาก และมีสิ่ง เบี่ยงเบนความสนใจ ที่จะทำให้ลูกหลานเสียสมาธิในการศึกษาหาความรู้ได้มาก แน่นอนว่าในสถานการณ์ที่ไม่ปกติภารกิจนั้นก็ยิ่งมีความท้าทายมากขึ้นตามที่ทราบกันครับ ว่าในพื้นที่บ้านเรา ได้เกิดสถานการณ์ความรุนแรงมาอย่าง ต่อเนื่องยาวนาน และผมเชื่อว่าเราทุกคนต่างก็ต้องการ “สันติสุข” และนั่นคือหน้าที่โดยตรงของรัฐบาลและ กระทรวงมหาดไทย ที่จะต้องร่วมกันสนับสนุนให้เกิดขึ้น ผมขอย้ำว่า เราคือทีมเดียวกัน และพี่น้องคนไทย ทุกภูมิภาค ทั่วทั้งประเทศต่างก็ติดตามสถานการณ์ในจังหวัดชายแดนได้ด้วยความห่วงใยและต้องการเห็นพื้นที่แห่ง นี้กลับคืนสู่ความสงบสุขโดยเร็วก็ขอให้กำลังใจทุกท่านในการดูแลเยาวชนให้การศึกษาแก่เด็กๆ ลูกๆ หลานๆ ของ พวกเราให้เติบโตขึ้นเป็นคนเก่ง คนดี และมีความสุขตามครรลองของศาสนา ความคิด และความเชื่อที่ถูกต้อง เพื่อเป็นกำลังสำคัญให้กับชุมชน และประเทศชาติบ้านเมืองต่อไป
