สุดสะเทือนใจแม่วัย 26 ใช้มีดแทงลูกน้อย 2 คนจนอาการปางตาย หลังสามีบอกเลิกไปมีภรรยาใหม่ แต่โชคดีหนูน้อยวัย 9 ขวบพยุงร่างหนีตายมานอนร้องขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านอยู่ริมทาง ขณะญาติอ้างเป็นเรื่องภายในครอบครัวปัดสื่อห้ามจุ้น ด้านเพื่อนบ้านเผยเด็กบอก “แม่แทงหนู” ขณะหายใจรวยริน พร้อมสอบถามด้วยความเป็นห่วงบอกฝากสื่อให้ตามดูอาการ
วันที่ 14 ธ.ค.60 เวลา 13.30 น. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก ร.ต.อ.นพดล ทวีชาติ รองสารวัตรเวรสอบสวน สภ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา กล่าวถึงเหตุการณ์กรณี เมื่อเวลา 19.40 น. วานนี้ (13 ธ.ค.60) ได้รับแจ้งเหตุแม่วัย 26 ปี ใช้อาวุธมีดแทงบุตรสาววัย 9 ขวบ และบุตรชายวัย 8 เดือน จนได้รับบาดเจ็บสาหัสก่อนพยายามฆ่าตัวตายตาม ที่บริเวณภายในห้องเช่าย่านชุมชนหน้าวัดบางแสม เลขที่ 8/33 ม.6 ต.ท่าข้าม อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทราว่า
คดีดังกล่าวยังไม่ได้ตั้งข้อกล่าวหาใคร เนื่องจากเป็นเรื่องละเอียดอ่อนทางครอบครัว จึงยังต้องรอสอบสวนทางฝ่ายผู้เป็นมารดา ซึ่งยังได้รับบาดเจ็บนอนรักษาตัวอยู่ภายในโรงพยาบาลอยู่ และยังต้องรอปรึกษากับทางผู้บังคับบัญชา ฝ่ายปกครอง และนักสังคมสงเคราะห์ก่อน เพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาให้แก่เด็กทั้งสองคน
ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นปัญหาทางครอบครัวที่ทำให้ผู้เป็นมารดาเครียดจัด หลังจากสามีบอกเลิกไปมีภรรยาใหม่ ขณะนี้จึงยังต้องรอให้ทางผู้เป็นมารดาของเด็กทั้งสองคน ได้รักษาอาการบาดเจ็บและอยู่ในสภาพจิตใจที่ดีพอก่อน จึงจะทำการเรียกตัวมาสอบสวนอีกครั้ง ร.ต.อ.นพดล กล่าว
จากนั้นผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปยังที่ รพ.เอกชนแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ในพื้นที่ อ.บางปะกง ซึ่งเป็นสถานพยาบาลที่ผู้เป็นมารดาของเด็กถูกส่งตัวเข้ามาทำการรักษาอาการตามสิทธิ์การรักษาประกันสังคม แต่ได้รับการปฏิเสธจากทางโรงพยาบาลในการให้ข้อมูลใดๆ และไม่อนุญาตให้เข้าพบหรือพูดคุยกับทางญาติและผู้ป่วย ซึ่งทราบว่าอาการของมารดาวัย 26 ปีรายนี้ ไม่ได้รับบาดเจ็บทางร่างกายมากนัก แต่กลับถูกนำเข้าไปทำการรักษาอาการยังภายในห้องไอซียู
ต่อมาผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางมายังที่ รพ.พุทธโสธร ในเขตพื้นที่ อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ในเวลา 14.30 น. โดยทราบว่า นางเนตรชนก คำดี นายกเหล่ากาชาดจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้เดินทางเข้ามาเยี่ยมดูอาการของเด็กหญิงวัย 9 ขวบ เหยื่อปัญหาครอบครัว ซึ่งนอนพักรักษาตัวอยู่ที่ชั้น 5 อาคารหอผู้ป่วยศัลยกรรมทั่วไป โดยใช้เวลาเข้าเยี่ยมและพูดคุยอยู่กับผู้ป่วยและทางผู้เป็นยายของเด็กเป็นเวลานานถึงกว่า 1 ชม. ก่อนที่จะเดินทางกลับไป โดยที่ทางผู้เป็นยายของเด็กนั้นไม่ยินยอมให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปร่วมพูดคุยด้วย โดยระบุว่าเป็นเรื่องภายในครอบครัว
ขณะที่อาการของเด็กหญิงวัย 9 ขวบนั้น ในขณะนี้ทางด้านร่างกายอาการดีขึ้นตามลำดับ สามารถพูดคุย และลุกนั่งพิงพนักขอบเตียงได้ แต่ทางด้านจิตใจนั้นยังคงอยู่ในอาการหวาดผวา กลัว และร้องไห้อยู่ตลอดเวลา โดยทางแพทย์ได้ให้น้ำเกลือและยาฆ่าเชื้อ ส่วนบาดแผลที่หน้าอกนั้นแพทย์ได้ทำการเจาะใส่สายยางเพื่อระบายเลือดและน้ำเหลืองออกจากเหยื่อหุ้มปอด ซึ่งโชคดีที่คมมีดไม่ได้แทงไปถูกตรงบริเวณส่วนที่เป็นเนื้อของปอด อาการโดยรวมทางด้านร่างกายถือว่าปลอดภัยแล้ว แต่อาการทางด้านจิตใจยังอยู่ในสภาพที่ย่ำแย่มาก
สำหรับเด็กชายวัย 8 เดือนนั้น ได้รับบาดเจ็บไม่มากนักทางแพทย์ รพ.บางปะกง ได้อนุญาตให้กลับบ้านไปได้แล้ว ตั้งแต่เมื่อช่วงเย็นวานนี้ โดยได้มีผู้เป็นน้องเขยของมารดาเด็กเข้ามารับตัวกลับไปอยู่ในความดูแลของญาติแล้ว
ด้าน นางพัชรี ฟองแก้ว อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8/2 ม.6 ต.ท่าข้าม ชาวบ้านข้างเคียงซึ่งอยู่ด้านฝั่งตรงข้ามเยื้องกับที่เกิดเหตุ ห่างกันประมาณ 30 เมตร กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุเป็นช่วงเวลาประมาณก่อน 18.00 น.วานนี้ ครั้งแรกแฟนตนเห็นเด็กวิ่งออกมานอนอยู่ที่พื้นริมถนน ก็เข้าใจว่าเด็กออกมาวิ่งเล่นกันแล้วหกล้ม คลุกคลานไปตามประสา แต่ได้มีผู้ชายคนหนึ่งผ่านมาเห็นและพบว่าเด็กมีเลือดออกมาจากร่างกายมากและได้เข้าไปช่วยใช้มืออุดปิดที่บริเวณปากแผลใต้หน้าอกทางขวาของเด็กเอาไว้
ตนจึงได้เข้าไปดูจึงเห็นว่าเด็กมีอาการตัวเหลืองและปากเขียวแล้ว โดยร้องบอกออกมาว่า “แม่แทงหนู แม่แทงหนู” อยู่หลายครั้ง และเริ่มมีอาการซึมร่างกายอ่อนเพลียกำลังจะหลับลง ตนจึงบอกว่า “หนูอย่าหลับนะ” และพยายามช่วยกระตุ้น และพูดคุยไม่ให้เด็กหลับอยู่ตลอดเวลา ก่อนที่จะเรียกแฟนของตนให้มาช่วยกันโทรศัพท์แจ้งไปยังหน่วยกู้ภัยฯ ในพื้นที่ให้ช่วยเร่งเข้ามารับตัวนำไปส่งยัง รพ.บางปะกง ส่วนฝ่ายแม่ของเด็กนั้นก็ยังทำร้ายตัวเองอยู่ในบ้าน
จากการสอบถามน้องเขยของแม่เด็กแล้ว ทราบว่า ฝ่ายของสามีนั้นได้บอกเลิกไปเพราะมีภรรยาใหม่ ซึ่งทางน้องเขยเขาก็ยังระบุด้วยว่า ก็ยังรู้สึกเป็นห่วงอยู่เพราะเห็นจิตตกตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้ว โดยผู้ก่อเหตุนั้นทำงานเป็นสาวโรงงาน ส่วนทางฝ่ายอดีตสามีนั้นไม่ทราบเพราะไม่ค่อยได้เห็นหน้ากันบ่อย แต่ครอบครัวนี้เป็นชาว จ.อุตรดิตถ์ ได้เข้ามาเช่าห้องพักอยู่ในพื้นที่แห่งนี้มานานถึงกว่า 10 ปีแล้วโดยมากันเป็นครอบครัวใหญ่หลายคนรวมทั้งญาติพี่น้องด้วย
สำหรับแม่ของเด็กนั้นเห็นกันมานานแล้ว ตั้งแต่ยังเด็กๆ โดยมาเข้าเรียนที่โรงเรียนบางแสม แห่งนี้ ซึ่งก็ถือว่าเป็นเด็กหน้าตาดีคนหนึ่งเพราะเป็นคนพื้นเพทางเหนือ จึงมีผิวขาวสวยจมูกคม จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ตนถึงกับนอนไม่หลับมาตลอดทั้งคืน เพราะเป็นห่วงเด็ก กลัวว่าจะเป็นอะไรไป ถึงฝากให้ทางผู้สื่อข่าวช่วยติดตามไปดูอาการให้ด้วยเพราะอยากรู้ และรู้สึกสงสารเด็กมาก นางพัชรี กล่าว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: