ฉะเชิงเทรา – ผู้ว่าแปดริ้ว ยื่นมือเข้าช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประกอบอาชีพทำไร่สับประรดในพื้นที่ 4 อำเภอ โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประสานความร่วมมือไปยังภาคเอกชน ทั้งห้างสรรพสินค้า ปั้มน้ำมัน เปิดจุดจำหน่ายสับประรด เพื่อเร่งระบายผลผลิตออกสู่ประชาชนและนักท่องเที่ยวแก้ปัญหาราคาตกต่ำ
วันที่ 2 มิ.ย.61 นายสุวิทย์ คำดี ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมด้วย นางดวงเดือน สมวัฒนศักดิ์ เกษตรจังหวัด นางสุชานันท์ ศุภราช พลังงานจังหวัด ได้ร่วมกันเปิดจุดจำหน่ายสับประรดขึ้นภายในปั้มน้ำมัน ปตท. เชลล์ และเอสโซ่ รวม 18 แห่ง และห้างสรรพสินค้าอีก 2 แห่ง ในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อให้การช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่สับประรด จากปัญหาราคาสับประรดตกต่ำที่เกิดขึ้นจนมีเกษตรกรในพื้นที่รวม 4 อำเภอประกอบด้วย อ.พนมสารคาม แปลงยาว สนามชัยเขต และท่าตะเกียบ กำลังได้รับผลกระทบอยู่ในขณะนี้
โดยนายสุวิทย์ กล่าวว่า หลังจากเกิดปัญหาราคาผลผลิตสับประรดของเกษตรกรราคาตกต่ำ จึงได้สั่งการให้พลังงานจังหวัด ได้ประสานไปยังสถานีบริการน้ำมันต่างๆ ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ เพื่อขอความร่วมมือให้เกษตรกรสามารถนำสับประรดออกมาวางจำหน่ายภายในบริเวณปั้มน้ำมันได้ ซึ่งได้รับความร่วมมือจากทางสถานีบริการน้ำมันเป็นอย่างดี โดยมีปั้มน้ำมันจำนวน 18 แห่ง บนถนนสายสำคัญทั้ง 304 และ 314 ได้เปิดพื้นที่ให้แก่เกษตรกรนำผลผลิตสับประรดออกมาวางจำหน่ายสู่ประชาชนผู้บริโภคโดยตรง และนักท่องเที่ยวได้
ข่าวน่าสนใจ:
- นครพนม: เลขาธิการ ป.ป.ส. และ มทภ.2/ผบ.นบ.ยส.24 ประชุมสรุปผลรอบ 3 เดือน โชว์ผลงานยึดยาบ้ากว่า 45 ล้านเม็ด มูลค่ากว่า 3 พันล้านบาท
- ชาวบ้านยังผวา บ้านสไลด์ตกน้ำบางปะกงตามกัน ไม่กล้าออกไปทำกิน
- คู่แข่งนอกสายตานายก ก้อย “พนธ์ มรุชพงษ์สาธร” ขอวัดดีกรีว่าที่นายก อบจ.แปดริ้ว
- นครพนม น้องขวัญ นำทัพกลุ่มนครพนมร่วมใจ เปิดตัว ส.อบจ.นครพนม ทั้ง 30 เขต
นอกจากนี้ยังได้มีการเปิดพื้นที่การจำหน่ายให้แก่เกษตรกร ที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดฉะเชิงเทรา และให้ทางสำนักงานพาณิชย์จังหวัดได้ประสานไปยังห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขาฉะเชิงเทรา ได้ช่วยเปิดพื้นที่ให้แก่เกษตรกรนำสับประรดไปว่างจำหน่ายได้อีกด้วย โดยราคาจำหน่ายนั้นเป็นราคาที่ถูกกว่าราคาปกติมาก จากเดิมในช่วงที่ขายผลผลิตได้ราคาดีในปีที่ผ่านๆ มา สับประรดผลขนาดใหญ่ จะขายได้ราคาเฉลี่ยผลละประมาณ 50-70 บาท
แต่ราคาที่เกษตรกรนำออกมาวางจำหน่ายในขณะนี้ จะอยู่ที่ราคาผลละ 20 บาท ส่วนผลขนาดย่อมลงมาได้มีการจำหน่ายในราคา 10-15 บาทเท่านั้น เพื่อให้เกษตรกรนั้นสามารถระบายผลผลิตออกสู่ผู้บริโภคได้โดยตรง ซึ่งสับประรดที่ทำการเพาะปลูกในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา นั้น มีทั้งรสชาติอมเปรี้ยว และรสชาติฉ่ำหวาน ซึ่งเป็นสับประรดที่ปลอดจากสารพิษอีกด้วย นายสุวิทย์ กล่าว
ด้านนางดวงเดือน สมวัฒนศักดิ์ เกษตรจังหวัดฉะเชิงเทรา กล่าวว่า สำหรับ จ.ฉะเชิงเทรา นั้นมีเกษตรกรทำไร่ปลูกสับประรดในพื้นที่รวม 4 อำเภอ จำนวนพื้นที่เพาะปลูกประมาณ 8,000 ไร่ ซึ่งปกติเกษตรกรชาว จ.ฉะเชิงเทรา จะผลิตสับประรดเพื่อป้อนเข้าสู่โรงงานแปรรูปซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ จ.ชลบุรี แต่ในปีนี้เมื่อช่วงฤดูหนาวที่ผ่านมานั้นในประเทศไทยได้มีสภาพอากาศที่หนาวเย็นนาน จึงทำให้สับประรดสะสมอาหารได้ดีจึงออกผลผลิตมามากถึง 8 หมื่นตัน
ประกอบกับในปีนี้ได้มีเกษตรกรทำการเพาะปลูกสับประรดเพิ่มมากขึ้นจากเดิม 8 พันไร่เป็น 9,500 ไร่ เนื่องจากในปีที่ผ่านมานั้นสับประรดขายได้ราคาดี จนทำให้เกิดภาวะล้นตลาดเกินกว่าความต้องการของโรงงานแปรรูปที่เคยรับซื้อจากเกษตรกรในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา และทำให้ราคาตกต่ำ โดยขณะนี้ทางโรงงานรับซื้อสับประรดจากเกษตรกรแค่เพียงราคา กก.ละ 2.50 บาทเท่านั้น
ทำให้เกษตรกรอยู่ไม่ได้เพราะขาดทุน เนื่องจากต้นทุนที่เกษตรกรจะสามารถอยู่ได้นั้นราคาต้องไม่ต่ำกว่า กก.ละ 3 บาทขึ้นไป ซึ่งในการนำมาวางจำหน่ายแบบเหมารวมทั้งผลโดยที่ไม่ต้องชั่งน้ำหนักตามจุดจำหน่ายที่เปิดให้นี้ เกษตรกรจะสามารถจำหน่ายสับประรดได้ในราคาเฉลี่ย กก.ละประมาณ 7 บาท แตกต่างจากการส่งเข้าสู่โรงงานแปรรูปที่ถูกกดราคาลงเหลือ 2.50 บาท จึงมีส่วนต่างกันถึง 4.50 บาท นางดวงเดือน กล่าว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: