ฉะเชิงเทรา – เสียงปืนดังลั่น สนั่นถนนสองชุดย่านบ้านซ่องพนมสารคาม ชาวบ้านสะดุ้งตื่นออกมาดูพบหนุ่มใหญ่วัย 53 นอนเป็นศพถูกยิงพรุนข้างทาง ขณะเจ้าหน้าที่เชื่อคนร้ายอาจเป็นคนรู้จักกับผู้ตาย ที่นัดแนะกันออกมาพูดคุยเคลียร์ปัญหาคาใจอะไรบางอย่าง แต่ไม่สามารถตกลงกันได้ก่อนลงมือก่อเหตุสังหารเหี้ยม
วันที่ 26 พ.ย.62 เวลา 22.00 น. ร.ต.ท.วรท ทวีสุข รองสารวัตรเวรสอบสวน สภ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งเกิดเหตุมีเสียงปืนดังขึ้นภายในหมู่บ้านหนองสองห้องจำนวนหลายนัด ก่อนมีคนมาพบศพชายหนุ่มถูกยิงเสียชีวิต ที่บริเวณริมข้างทางถนนสายบ้านซ่อง-หนองสองห้อง พื้นที่ ม.13 ต.บ้านซ่อง อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา จึงเดินทางไปสอบสวนยังในที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุพบชาวบ้านกำลังรุมล้อมมุงดูกันอยู่เป็นจำนวนมากในที่เกิดเหตุ ที่บริเวณใกล้กับเส้นขอบทางแบ่งไหล่ถนน มุ่งหน้าเข้าสู่หมู่บ้าน พบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ 100 สีเขียว หมายเลขทะเบียน กมท-901 ฉะเชิงเทรา ของผู้ตายนอนล้มตะแคงอยู่กับพื้นถนน ห่างจากตัวรถลงไปยังภายในป่าหญ้าข้างทางพบร่างของผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย
สวมเสื้อยืดคอโปโลสีฟ้า สวมกางเกงยีนส์ขายาวสีน้ำเงิน นอนจมกองเลือดเสียชีวิต สภาพถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาด เข้าที่บริเวณหน้าผากซ้ายลึกเป็นทางยาวประมาณ 5 ซม. 1 นัด ที่หน้าอกซ้าย 2 นัด ที่ข้อศอกซ้าย 1 นัด และเอวซ้ายด้านหลัง 1 นัด
สอบถามชาวบ้านใกล้เคียงทราบว่า เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. เศษ ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด โดยดังขึ้นต่อเนื่องเป็นชุด 2 ชุด หลังเสียงปืนสงบลงจึงได้พากันออกมาดูจนพบว่ามีรถจักยานยนต์นอนล้มตะแคงลงอยู่บนพื้นถนน และพบด้ามมืดอีโต้ตกอยู่ข้างตัวรถ 1 อัน ห่างออกไปประมาณ 5-6 เมตร พบตัวมีดตกอยู่ และพบว่ามีร่างของผู้เสียชีวิตนอนอยู่ที่ข้างทางห่างจากตัวรถประมาณกว่า 10 เมตร
ต่อมาได้มี นางกลีบผกา ม่วงขาว อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 193/2 ม.13 ต.บ้านซ่อง ได้เดินทางออกมาแสดงตนว่าผู้ตายเป็นสามี คือ นายสมคิด ม่วงขาว อายุ 53 ปี มีอาชีพขับรถบรรทุกโม่ปูนที่แพล้นปูนย่านวัดโพธิ์ใหญ่ มาได้ประมาณ 3-4 เดือน หลังเลิกงานมักจะแวะดื่มสุรากับเพื่อนที่ทำงานร่วมกันอยู่เป็นประจำและมักกลับเข้าบ้านดึกอยู่เกือบทุกวัน จึงไม่ทราบสาเหตุของการเสียชีวิต เนื่องจากสามีไม่เคยบอกอะไรให้ทราบ
เบื้องต้นไม่พบทรัพย์สินอะไรของผู้ตายติดตัวมา รวมทั้งโทรศัพท์มือถือที่ผู้ตายใช้ติดตัวอยู่เป็นประจำด้วย ภรรยาของผู้ตายระบุ
หลังการสอบสวนและตรวจสอบพยานแวดล้อมเบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า อาจมีคนรู้จักกับผู้ตายได้โทรศัพท์นัดแนะให้มาตกลงอะไรกันบางอย่างตรงบริเวณที่เกิดเหตุ โดยที่ผู้ตายอาจเตรียมมีดอีโต้มาไว้เป็นอาวุธด้วย แต่ไม่สามารถตกลงกันได้ จึงเกิดการต่อสู้กัน เนื่องจากมีร่องรอยของการต่อสู้บนถนนในที่เกิดเหตุ ก่อนที่คนร้ายจะใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่ผู้ตาย จนทำให้ผู้ตายพยายามวิ่งหลบหนี แต่คนร้ายได้ไล่ติดตามไปยิงซ้ำจนเสียชีวิตคาที่ดังกล่าว
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ยังไม่พบปลอกกระสุนปืนตกอยู่ในที่เกิดเหตุ เนื่องจากสภาพแวดล้อมในที่เกิดเหตุค่อนข้างมืดสนิท ส่วนศพของผู้เสียชีวิตทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เตรียมนำส่งไปผ่าชันสูตรโดยละเอียดอีกครั้ง ยังที่ รพ.ศูนย์การแพทย์ฯ ใน อ.องครักษ์ จ.นครนายก
