วันที่ 10 มค. ร.ต.อ.เอกรัตน์ เจียรเจริญ รอง สว.(สอบสวน) สภ.หนองจิก จ.ปัตตานี ได้รับแจ้งมีเหตุระเบิดขึ้นบนถนนสายชนบท บ้านสายหมอ ม.6 ต.บางเขา จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและนำกำลังไปที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ เจริญศรี ผบก. พล.ต.จตุพร กลัมพสุต ผบ.ฉก.ปัตตานี พ.อ.หาญพล เพชรม่วง ผบ.ทพ.43 และชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด จ.ปัตตานี ไปถึงเจ้าหน้าที่รีบปิดเส้นทางสายดังกล่าวทันทีเพื่อความปลอดภัย เมื่อเข้าตรวจสอบพบรถกระบะยี่ห้อเชฟโลเลต แคปสีบอร์นเงิน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนจอดข้างทางในสภาพถูกแรงระเบิดทำให้กระจกด้านซ้ายแตก ห่างกันประมาณ 20 เมตรมีเศษพื้นผิวถนนแตกกระจายจำนวนมากและพบหลุมระเบิดกว้าง 3 เมตร ลึกเกือบ 2 เมตร มีชิ้นส่วนระเบิด เศษถังแก๊สปิดนิค กระจายไปทั่วบริเวณ เจ้าหน้าที่ได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บเจ้าหน้าที่ได้ลำเลียงส่ง รพ.หนองจิกไปก่อนหน้านี้แล้ว ทราบชื่อ สท.สุรเดช อีดเหล็ก อายุ 30 ปี ถูกสะเก็ดระเบิดที่ศรีษะ ตา และหน้าอก อส.ทพ.สุชาติ กองสุข อายุ 30 ปี ถูกระเบิดเข้าที่ศรีษะ อส.ทพ.เชิงชาย มีชนะ อายุ 38 ปี ขาซ้ายหักและถูกสะเก็ดระเบิดที่ศรีษะ ทั้ง 3 นายถูกนำส่ง รพ.ปัตตานี ส่วน อส.ทพ.ยุทธนา สมบูรณ์แก้ว อายุ 23 ปี อส.ทพ. กิตติชัย หมัดโซ๊ะ อายุ 26 ปี อส.ทพ.สมคิด หกหนู อายุ 42 ปี รท. นพ พรหมยา อายุ 56 ปี อส.ทพ.ไพโรจน์ ฟูจินดามณี อายุ 37 ปี และ อส.ทพ.ณัฐวุฒิ จันทร์สุวรรณรัตน์ อายุ 24 ปี บาดเจ็บเล็กน้อยทั้ง 9 นายสังกัด ร้อย ทพ.4303 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 43
จากการสอบสวนทราบว่า กำลังพลทั้ง 9 นายกำลังเดินทางออกจากฐานปฏิบัติการณ์ด้วยรถกระบะคันเกิดเหตุ เพื่อไปตรวจสอบเหตุคนร้ายลอบวางเพลิงทำลายกล้องวงจรปิด จำนวน 2 ตัวที่ติดตั้งบนเสาไฟฟ้า หน้าโรงเรียนบ้านสายหมอ ซึ่งอยู่ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 5 กิโลเมตร พร้อมไปกับการลาดตระเวนเส้นทางเพื่อควบคุมพื้นที่เกิดเหตุ ปรากฏว่าเมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนซุ่มข้างทางในป่าละเมาะได้กดชนวนระเบิดแสวงเครื่องด้วยวิทยุสื่อสาร ที่ฝังไว้ใต้พื้นผิวถนน บรรจุด้วยถังแก๊สน้ำหนักประมาณ 50 กิโลกรัมจนเกิดระเบิดขึ้นเสียดังสนั่น โชคดีที่รถกระบะของเจ้าหน้าที่ขับผ่านแค่เพียงเสี่ยววินาที ทำให้มีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว
หลังเกิดเหตุ พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 เดินทางไปที่ ห้องฉุกเฉิน รพ.หนองจิก เพื่อตรวจเยี่ยมอาการและให้กำลังใจทหารทั้ง 9 นายที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุดังกล่าว พร้อมระบุว่า เหตุที่เกิดขึ้นเป็นความพยายามของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงที่หวังจะก่อกวนและสร้างสถานการณ์ ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ลาดตระเวนเส้นทางเพื่อคุ่มครองครูทุก ๆ เช้าที่ต้องเดินทางไปสอนหนังสื่อ หลังเข้าตรวจสอบเหตุทำลายกล้องวงจรปิด อีกทั้งคนร้ายพยายามตอบโต้เนื่องจากก่อนหน้าที่ได้มีการจับกุมผู้ต้องหาหลายรายในพื้นที่และมีการกดดันปิดล้อมตรวจค้นอย่างต่อเนื่อง เพราะมีข่าวระบุว่ายังมีความเคลื่อนไหวของกลุ่มก่อเหตุรุนแรงที่ยังคงเตรียมการที่จะก่อเหตุในพื้นที่ จึงทำให้คนร้ายตอบโต้ขึ้น ซึ่งได้กำชับให้มีการระมัดระวังตัวเองและหากต้องตอบโต้ก็ให้ดำเนินตามยุทธวิถีและให้ดูแลความปลอดภัยของประชาชนเป็นที่หนึ่ง
สุไลมาน ปัตตานี
