ฉะเชิงเทรา – ไว้ใจธนาคาร เสี่ยแปดริ้วเสียท่าหนุ่มแบงค์แบบไม่ต้องจัดฉากเหมือนแม่มณี แต่อาศัยภาพลักษณ์องค์กรด้านการเงินสร้างความน่าเชื่อถือ ทำเสี่ยใหญ่เมืองแปดริ้วหลงกลยอมปล่อยกู้ให้มิจฉาชีพนานข้ามปี สุดท้ายยังไม่ได้คืนสูญเงินเกือบ 7 ล้านบาท ก่อนเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ พงส. สภ.เมืองฉะเชิงเทรา แต่คดียังไม่คืบ
วันที่ 21 พ.ย.62 เวลา 11.30 น. นายศักดิ์ชาย วณิชย์ถนอม อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 82/10 ม.4 ต.เสม็ดใต้ อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา นักธุรกิจค้าที่ดินและเจ้าของรีสอร์ทแห่งหนึ่งย่าน อ.บางคล้า ได้เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวว่า เมื่อประมาณเดือน ต.ค.61 ที่ผ่านมา ตนเองได้รับการติดต่อทางโทรศัพท์จากผู้จัดการฝ่ายสินเชื่อของธนาคารแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ย่าน สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ว่า
ข่าวน่าสนใจ:
ได้มีลูกค้าสินเชื่อของทางธนาคารขาดสภาพคล่อง และต้องการใช้เงินเข้ามาหมุนเวียนระหว่างที่รอการอนุมัติสินเชื่อจากทางธนาคารจำนวน 29 ล้านบาท โดยจะขอกู้ยืมเงินจากตนเพื่อนำไปใช้จ่ายหมุนเวียนเสริมสภาพคล่องภายในบริษัทก่อน ด้วยความไว้ใจต่อทางผู้จัดการฝ่ายสินเชื่อรายดังกล่าว ที่รู้จักคุ้นเคยกันเนื่องจากตนเองนั้นเป็นลูกค้าของทางธนาคารแห่งนี้มานานถึงกว่า 30-40 ปี และได้เข้าไปทำธุรกรรมทางการเงินกับทางธนาคารแห่งนี้บ่อยครั้ง
จึงยินยอมให้บุคคลซึ่งเป็นเจ้าของบริษัทนายหน้าจัดหาคนงานให้แก่ห้างสรรพสินค้าชื่อดังรายใหญ่แห่งหนึ่ง ซึ่งมีสาขาอยู่ทั่วประเทศกู้ยืมเงินไปรวมทั้งสิ้นจำนวนเกือบ 7 ล้านบาท โดยที่ทางผู้จัดการฝ่ายสินเชื่อรายดังกล่าว ได้เป็นผู้รับรองและยืนยันความน่าเชื่อถือให้ โดยบอกว่าหากสินเชื่อของลูกค้าสาวรายนี้ได้รับการอนุมัติแล้ว ตนเองนั้นมีอำนาจที่จะหักเงินที่ได้รับการอนุมัติให้กู้ยืมจากทางธนาคาร เพื่อนำมาจ่ายคืนให้แก่ตนเองได้ในทันที
อีกทั้งยังมีวงเงินจากทางห้างสรรพสินค้าของลูกค้ารายนี้รอจ่ายให้อีกกว่า 20 ล้านบาท และมีการทำสัญญากู้ยืมเงินกันภายในธนาคารแห่งดังกล่าวในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี
ต่อมาเมื่อครบกำหนดระยะเวลา 4 เดือนตามที่ได้ตกลงกันไว้ ทางหญิงสาวเจ้าของบริษัทจัดหางาน วัย 46 ปีรายนี้ กลับไม่นำเงินมาคืนตามสัญญา เมื่อตนทวงถามไปยังทางฝ่ายของผู้จัดการสินเชื่อธนาคารกลับปิดโทรศัพท์หนี และเมื่อตนเดินทางเข้าไปพบยังที่สำนักงานสาขาฉะเชิงเทรา กับถูกบ่ายเบี่ยง แต่ยังคงยืนยันว่าตนเองจะได้รับเงินคืนอย่างแน่นอน จนถึงวันนี้ผ่านมากว่า 1 ปีแล้ว ตนก็ยังไม่ได้รับเงินคืนเลยแม้แต่บาทเดียว
ตนจึงอยากเตือนภัยให้แก่คนในสังคมได้รับรู้ว่า ในยุคปัจจุบันนี้ไม่สามารถที่จะไว้ใจใครได้เลย แม้แต่คนในสถาบันการเงินขนาดใหญ่ หรือบุคคลที่มีตำแหน่งหน้าที่การงานสูงในองค์กรของธนาคารชื่อดังระดับประเทศ ซึ่งมีความน่าเชื่อถือสูงมากจากประชาชนทางด้านการเงิน ที่เข้าไปฝากเงินเก็บไว้หรือใช้บริการทางด้านการเงินก็ยังไว้ใจไม่ได้
ขณะเดียวกันหลังจากระยะเวลาผ่านเลยกำหนด ในการชำระเงินคืนมานานกว่า 6 เดือนแล้ว ตนจึงได้เดินทางเข้าไปแจ้งความร้องทุกข์ไว้ต่อทางพนักงานสอบสวน สภ.เมืองฉะเชิงเทราแล้ว ตั้งแต่เมื่อช่วงเดือน ก.ค.62 ที่ผ่านมา แต่คดียังไม่มีความคืบหน้ามากนัก นายศักดิ์ชาย กล่าว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: