ฟ้อง 10 ล้าน ผจก.ออนไลน์ !! กอ.รมน.ภาค 4 สน.แจ้งความดำเนินคดีฐานดูหมิ่นสร้างความเสื่อมเสีย
วันที่ 9 ก.พ. ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองปัตตานี พ.อ.หาญพล เพชรม่วง ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 43 พร้อมด้วยทนายความและนายทหารรัฐธรรมนูญได้รับมอบหมายจาก พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 และผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ให้ เดินทางเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อดำเนินคดีทั้งอาญาและทางแพ่งทั้งปวง กับ เว็บไซต์ ผู้จัดการออนไลน์ หลังจากที่ได้มีการนำเสนอบทความลงวันที่ 5 ก.พ. มีเนื้อหาระบุมาจากการสัมภาษณ์ลับแหล่งข่าว อดีตเคยเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีความมั่นคง ซึ่งระหว่างถูกควบคุมตัวอยู่ในศูนย์ซักถาม ค่ายอิงคยุทธบริหาร ต.บ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ได้ถูกเจ้าหน้าที่ชุดซักถามสังกัดหน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารพรานที่ 43 ซ้อมทรมานจนปางตายเพื่อให้รับสารภาพ โดยเนื้อหายังระบุลักษณะการทารุนด้วยวิธีต่างๆ ทั้งการซ้อม ตีด้วยพันท้ายปืน รวมถึงการใช้ถุงพลาสติกคุมหัว ทั้งนี้หลังมีการเผยแพร่ข่าวดังกล่าวออกไปจนกลายเป็นเรื่องที่สร้างความเสื่อมเสียให้กับหน่วยทหารในพื้นที่
โดยทั้งนี้ทาง พ.อ.หาญพล เพชรม่วง ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารพรานที่ 43 พร้อมด้วยทนายความ และนายทหารรัฐธรรมนูญได้ยื่นเอกสาร และเนื้อข่าวที่ได้ลงในผู้จัดการออนไลน์ ที่สร้างความเสียหายให้กับหน่วยความมั่นคง ต่อ พ.ต.ท.ทวีศักดิ์ แดงวรวิทย์ รอง ผกก.สอบสวน.สภ.เมืองปัตตานี เพื่อเป็นหลักฐานในการประกอบคดีให้กับทางเจ้าหน้าที่ พร้อมทั้งแจ้งข้อกล่าวหาในฐาน ลงบทความกล่าวหาบุคคลที่สามให้เป็นที่เสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชั่ง โดยการโฆษณา อีกทั้งยังเป็นการนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อความอันเป็นเท็จ โดยประการที่จะน่าทำให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชนได้ โดยข้อร้องทุกข์เพื่อดำเนินคดี เอาผิดตามกฎหมายแก่ บุคลที่เกี่ยวข้องดังกล่าว
ด้านนายวิฑูรย์ คีรีลักษณ์ ทนายความได้เปิดเผยว่า การแจ้งความดำเนินคดีในครั้งนี้เพื่อต้องการที่จะป้องกันสิทธิ์ และหน้าที่ของหน่วย โดยขอยืนยันว่าขั้นตอนของการซักถามผู้ต้องสงสัย มีหลายขั้นตอน ทั้งทนายความ พนักงานสอบสวน ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำศาสนา ญาติของผู้ต้องสงสัย และแพทย์ ซึ่งขั้นตอนการรับเข้าก็มีการตรวจร่างกาย ก่อน ซึ่งบุคคลเหล่านี้ สามารถยืนยันได้ว่า ทางหน่วยไม่ได้ซ้อมหรือมีการทรมานในการซักถาม ซึ่งการลงข่าวในลักษณะอย่างนี้ ทำให้ทางหน่วยเสียชื่อเสียง จึงต้องออกมาปกป้อง ซึ่งทางผู้เสียหายได้ฟ้องร้องทางแพ่งเป็น จำนวนเงิน 10 ล้านบาท
สุไลมาน ปัตตานี
