วันที่ 27 พย. ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.ปัตตานี ว่า ล่าสุดฝนยังคงตกหนักครอบคลุมทั่งทั้ง 12 อำเภอใน จ.ปัตตานี ส่งผลให้น้ำในแม่น้ำปัตตานีและแม่น้ำสายบุรีมีปริมาณสูงขึ้น บางจุดเอ่อล้นตลิ่งท่วมพื้นที่ลุ่ม และหลายพื้นที่มีน้ำท่วมสูงเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ทำให้ต้องนำสิ่งของเครื่องใช้ไฟฟ้าหนีน้ำยกตั้งที่สูง แต่ก็ยังมีเครื่องใช้เสียหายเนื่องจากน้ำขึ้นในช่วงกลางดึก ประชาชนหลายพื้นที่ต้องอบยพออกมาพักอาศัยพื้นที่ปลอดภัยที่ทางอำเภอจัดไว้ให้ ล่าสุด ทางจังหวัดปัตตานีได้ประกาศให้พื้นที่ อ.มายอ และ อ.ทุ่งยางแดง เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติแล้ว โดยพื้นที่ อ.มายอ ได้รับผลกระทบใน 7 ตำบล 25 หมู่บ้าน 1419 ครัวเรือน 4905 คน อ.ทุ่งยางแดง ได้รับผลกระทบ 4 ตำบล 20 หมู่บ้าน 520 ครัวเรือน 2114 คน โรงเรียน 6 แห่ง ต้องหยุดทำการเรียนการสอนเนื่องจากน้ำท่วม น้ำป่าไหลหลาก
ด้าน นางพาตีเมาะ สะดียามู ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี หลังได้รับทราบว่าพื้นที่ ต.ลางา อ.มายอได้รับผลกระทบอย่างหนัก ประชาชนต้องหนีน้ำออกมาอาศัยที่โรงพยาบาลศูนย์ส่งเสริมสุขภาพตำบล จึงได้รีบนำเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจ และเมื่อผู้ว่าราชการจังหวัดไปถึงก็ได้เข้าไปพบปะประชาชนที่อบยพหนีน้ำท่วม ทำให้ผู้ป่วยหญิงติดเตียงรายหนึ่งถึงกับร้องไห้เมื่อเห็นผู้ว่ามาเยี่ยมให้กำลังใจ ซึ่งทางผู้ว่าราชการจังหวัดก็ได้เข้าจับมือให้กำลังใจ ปลอบใจ และสั่งการให้เจ้าหน้าที่ดูแลผู้ป่วยและผู้ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะผู้ป่วยหญิงรายนี้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดได้ให้รถพยาบาลนำตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลปัตตานี
ขณะที่ในพื้นที่ ม.2 ม.3 และ ม.5 ต.ลางา อ.มายอ ยังคงมีน้ำท่วมสูง เนื่องจากน้ำฝนที่มีปริมาณมากและน้ำป่าที่ไหลหลากลงมาเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ทำให้ประชาชนต้องรีบขนย้ายสิ่งของหนีน้ำยกขึ้นบนที่สูง ถนนทางเข้าออกหมู่บ้านถูกน้ำท่วม โชคดีที่บางบ้านมีเรือไว้เดินทางเข้าออกหมู่บ้าน ซึ่งทางหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 42 ได้ระดมกำลังเข้าทำการช่วยเหลือทั้งขนย้ายสิ่งของและนำประชาชนออกมาจากพื้นที่ได้อย่างปลอดภัย
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า นางพาตีเมา สะดียามู ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ได้เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมสรุปสถานการณ์น้ำท่วมชทั้ง 12 อำเภอ ล่าสุดมีรายงานว่า ทางจังหวัดปัตตานีจะประกาศพื้นที่ภัยพิบัติเพิ่มอีก 6 อำเภอ รวมก่อนหน้านี้เป็น 8 อำเภอ
ในเมืองปัตตานีฝนที่ตกหนักมาตลอดหลายวัน ทำให้ถนนในตัวเมืองหลายเส้นทางมีน้ำท่วมขังสูงเกือบ 30 เซนติเมตร เช่นที่ถนนหน้ามัสยิดกลางจังหวัดปัตตานีที่มีน้ำท่วมขัง ทำให้ชาวบ้านที่สัญจรไปมา เป็นไปด้วยความยากลำบาก ต้องมีเจ้าหน้าที่คอยควบคุมการสัญจรไปมา ส่วนที่ถนนเจริญประดิษฐ์ หรือ ถนนเส้น ม.อ. ซึ่งเป็นเส้นถนนย่านการค้าที่สำคัญสุดในเมืองปัตตานี เกิดน้ำท่วมขังตลอดเส้น ทางด้านร้านค้าหลายร้านต้องปิดชั่วคราว พร้อมเอากระสอบทรายมาปิดกั้นน้ำทางเข้าร้านไว้ ส่วนรถสัญจรไปมาด้วยความลำบาก และอีกที่คือถนนหนองจิก ทางเข้า – ออก ประตูเมืองปัตตานี เกิดน้ำท่วมขังด้วยเช่นกัน โดยที่ฝั่งทางออกและทางเข้า ทางเจ้าหน้าที่ได้วางแนวกระสอบทรายกั้นทางน้ำไม่ให้เอ่อไหลขวางเส้นทางสัญจร ทำให้การสัญจรไปมาค่อนข้างลำบาก เนื่องจากการระบายน้ำไม่ทัน
ส่วนที่อำเภอหนองจิก ตำบลลิปะสะโง หมู่ที่ 1 บ้านโคกยาร่วง ซึ่งเป็นพื้นที่ติดกับแม่น้ำปัตตานี และเกิดน้ำท่วมแทบทุกปี ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมแล้วกว่า 86 ครัวเรือน 289 คน โดยผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สำรวจระดับน้ำในหมู่บ้านปรากฏว่าระดับน้ำในหมู่บ้านกำลังสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยระดับน้ำสูงอยู่ที่ 50-80 เซนติเมตร ถนนทางเข้าหมู่บ้านยังอาจใช้จักรยานยนต์สัญจรไปมาได้ แต่ต้องขับโดยระมัดระวัง และชาวบ้านเริ่มที่จะใช้เรือเป็นพาหนะในการเดินทางเข้าออก เพราะบางจุดมีน้ำท่วมสูงเกือบ 1 เมตร ส่วนพื้นที่การเกษตรทั้งหมดเสียหาย โดยขณะนี้ชาวบ้านได้นำมอเตอร์ไซค์ รถยนต์ และสัตว์เลี้ยงทางการเกษตร ไว้บนถนนทั้งหมดแล้ว และยังต้องคอยติดตามสถาณการณ์น้ำอีกต่อไปเพราะยังไม่มีท่าทีว่าฝนจะหยุดตก
