ฉะเชิงเทรา – สงครามอิหร่านสหรัฐ ชาวบ้านไม่สนใจ แต่เตรียมก่อหวอดสงครามแย่งชิงน้ำที่บริเวณตามแนวตะเข็บชายแดนรอยต่อระหว่างสองจังหวัด ฉะเชิงเทราและสมุทรปราการ ก่อนร้องถามไปยัง กปภ.ว่า “น้ำคลองแห้งขอดขนาดนี้แล้ว ยังจะให้บริษัทเอกชนเข้ามาตั้งสถานีสูบน้ำขายอีกหรือ”
วันที่ 8 ม.ค.63 เวลา 13.30 น. ที่ภายในลำคลองนิยมยาตรา อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ ซึ่งเป็นแนวเขตกั้นระหว่าง จ.ฉะเชิงเทรา และสมุทรปราการ ได้มีชาวบ้านลงไปยืนชี้ให้เห็นถึงสภาพของบริเวณก้นคลองที่อยู่ในสภาพของน้ำแห้งขอด จนเห็นผืนดินโผล่ขึ้นมาตลอดแนวความยาวของลำคลองสายนี้ พร้อมร้องถามไปยังการประปาส่วนภูมิภาคว่า
ข่าวน่าสนใจ:
“น้ำในคลองแห้งขอดถึงขนาดนี้แล้ว ทาง กปภ. ยังจะให้บริษัทเอกชนเข้ามาตั้งสถานีสูบน้ำ แย่งชิงเอาน้ำทางการเกษตรจากชาวบ้านไปขายกันอีกหรือ” หลังจากทางการประปาส่วนภูมิภาค ได้มีโครงการที่จะรับซื้อน้ำดิบจากบริษัทผู้ผลิตน้ำประปาภาคเอกชน ในบริเวณพื้นที่เตรียมการก่อสร้าง ที่ ม.4 ต.คลองนิยมยาตรา อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ
เพื่อส่งน้ำดิบข้ามฝั่งเข้ามาขายให้แก่ทางการประปาส่วนภูมิภาคบางคล้า สาขาเทศบาลตำบลพิมพา อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา และสาขาเทศบาลตำบลเทพราช อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา จึงทำให้มีกลุ่มชาวบ้านออกมาเคลื่อนไหว เพื่อคัดต้านโครงการดังกล่าว
ซึ่งล่าสุดได้มีการบุกเข้าไปชุมนุมรวมตัวกันเพื่อเข้ายื่นรายชื่อชาวบ้านที่คัดค้านการก่อสร้างไปถึง ยังศูนย์ดำรงธรรมอำเภอบางบ่อ บริเวณที่ทำการ อบต.คลองนิยมยาตรา พร้อมกับได้มีการโหวตกลางที่ประชุมชี้ขาดต่อหน้า ร.ต.ทองปอนด ถาวรสถิตย์ ปลัดอำเภอ รักษาการณ์นายอำเภอบางบ่อ จ.สมุทรปราการ ซึ่งมาในฐานะหัวหน้าศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ และตัวแทนของบริษัทผู้ที่จะเข้ามารับจ้างสูบน้ำภาคเอกชน เมื่อวันที่ 6 ม.ค.63 ที่ผ่านมา ไปแล้วว่า ชาวบ้านในพื้นที่ริมสองฝั่งคลองไม่ต้องการให้มีโครงการดังกล่าวนี้ขึ้น
โดย นายเชิดศักดิ์ ฝักแคเล็ก อายุ 70 ปี กล่าวว่า ตนประกอบอาชีพเลี้ยงปลาที่บริเวณริมคลองนิยมยาตรา สภาพน้ำในลำคลองสายนี้ปัจจุบันแห้งขอดขนาดนี้อย่างที่เห็น “ทางการประปา (กปภ.) ยังจะให้บริษัทเอกชนเข้ามาสูบน้ำขายอีกหรือ ขอได้โปรดพิจารณาดูว่าสมควรหรือไม่สมควร ประชาชนจะเดือดร้อนตายกันอยู่แล้ว หากยังฝืนจะเข้ามาสูบอีก ในอนาคตข้างหน้าระยะ 5-10 ปี ประชาชนจะกินอะไร จะทำมาหากินได้ตรงไหน ทุกวันนี้ชาวบ้านก็ฝืดเคียงในเรื่องของน้ำด้านการเกษตรกันอยู่แล้ว
จึงขอให้โปรดพิจารณากันให้ดีอย่าเข้ามารบกวนประชาชนคนในตำบลคลองนิยมยาตรา ต.เทพราช และ ต.พิมพา กันอีกเลย นายเชิดศักดิ์ กล่าว
ขณะที่ นายบุญสืบ รัตนะสิทธิ์ อายุ 70 ปี อยู่บ้านเลขที่ 7/1 ม.4 ต.คลองนิยมยาตรา กล่าวว่า ในสมัยอดีตน้ำในลำคลองสายนี้ จะมีน้ำหล่อเลี้ยงลำคลองอย่างต่อเนื่องอย่างยาวนานเป็นเวลาถึงกว่า 6-8 เดือน แต่มาระยะหลังเมื่อประมาณ 4-5 ปีที่ผ่านมา หลังจากได้มีบริษัทบริหารจัดการทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก รายใหญ่รายหนึ่ง ได้เข้ามาตั้งสถานีสูบน้ำที่บริเวณจุดตัดระหว่างคลองประเวศบุรีรมย์และคลองพระองค์เจ้าไชยานุชิต ซึ่งเป็นคลองสายหลัก เส้นเมนใหญ่ของลุ่มน้ำแถบนี้เพื่อส่งไปขายยังในหลายจังหวัดนั้น
ได้ทำให้น้ำในลำคลองสายนี้ลดแห้งลงหายไปอย่างรวดเร็วมาก โดยในลำคลองจะมีน้ำหล่อเลี้ยงอยู่ได้เพียงประมาณ 3-4 เดือนเท่านั้น จากนั้นน้ำจะแห้งขอดหายไปจนไม่พอที่จะนำมาใช้ในการทำการเกษตรได้ เหมือนกับชาวบ้านที่ทำอาชีพเกษตรกรรมถูกแย่งชิงเอาน้ำไป
ขณะเดียวกันทางการประปาส่วนภูมิภาคยังจะมีโครงการว่าจ้างบริษัทภาคเอกชน ให้เข้ามาตั้งสถานีสูบน้ำยังในหมู่บ้านแห่งนี้อีก จึงเป็นการซ้ำเติมชาวบ้านเพิ่มขึ้น จนชาวบ้านทนไม่ไหวแล้ว จึงพากันออกมาเคลื่อนไหวคัดค้านโครงการดังกล่าวนี้ เพื่อไม่ให้เข้ามาแย่งสูบน้ำไปจากพื้นที่อีก จึงอยากให้รัฐบาลและการประปาส่วนภูมิภาค ไปหาที่สูบน้ำแห่งใหม่ที่ไม่ใช่คลองสายนี้ด้วย นายบุญสืบ กล่าว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: