ภูเก็ต-หนุ่มเมืองตรังหอบลูกเมีย มารับจ้างขับรถรับส่งนักท่องเที่ยว ขัดผลประโยชน์เพื่อนร่วมอาชีพ ขอเคลียร์ก่อนเกิดเหตุ 9 มม.จ่อยิง2 นัดซ้อนกระสุนด้าน รถยนต์ชนซ้ำกระเด็นกว่า 5 เมตร รอดตายราวปาฏิหาริย์
เมื่อวานนี้ (7ม.ค.) นายสุวรรณ เชาวดี อายุ 47 ปี อาชีพขับรถรับจ้างป้ายเขียว อยู่บ้านเช่าไม่มีเลขที่ลักษณะเป็นห้องแถว หมู่ที่ 6 ต.กะทู้ อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต เล่าถึงเหตุการณ์เฉียดตาย แต่รอดตายราวปาฏิหาริย์ให้ฟังว่า เมื่อวันที่ 5 ม.ค.63 เวลา 14.30น. ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณปากทางขึ้นหาดฟรีด้อม ถนนหมื่นปี ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต มีคิวรถรับจ้างผู้โดยสารรับ-ส่งชาวต่างชาติ อยู่ 2 คิว อีกคิวหนึ่งอยู่ต้นทางด้านล่าง อีกคิวหนึ่งอยู่ปลายทางด้านบน และได้ตกลงกันก่อนที่จะเปิดให้บริการว่าให้มีได้แค่ 2 คิวๆ ละ 3 คันต่างคิวต่างปฏิบัติตามข้อตกลงกันด้วยดีตลอดมา แต่เปิดให้บริการไปได้ระยะหนึ่งเมื่อไม่กี่วันมานี้
อีกคิวหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ด้านบนก็นำรถคันที่ 4 ออกมาวิ่งรับส่งเพิ่มขึ้นซึ่งมันผิดข้อตกลง ตนจึงเรียกคิวรถที่อยู่ข้างบนลงมาพูดคุยขอร้องกันให้หยุดวิ่งรถคันที่ 4 เพื่อไม่ให้มีใครได้เปรียบหรือเสียเปรียบกัน โดยมีนายจำรัส และนายเต่า พร้อมทีมงาน ขับรถยี่ห้อโตโยต้าฟอร์จุนเนอร์สีดำ 2 คัน ลงมาคุยด้วย การพูดคุยทำความเข้าใจกันไม่สามารถตกลงกันได้ ฝ่ายนายเต่า คิวรถที่อยู่ด้านบนเป็นคนใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม.ที่เตรียมมาจ่อยิ่งตน 1 นัดแต่กระสุนด้าน และพ่อของนายเต่าชื่อนายจำรัส เข้ามารับปืนจากนายเต่า ซึ่งเป็นลูกชาย เอามาจ่อยิงตนอีก 1 นัดแต่กระสุนก็ยังด้านอีกครั้งก่อนตนได้สติออกวิ่งหนีไป แล้วหันมาบอกเพื่อนๆ ว่าอย่าไปทำเขานะๆ เพื่อนๆ ตน ที่เข้ามาดูเหตุการณ์จึงช่วยกันจับ นายเต่า และนายจำรัสเอาไว้ พร้อมกับแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ป่าตองมารับตัวไป ขณะที่กำลังชุลมุนอยู่นั้นนายจำรัจฉวยโอกาสสะบัดตัววิ่งหนีออกไปจากที่เกิดเหตุพร้อมอาวุธปืน 9 มม. ที่ถือยู่ในมือขึ้นรถที่สตาร์ทเครื่องจอดรออยู่แล้ว ขับออกตามหลังตนมา ติดๆ ตนเห็นรถนายจำรัสขับรถยนต์ฟอร์จูนเนอร์ สีดำมาด้วยความเร็วและวิ่งเข้ามาหาตน จึงวิ่งหลบหลีกเพื่อไม่ให้รถนายจำรัสชน แต่ก็วิ่งหนีไม่ทันนายจำรัส จึงขับรถยนต์คันดังกล่าวชนตนกระเด็นไปกว่า 5 เมตร และหมดสติไปฟื้นอีกครั้งที่ โรงพยาบาลป่าตองจากการพูดคุยกับคุณหมอในเวลาต่อมาตนจึงทราบว่า ซี่โครงตนหักสองซี่ มีแผลถลอกที่หน้าท้อง มีแผลที่มือ ที่แขน ที่หน้าผาก ที่ศรีษะแตก ที่เท้า และที่ข้อศอกด้านขวา และยังมีอาการหายใจอึดอัดอยู่ เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าทำไมกลับมารักษาตัวที่บ้าน ก็ได้รับคำตอบว่าผมยังมีลูกมีเมียที่ต้องรับผิดชอบเลี้ยงดูอยู่ ถ้านอนรักษาที่โรงพยาบาลเป็นเดือนๆ ลูกเมียผมจะเอาอะไรกิน ตนยังมีหน้าที่ๆ ต้องรับผิดชอบอยู่ ภรรยาจะได้ดูแลตนได้และไม่เสียงาน อีกอย่างหนึ่งการกลับมารักษาตัวที่บ้านอาจมีความปลอดภัยมากกว่าอยู่ที่ โรงพยาบาลอีกด้วยในส่วนการรอดตายราวปาฏิหาริย์มาในครั้งนี้ ตนคิดว่าเกิดจากการที่ตนทำแต่ความดีมาโดยตลอด และพระก็คุ้มครองคนทำดีครับ หรืออาจเป็นเพราะบารมีของพระเครื่องหลวงปู่ทวดที่ตนคล้องคอติดตัวไว้ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา เพราะตนเคารพนับถือความศักดิ์สิทธิ์ในหลวงพ่อทวดอยู่แล้วพร้อมโชว์พระหลวงปู่ทวดให้ผู้สื่อข่าวดูอีกด้วย
ข่าวน่าสนใจ:
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: