รมช.ศึกษาประชุมเร่งด่วนติดตามช่วยเหลือนักเรียนครอบครัวมีรายได้น้อยพื้นที่ จชต.เปิดเทอมนี้พร้อม
วันที่ 27 เมย. ห้องประชุมกระทรวงศึกษาธิการส่วนหน้า ค่ายสมเด็จพระสุริโยทัย ตำบลบ่อทอง อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี พลเอก สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานการประชุมติดตามความก้าวหน้าการเตรียมความพร้อมการดำเนินงานโครงการโรงเรียนประชารัฐจังหวัดชายแดนภาคใต้ ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานและสำนักงานอาชีวศึกษา ที่จะเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 นี้
พลเอก สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่า โครงการโรงเรียนประชารัฐจังหวัดชายแดนภาคใต้ดำเนินการโดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และสำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษา หรือโครงการอาชีวศึกษาประชารัฐ จัดตั้งเป็นโรงเรียนประจำพักนอน พร้อมอาหารฟรี และสวัสดิการต่างๆ ให้กับนักเรียน จำนวน 37 อำเภอ ในจังหวัดปัตตานี ยะลา นราธิวาส และ อ.จะนะ อ. เทพา อ.นาทวี และ อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา เป็นโรงเรียนระดับประถมศึกษาและระดับมัธยมศึกษา 1 อำเภอหนึ่งโรงเรียนประถม 1 อำเภอหนึ่งโรงเรียนมัธยม เพื่อช่วยเหลือนักเรียนที่ครอบครัวมีรายได้น้อยไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี นักเรียนที่ไม่มีผู้อุปการะและได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
จากการเปิดรับสมัครและคัดกรองคุณสมบัตินักเรียนเข้าร่วมโรงเรียนโครงการโรงเรียนประชารัฐจังหวัดชายแดนภาคใต้มีนักเรียนเข้าร่วมโครงการจำนวน 4,206 คน เป็นเพศชายจำนวน 1,990 คน เพศหญิงจำนวน 2,216 คน นักเรียนนับถือศาสนาพุทธจำนวน 376 คน นับถือศาสนาอิสลาม 3,830 คนเข้าโรงเรียนในโรงเรียนประชารัฐจังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวน 64 โรงเรียน ในการขับเคลื่อนโครงการโรงเรียนประชารัฐจังหวัดชายแดนภาคใต้ในระยะยาว โดยเสนอโครงการเข้าสู่คณะรัฐมนตรีเพื่อให้ความเห็นชอบโครงการและงบประมาณโดยขณะนี้ผ่านการเห็นชอบจากคณะกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้เรียบร้อยแล้ว จึงมั่นใจได้ว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานจะดำเนินการโรงเรียนประชารัฐจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้ตามเป้าหมายการเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561
พลเอก สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ กล่าวอีกว่า ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสร้างความเข้าใจการรับรู้ให้ตรงกับยุทธศาสตร์ชาติพระราชทานของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สืบสานต่อยอดสิ่งที่ดีงามให้คนไทยอยู่ดีมีสุข อยากให้การทำงานเป็นไปอย่างถ่องแท้ให้มีการศึกษาที่เท่าเทียมกันไม่เหลื่อมล้ำกัน และอยากให้การทำงานเป็นไปตามบทบาทหน้าที่ของยุทธศาสตร์พระราชทาน
