ฉะเชิงเทรา – รังวัดที่ดิน พนมสารคาม รุดลงสำรวจพื้นที่คันคลองสาธารณะ “บึงกระจับ” หลังถูกเอกชนใช้รถแบคโฮบุกเข้ารื้อทำลายจนพังยับ ก่อนพบความเสียหายของพื้นที่มากกว่า 1 ไร่ 3 งาน ขณะกองช่าง อบต.หนองแหน เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ดำเนินคดีในทุกข้อหาที่สอบพบแล้ว
วันที่ 27 พ.ย.62 เวลา 11.00 น. นายยุทธนา จิ๋วสำอาง ผอ.กองช่าง อบต.หนองแหน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ได้เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.เอนก ศิลมั่น รองสารวัตรสอบสวน สภ.ราชสาส์น ช่วยราชการพนักงานสอบสวน สภ.หนองแหน เพื่อเข้าแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีต่อเอกชนผู้บุกรุกที่ดินสาธารณะ โดยใช้รถแบคโฮ จำนวน 2 คัน เข้าบุกรื้อทำลายคันดินป้องกันน้ำท่วม ริมแนวคลองบึงกระจับจนได้รับความเสียหาย
หลังได้รับหนังสือมอบอำนาจจากนายฉลอง กองอังกาบ ปลัด อบต.หนองแหน ปฏิบัติหน้าที่ นายก อบต.หนองแหน ให้นำพยานหลักฐานประกอบด้วย บันทึกการตรวจร่วมของคณะเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง สำเนาหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง 3 แผ่น สำเนาพระราชบัญญัติการขุดดินและถมดิน พ.ศ.2543 จำนวน 15 แผ่น สำเนาประมวลกฎหมายที่ดิน 3 แผ่น และภาพถ่ายพื้นที่ขุดดิน 2 แผ่น เดินทางเข้าแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมายต่อผู้กระทำผิด
โดยกล่าวหาว่า ดำเนินการขุดดินเพื่อปรับสภาพที่ดินโดยไม่ได้แจ้งต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่นตามมาตรา 17 และเป็นความผิดฐานขุดดินโดยไม่ได้รับใบรับแจ้งจากเจ้าพนักงานท้องถิ่น ตามมาตรา 35 แห่งพระราชบัญญัติการขุดดินและถมดิน พ.ศ.2543 และประมวลกฎหมายที่ดินมาตรา 9 ประกอบมาตรา 108 ทวิ โดย อบต.หนองแหน มีความประสงค์จะดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดตามกฎหมายทุกข้อหา ความผิดทุกกรณีที่ปรากฏได้จากการสอบสวน
ต่อมาได้มีนายช่างรังวัดที่ดิน จากสำนักงานที่ดินพนมสารคาม นำโดย นางรัตนา ด่านดี เจ้าพนักงานที่ดิน อ.พนมสารคาม และนายเชษฐา เงินแพทย์ หัวหน้าช่างรังวัด ได้เดินทางลงพื้นที่เข้ามายังบริเวณจุดเกิดเหตุ ตามที่ได้มีชาวบ้านร้องเรียน และได้ทำการสำรวจรังวัดพื้นที่จนพบว่ามีที่ดินสาธารณะซึ่งเป็นคันคลองชลประทานบึงกระจับ ได้รับความเสียหายไปเป็นจำนวนมากถึงกว่า 1 ไร่ 3 งาน ก่อนที่จะรีบเดินทางกลับไป
จากนั้นในเวลา 16.40 น. ร.ต.อ.เอนก ศิลมั่น พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ได้เดินทางลงพื้นที่เข้าไปตรวจสอบยังในที่เกิดเหตุ ตามที่ได้มีเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงานเดินทางเข้ามาทำการตรวจสอบก่อนหน้าแล้ว และทาง อบต.หนองแหน ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีตามกฎหมายไว้ต่อทางพนักงานสอบสวนในทุกข้อหาความผิดที่สอบพบ เพื่อดูสภาพความเป็นจริงของพื้นที่ประกอบสำนวนการสอบสวนในการดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
