ฉะเชิงเทรา – มือปืนสารภาพ แค้นถูกหนุ่มวัย 53 ปีคราวพ่อดูหมิ่นเหยียดหยามศักดิ์ศรีผู้เป็นมารดา ทั้งยังพยายามกระทำการอนาจารภรรยาของตนมาอย่างต่อเนื่อง นานหลายเดือน ก่อนตัดสินใจตามประกบก่อเหตุสังหารเหี้ยมในที่สุด ขณะตำรวจใช้เวลา 4 วันติดตามกดดันบุกค้นบ้านพักจนได้อาวุธปืนของกลาง สุดท้ายใกล้จวนตัวชิงเข้ามอบตัวก่อนในที่สุด
วันที่ 30 พ.ย.62 เวลา 13.30 น. พล.ต.ต.ธีรพล จินดาหลวง รอง ผบช.ภ.2 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ชาคริต สวัสดี ผบก. ภ.จว.ฉะเชิงเทรา ได้นำตัวนายโสภณ นาคนพคุณ (ต๋อง) อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 55 ม.9 ต.บ้านซ่อง อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ผู้ต้องหาก่อเหตุใช้อาวุธปืนรัวยิงใส่ นายสมคิด ม่วงขาว อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 193/2 ม.13 ต.บ้านซ่อง อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อเวลา 21.30 น. ของวันที่ 26 พ.ย.62 ที่ผ่านมา
โดยเหตุเกิดขึ้นบนถนนสายบ้านซ่อง-หนองสองห้อง พื้นที่ ม.13 ต.บ้านซ่อง อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา หลังชาวบ้านได้ยินเสียงปืนดังขึ้นต่อเนื่องหลายนัด เป็นชุดสองครั้ง ก่อนออกมาดูพบศพของผู้ตายมีบาดแผลถูกยิงตามร่างกายหลายแห่ง และพบรถจักรยานยนต์ที่ผู้ตายขับขี่มานอนล้มตะแคงอยู่บนถนน พร้อมด้วยมีดอีโต้ และด้ามอีก 1 เล่มตกอยู่ในที่เกิดเหตุ ตามที่ได้มีการนำเสนอข่าวไปแล้วก่อนหน้านี้
พล.ต.ต.ธีรพล กล่าวว่า หลังเกิดเหตุ พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม ผบช.ภ.2 ได้สั่งให้ตั้งชุดทำงานเพื่อคลี่คลายคดีนี้ในทันที จนทราบจากทางการสืบสวนว่า ผู้ต้องหาคือนายโสภณ หรือต๋อง เป็นผู้ลงมือก่อเหตุสังหารผู้ตายด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม. จากนั้นจึงได้ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอหมายค้นบ้านพัก จนสามารถตรวจยึดอาวุธปืน ยี่ห้อกล็อก ขนาด 9 มม. ที่ใช้ในการก่อเหตุมาได้ จำนวน 1 กระบอก
ก่อนที่จะยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดฉะเชิงเทราเพื่อขอหมายจับ จนได้รับการอนุมัติหมายจับ เลขที่ 402/2562 ลงวันที่ 29 พ.ย.62 ในข้อหา “ฆ่าผู้อื่นตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่เป็นของผู้อื่นซึ่งได้รับใบอนุญาตให้มีและใช้ตามกฎหมายไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต”
หลังถูกเจ้าหน้าที่กดดันอย่างหนัก และถูกศาลออกหมายจับ นายโสภณ จึงได้ติดต่อขอเข้ามามอบตัวเพื่อต่อสู้คดีกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยังที่ สภ.พนมสารคาม และมีญาติได้นำพาเข้ามามอบตัว เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ผ่านมา (30 พ.ย.62) หลังการสอบปากคำผู้ต้องหาได้ให้การยอมรับสารภาพ ว่า เป็นผู้ที่ใช้อาวุธปืนลงมือก่อเหตุฆ่า นายสมคิด จริงตามวันเวลาที่เกิดเหตุ โดยที่ผู้ต้องหานั้นไม่สมัครใจที่จะไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในที่เกิดเหตุ
ส่วนสาเหตุนั้น นายโสภณ กล่าวว่า เนื่องมาจากความโกรธแค้น ที่ถูกผู้ตายดูหมิ่นเหยียดหยามศักดิ์ศรีของผู้เป็นมารดา ในทำนองว่า เป็นผู้หญิงหากินในขณะที่เมาสุรา หลังจากได้มานั่งดื่มกินอยู่ที่บ้านของตนซึ่งเปิดเป็นร้านค้าของชำประจำหมู่บ้านอยู่เป็นประจำ และล่าสุดยังได้แอบเอาเป้ากางไปถูเข้ากับทางด้านบั้นท้ายของภรรยาตน ในขณะที่กำลังก้มทำงานอยู่ภายในบริเวณบ้านด้วย
จึงทำให้ตนรู้สึกโกรธและคับแค้นใจที่สะสมมานาน ทั้งที่ในส่วนตัวนั้นตนเองไม่ได้รู้จักคุ้นเคยกันกับผู้ตายมาก่อน แต่เป็นเพียงคนในหมู่บ้านย่านเดียวกัน และในวันเกิดเหตุ ยังถูกผู้ตายพูดจาดูหมิ่น เหยียดหยามและท้าทายอีกด้วย จึงได้ตัดสินใจนำอาวุธปืนของผู้เป็นบิดาซึ่งได้เสียชีวิตไปแล้ว พกติดตัวขับรถจักรยานยนต์ติดตามผู้ตายออกไปจากบ้าน
ในขณะที่ผู้ตายกำลังจะขับรถเดินทางกลับบ้าน พร้อมกับได้ถือมีดอีโต้ติดตัวไปด้วยอีก 1 เล่ม เมื่อมาถึงยังจุดเกิดเหตุ ตนจึงได้ก่อเหตุโดยใช้มีดอีโต้ ฟันลงไปที่ศีรษะของผู้ตาย แต่ไม่เข้าเนื้อเนื่องจากปลายมีดไปถูกเข้ากับหมวกกันน็อกของผู้ตายจนด้ามหัก ประกอบกับตัวมีดไม่มีความคม จนถูกผู้ตายร้องด่า และเยาะเย้ยในทำนองดูถูกเหยียดหยามบุพการีเหมือนเดิมซ้ำขึ้นอีก
จึงทำให้ตนเองนั้น ยิ่งทวีความโกรธแค้นและบันดาลโทสะเพิ่มมากขึ้น จึงได้ใช้อาวุธปืนที่พกติดตัวมาเหนี่ยวลั่นไกเข้าใส่ผู้ตายในลักษณะยิงปืนแบบมั่วๆ ไป จนทำให้ผู้ตายพยายามวิ่งหลบหนีเอาตัวรอด ตนเองจึงได้ใช้อาวุธปืนหันทิศทางยิงไล่ตามหลังของผู้ตายซ้ำไปอีก จำนวนหลายนัด จนกระสุนหมดแม็กกาซีน ก่อนที่จะหลบหนีไป และมาถูกทางเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามกดดัน จึงยินยอมเข้ามามอบตัวในที่สุด นายโสภณ กล่าว
หลังการแถลงข่าว ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม พล.ต.ต.ธีรพล อีกว่า ผู้ต้องหาได้มีญาติมาขอยื่นประกันตัวหรือไม่ และจะให้ประกันตัวออกไปหรือไม่ รอง ผบช.ภ.2 ตอบว่า อยู่ที่ดุลยพินิจของทางพนักงานสอบสวน และผู้กำกับการ สภ.พนมสารคาม ว่าจะอนุญาตให้ประกันตัวออกไปหรือไม่ ซึ่งหากพิจารณาดูแล้วว่าผู้ต้องหาจะไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐานหรือไปทำให้รูปคดีเสียหาย และไม่มีพฤติการณ์ที่จะหลบหนี
ก็สามารถที่จะอนุญาตให้ประกันตัว หรือปล่อยตัวชั่วคราวออกไปได้ เนื่องจากผู้ต้องหาได้เดินทางเข้ามามอบตัวด้วยตนเอง โดยต้องใช้หลักทรัพย์เป็นเงินสดในการขอยื่นประกันตัวเป็นเงินไม่ต่ำกว่า 2 แสนบาท พล.ต.ต.ธีรพล กล่าว
