ฉะเชิงเทรา – ชาวบ้านมีความหวัง หลัง อบจ.แปดริ้ว ขน 4 เครื่องจักรกลงานหนักลงพื้นที่แหวกวัชพืชช่วยภัยแล้ง ที่มาอย่างรวดเร็วและลุกลามต่อเนื่อง ตั้งแต่ต้นเดือน ธ.ค. ทำคลองทุกสายแห้งขอดยาวนาน ก่อนประสานขอน้ำดิบต้นทุนเพิ่ม จากสำนักชลประทานที่ 11 เติมลงมาในพื้นที่หล่อเลี้ยงต้นข้าวจนถึงสิ้นฤดูกาลเก็บเกี่ยวในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า
วันที่ 21 ธ.ค.62 เวลา 11.00 น. นายกิตติ เป้าเปี่ยมทรัพย์ นายก อบจ.ฉะเชิงเทรา เร่งนำเครื่องจักรกลงานหนัก (รถแบ็คโฮ) จำนวน 4 คันลงพื้นที่แหวกวัชพืชเปิดร่องน้ำให้สามารถไหลผ่านเข้าสู่พื้นเกษตรกรรมได้อย่างสะดวกรวดเร็วขึ้น หลังได้รับมวลน้ำดิบต้นทุนมาจากสำนักงานชลประทานที่ 11 ผ่านคลองแสนแสบเข้ามาช่วยเหลือชาวนาในการแก้ไขปัญหาภัยแล้งที่กำลังลุกลามเป็นวงกว้างอย่างรวดเร็วในท้องทุ่งโพรงอากาศ
ข่าวน่าสนใจ:
- ชาวบ้านยังผวา บ้านสไลด์ตกน้ำบางปะกงตามกัน ไม่กล้าออกไปทำกิน
- นครพนม : หมอสงค์ หมอผู้สร้าง เปิดตัวสมัครนายก อบจ.นครพนม พร้อม ส.อบจ.นครพนม
- พรรคประชาชนเปิดตัว นายแพทย์จิรชาติ เรื่องวัชรินทร์ หรือ หมอมุดสัง ชิง นายก อบจ.สุราษฎร์ ฯ สมัครจันทร์นี้
- “ปลายฝน ต้นหนาว เคาท์ดาวน์ มิวสิคเฟส สุราษฎร์ธานี” ไฮไลท์ประกวดควายไทยมูลค่ากว่า 10 ล้าน
โดย นายกิตติ กล่าวว่า หลังได้รับการร้องขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านในพื้นที่ท้องทุ่งโพรงอากาศ รอยต่อระหว่าง อ.บางน้ำเปรี้ยว และ อ.เมืองฉะเชิงเทรา ว่า ขณะนี้น้ำในลำคลองสายหลักที่หล่อเลี้ยงพื้นที่ได้แห้งขอดลงอย่างรวดเร็วตั้งแต่ช่วงต้นเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเร็วกว่าในทุกปี จึงทำให้นาข้าวที่กำลังตั้งท้องเริ่มขาดน้ำ ตลอดจนบ่อเลี้ยงกุ้งเลี้ยงปลากำลังจะได้รับความเสียหาย
ทาง อบจ.ฉะเชิงเทรา ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในปัญหาของชาวบ้าน ที่กำลังเดือดร้อนจึงได้ประสานไปยังทาง นายระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา ให้ช่วยประสานขอน้ำจากสำนักงานชลประทานที่ 11 ให้ช่วยปล่อยผันน้ำเข้ามาในพื้นที่ยังในลำคลองแสนแสบเพื่อช่วยพยุงต้นข้าวในท้องทุ่งที่เหลือเวลาในการเก็บเกี่ยวอีกประมาณหนึ่งเดือน ให้มีน้ำหล่อเลี้ยงต่อไปจนสิ้นฤดูกาลเก็บเกี่ยว
แต่ปรากฏว่าในลำคลองทุกสายนั้นได้มีวัชพืชเกิดขึ้นมากีดขวางทางน้ำอยู่เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะผักตบชวาจนทำให้น้ำไม่สามารถไหลเข้ามาสู่ในลำคลองสาขาได้อย่างสะดวก ทาง อบจ.ฉะเชิงเทรา จึงได้เร่งนำเครื่องจักรกลงานหนัก รถแบ็คโฮแขนยาว จำนวน 4 คัน พร้อมทุ่นลอย (เรือพอนทูน) ลงพื้นที่เข้ามาช่วยเปิดทางน้ำในวันนี้ จำนวน 4 จุด คือ
ภายในลำคลองคุ้ยกบ ต.บางแก้ว อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อแหวกกำจัดวัชพืชรวมระยะทาง 3.6 กม. จากพื้นที่ ต.บางแก้ว อ.เมืองฉะเชิงเทรา ไปยัง ต.ก้อนแก้ว อ.คลองเขื่อน ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 14 วันในการดำเนินการจนแล้วเสร็จ ขณะจุดที่ 2 ได้นำรถแบ็คโฮลงไปกำจัดวัชพืชยังที่คลองโพรงกระถิน ใน ต.โพรงอากาศ อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา ระยะทาง 3.5 กม.จากพื้นที่ ม.17 ไปยัง ม.18 ต.โพรงอากาศ
จุดที่ 3 ได้นำรถแบ็คโฮ ลงไปยังคลองสัมปะทวน เพื่อทำการกำจัดผักตบชวา จากภายในลำคลองสัมประทวน อ.เมืองฉะเชิงเทรา ไปยังพื้นที่ ต.โพรงอากาศ ต่อเนื่องไปจนถึงตอกกระทุ่ม อ.บางน้ำเปรี้ยว รวมระยะทาง 20.5 กม. และจุดที่ 4 ได้นำรถแบ็คโฮ ลงไปยังคลองชวดตาสี ต.โพรงอากาศ เพื่อขุดลอกกำกัดวัชพืชภายในลำคลองรวมระยะทาง 9.5 กม.
สำหรับการดำเนินการเร่งขุดลอกคูคลองทั้ง 4 จุดในครั้งนี้ เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในการแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ช่วยเหลือเกษตรกรภายใต้ชื่อโครงการ “คลองสวย น้ำใส” เพื่อใช้เป็นพื้นที่ในการกักเก็บน้ำให้เกษตรกรได้มีน้ำใช้ในพื้นที่หล่อเลี้ยงนาข้าวไปจนตลอดฤดูกาลเก็บเกี่ยวในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้าต่อไป นายกิตติ กล่าว
ขณะที่ นายจรูญ รอดเลี้ยง อายุ 61 ปี อยู่บ้านเลขที่ 11 ม.13 ต.โพรงอากาศ กล่าวว่า ชาวบ้านในพื้นที่โพรงอากาศนั้นประกอบอาชีพทำนาเป็นหลัก โดยขณะนี้แปลงนาข้าวกำลังจะขาดน้ำหล่อเลี้ยงต้นข้าว ซึ่งยังเหลือระยะเวลาอีกประมาณ 1 เดือน จึงจะสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ แต่ขณะนี้เกษตรกรมีน้ำเหลือหล่อเลี้ยงต้นข้าวอยู่ในแปลงนาได้อีกเพียง 1 สัปดาห์เท่านั้น
เมื่อเห็นทาง อบจ.ได้นำเครื่องจักรกลเข้ามาเปิดทางน้ำให้ จึงรู้สึกดีใจและมีความหวังที่นาข้าวจะรอดพ้นจากวิกฤตแล้ว และดีใจมากที่จะมีน้ำเข้ามาหล่อเลี้ยงต้นข้าวต่อไปได้จนถึงสิ้นฤดูกาลปีนี้ นายจรูญ กล่าว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: