ฉะเชิงเทรา – ผงะบึงกระจับ ถูกเอกชนใช้แบคโฮบุกรื้อทลายแนวคันดินกั้นน้ำคลองชลประทานพังเสียหายยับ ขณะชาวบ้านร้องฝ่ายปกครองพร้อม จนท.ผู้เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบ ด้านเจ้าของโผล่แจงอ้างไม่มีเจตนารุกที่ดินสาธารณะ เผยที่ทำลงไปเพียงแค่อยากช่วยขยายลำคลองให้กว้างขึ้นเท่านั้น
วันที่ 26 พ.ย.62 เวลา 14.00 น. นางศิริพร ทัพมงคล อายุ 48 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 10 ต.หนองแหน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา พร้อมนายกรีฑา นพเกตุ อายุ 49 ปี กำนัน ต.หนองแหน เจ้าหน้าที่นิติกรและฝ่ายกองช่าง อบต.หนองแหน ได้นำพาสื่อมวลชนลงพื้นที่เข้าตรวจสอบดูพื้นที่ บริเวณแนวเขตคันคลองบึงกระจับ ซึ่งเป็นพื้นที่รับผิดชอบของกรมชลประทาน ภายใต้การดูแลใช้ประโยชน์ของกรมการปกครอง
ข่าวน่าสนใจ:
- เพชรบูรณ์-ผปส.มูลนิธิรณรงค์ไม่สูบบุหรี่ฯ จี้ผู้จัดคอนเสิร์ต-จนท.เข้มบุหรี่ไฟฟ้า
- จนมุมเพราะไก่ชน!! ตำรวจบางละมุงวางแผนเหนือเมฆ หลอกแก๊งค์ค้ายานรกมาซื้อไก่ชน ก่อนตามรวบยกแก๊งค์ ยึดยาบ้าแสนเม็ด - ไอซ์ 1 กก. พร้อมรถ 2 คัน…
- จนท.อุทยานแห่งชาติเอราวัณ จ.กาญจนบุรี รวบ 2 พรานป่าพร้อมอาวุธปืนครบมือ คาดเตรียมออกล่าสัตว์ป่า
- สยบข่าวลือ สจ.ธรรมชาติ หนีซุกเขมร หลังถูกทนายดังแฉเอี่ยวรีดเว็บพนัน
หลังจากมีชาวบ้านร้องเรียนว่า ได้มีเอกชนรายหนึ่งได้พยายามเข้ามาบุกรุกด้วยการใช้รถแบคโฮจำนวน 2 คัน เข้ามาขุดรื้อทำลายแนวคันดินกั้นน้ำ คลองชลประทานบึงกระจับ ซึ่งทางกรมทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้นำงบประมาณเข้ามาขุดลอกและตั้งแนวคันดิน เพื่อป้องกันน้ำเอ่อล้นไหลออกไปท่วมพื้นที่รอบนอก หลังจากเกิดภาวะน้ำท่วมใหญ่ เมื่อปี 2554 และพบว่าคันคลองชลประทาน บริเวณจุดดังกล่าวนี้มีการขุดพังทลายลงจริง
โดย นายยุทธนา จิ๋วสำอาง ผอ.กองช่าง อบต.หนองแหน กล่าวว่า พื้นที่บริเวณดังกล่าว ซึ่งเป็นแนวคันดินป้องกันน้ำท่วมได้มีการถูกรื้อทำลายจริง โดยมีการขุดตักแนวคันดินรุกล้ำลึกเข้ามาในแนวเขตลำคลองรวมเนื้อที่ประมาณ 2 งานจากแนวคลอง ซึ่งมีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 129 ไร่ ตลอดความยาวกว่า 7 กม. โดยมีการขุดโกยดินจนเป็นบ่อลึก และตักดินออกไปวางไว้ยังที่ด้านบนที่ดินของตนเอง หลังพบการกระทำผิด ขณะนี้ได้เตรียมดำเนินการทางกฎหมายแล้ว นายยุทธนา กล่าว
ด้านนายธีรยุทธ ธรรมภักดี นิติกร อบต.หนองแหน กล่าวว่า หลังจากลงพื้นที่ตรวจสอบ การกระทำผิดที่เกิดขึ้นในที่ดินสาธารณะครั้งนี้ เข้าข่ายการกระทำผิดกฎหมายที่ดินมาตรา 9 มาตรา 108 และ พรบ.ขุดดินถมดิน พ.ศ.2543 มาตรา 17 ประกอบมาตรา 35 ซึ่งจะได้รวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เข้าแจ้งความร้องทุกข์ ต่อพนักงานสอบสวน สภ.หนองแหน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป นายธีรยุทธ กล่าว
ขณะเดียวกัน น.ส.ประวีร์วัณณ์ อุปริมูล อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 46 ม.10 ต.หนองแหน ได้เดินเข้ามาแสดงตนว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พี่ชายของตนเองซึ่งเป็นผู้ดูแลที่ดินแปลงของตนในบริเวณนี้ จำนวน 3 ไร่ ได้เป็นผู้ดำเนินการว่าจ้างให้รถแบคโฮเข้ามาขุดดินคันคลองดังกล่าวออกไปจริง โดยที่ตนไม่รู้เรื่องเพราะปกติอยู่แต่ในกรุงเทพฯ
และไม่ได้มีเจตนาที่จะบุกรุกหรือทำธุรกิจที่ก่อให้เกิดรายได้อะไรจากที่ดินบริเวณดังกล่าว เพียงแต่อยากจะช่วยขยายลำคลองให้กว้างขึ้นตรงบริเวณหน้าแปลงที่ดินของตนเอง ที่อยู่ติดกับลำคลองสาธารณะบึงกระจับเท่านั้น เนื่องจากเป็นที่ดินหน้าบ้านหรือหน้าแปลงที่ดินของตน จึงเข้าใจว่าเจ้าของบ้านที่อยู่ติดกับลำคลองสามารถที่จะใช้ประโยชน์ได้ น.ส.ประวีร์วัณณ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เวลา 10.00 น. ได้มีเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงานประกอบด้วย สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาฉะเชิงเทรา โครงการชลประทานฉะเชิงเทรา อบต.หนองแหน และผู้ใหญ่บ้าน ฝ่ายปกครอง ได้ลงพื้นที่เข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว ก่อนที่จะทำบันทึกการตรวจสอบที่ดินบริเวณจุดเกิดเหตุร่วมกันว่า
จุดที่มีการขุดดินนี้ อยู่ในเขตแปลงที่ดินสาธารณะที่ชาวบ้านใช้ประโยชน์ร่วมกัน ตลอดแนวริมคลองบึงกระจับ ตามหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง เลขที่ 17871 ประเภทพลเมืองใช้ร่วมกัน ต.เมืองเก่า-ต.หนองแหน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา จำนวน 129 ไร่ 20 ตรว. โดยเป็นที่ดินอยู่ในการดูแลรักษาของกระทรวงมหาดไทย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: