ฉะเชิงเทรา – พ้นวิกฤตถูกยุบ โรงเรียนเก่าคืนชีพ หลังผู้นำชุมชนเข้มแข็งฝ่ากระแสค่านิยมส่งลูกเข้าโรงเรียนดัง ทำผู้ปกครองเชื่อมั่นนำบุตรหลานกลับคืนถิ่นเข้ามาเรียนในโรงเรียนดั้งเดิมของบรรพบุรุษ ให้หวนกลับมามีชีวิตชีวา จนได้ร่วมกันจัดงานวันเด็กอย่างคึกคักสนุกสนานสร้างความอบอุ่นให้แก่ชุมชนบ้านเกิดอีกครั้ง
วันที่ 10 ม.ค.63 เวลา 10.00 น. ที่โรงเรียนวัดบึงกระจับ ตั้งอยู่เลขที่ 34 ม.10 ต.หนองแหน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา นางทองสุข เตียรักษา ผอ.โรงเรียนวัดบึงกระจับ พร้อมด้วย นางศิริพร ทัพมงคล ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 10 ต.หนองแหน ร่วมกับภาคเอกชนและสื่อมวลชนท้องถิ่น ได้ร่วมกันจัดงานวันเด็กแห่งชาติขึ้นภายในโรงเรียนล่วงหน้า ยังภายในโรงเรียนอย่างคึกคักสนุกสนาน
ท่ามกลางบรรยากาศที่อบอุ่น ประกอบการแสดงของเด็กๆ บนเวที โดยที่มีผู้ปกครองมาคอยเฝ้าเชียร์เป็นกำลังใจให้แก่บุตรหลานอยู่ที่ด้านหน้าเวที พร้อมกับการละเล่นร่วมกิจกรรม ตอบคำถามพร้อมการแสดงความสามารถของเด็กๆ
โดยนางทองสุข กล่าวว่า ความสนุกสนานและความสุขของคนในชุมชนที่หวนกลับมาเกิดขึ้นได้อีกครั้งในวันนี้ เนื่องจากเป็นเพราะความเข้มแข็งของผู้นำชุมชน และการสร้างความเชื่อมั่นของสถานศึกษา ที่ได้ร่วมกันแสดงให้เห็นถึงขีดความสามารถให้แก่คนในสังคมได้เห็น เช่น การส่งผลงานของเด็กๆ เข้าร่วมในการประกวดในระดับต่างๆ จนมีเด็กได้รับรางวัลจากการเขียนเรียงความในทุกปี
การเอาใจใส่ในด้านการเรียนการสอนที่ไม่ได้เน้นแต่วิชาการอย่างเดียว โดยเน้นให้นักเรียนได้เรียนรู้การใช้ทักษะชีวิต การพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมให้เป็นเด็กดี มีน้ำใจ และมีความซื่อสัตย์ในสังคมให้อยู่อย่างมีความสุข ขณะที่ครูในโรงเรียนทั้ง 9 คนนั้น ยังมีความขยันขันแข็ง โดยเฉพาะเราได้ครูที่มีความสามารถเฉพาะตัวรอบด้านเกือบทุกคน
เช่น ครูผู้สอนบางท่านเป็นครูพละศึกษา แต่มีความเชี่ยวชาญในวิชาลูกเสือเนตรนารีด้วย ทั้งยังมีความสามารถทางด้านการสอนวิชาคอมพิวเตอร์ให้แก่เด็กๆ อีกด้านหนึ่งด้วย จนทำให้ที่ผ่านมาผลการสอบโอเน็ต และเอ็นที ของโรงเรียนแห่งนี้ ติดอยู่ในอันดับที่ 11 ของเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา เขต 2 ฉะเชิงเทรา จากโรงเรียนในพื้นที่ทั้งหมดจำนวนกว่า 149 แห่ง
สำหรับโรงเรียนแห่งนี้มีเขตการให้บริการแก่ประชาชนรวม 4 หมู่บ้าน คือ ม.10 ม.11 ต.หนองแหน และ ม.5 ม.6 ต.เมืองเก่า โดยที่ผู้นำชุมชนทั้ง 4 หมู่บ้านนั้น เป็นผู้ที่มีความเข้มแข็งและให้การสนับสนุนมาเข้าร่วมกิจกรรมกับทางโรงเรียนโดยตลอด อีกทั้งยังมีกรรมการสถานศึกษาที่มีความเอาใจใส่ คอยเข้ามาดูแลช่วยเหลือแก่ทางโรงเรียนในทุกๆ ด้าน
หลังจากคนในชุมชนและผู้ปกครองได้เห็นถึงขีดความสามารถของโรงเรียนที่อยู่ในลำดับต้นๆ ของเขตพื้นที่การศึกษา จึงได้หันพากันหวนนำพาบุตรหลานกลับเข้ามาเรียนยังภายในโรงเรียนดั้งเดิมของชุมชน ซึ่งอยู่ใกล้บ้านมากขึ้น จากเดิมที่เคยมีจำนวนนักเรียนลดลงต่ำสุดเหลือเพียง 78 คนเมื่อประมาณเกือบ 10 ปีที่แล้ว ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ที่จะต้องถูกยุบโรงเรียน เนื่องจากมีจำนวนนักเรียนน้อย ไม่ถึง 120 คนตามเกณฑ์ที่จะต้องถูกยุบ
แต่ขณะนี้มีจำนวนนักเรียนเพิ่มมากขึ้นเป็น 130 คนแล้ว และยังมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นอีกอย่างต่อเนื่อง ทั้งที่เป็นโรงเรียนที่อยู่ใกล้กับชุมชนขนาดใหญ่ หรือใกล้ตัวเมืองมากที่สุด เช่น ตัว อ.พนมสารคาม และมีโอกาสที่ผู้ปกครองจะนำพาบุตรหลานเข้าไปเรียนยังในโรงเรียนขนาดใหญ่มากที่สุด แต่หลังจากผู้ปกครองยอมรับโรงเรียนของเรามากขึ้น
จากผลการสอบโอเน็ต และผลจากการสอบเข้าเรียนต่อ ม.1 ในโรงเรียนมัธยมขนาดใหญ่ประจำอำเภอ ในระยะ 2-3 ปีที่ผ่านมา นักเรียนที่จบ ป.6 จากโรงเรียนไป สามารถสอบเข้าเรียนต่อชั้น ม.1 ในโรงเรียนมัธยมขนาดใหญ่ได้ 100 เปอร์เซ็นต์เต็ม จึงทำให้ผู้ปกครองของนักเรียนในพื้นที่ มีความไว้ใจและเชื่อมั่นต่อทางโรงเรียนของเรามากยิ่งขึ้น จากนั้นจึงได้พากันนำบุตรหลานกลับเข้ามาเรียนยังภายในโรงเรียนประจำหมู่บ้านแห่งนี้
ซึ่งจุดสำคัญที่ทำให้ผู้ปกครองมั่นใจ และนำบุตรหลานกลับเข้ามาเรียนยังในโรงเรียนประจำท้องถิ่น คือ ทางด้านวิชาการและผลสัมฤทธิ์ เช่น ผลการสอบโอเน็ตสูงกว่าเกณฑ์ในระดับประเทศในทุกปีการศึกษา ขณะที่ทางด้านดนตรีไทย เรายังได้มีการจ้างครูภูมิปัญญาท้องถิ่นมาสอน จนสามารถส่งเข้าไปประกวดในระดับภาคได้
สำหรับโรงเรียนแห่งนี้เป็นโรงเรียนระดับประถมศึกษา ซึ่งเปิดสอนในระดับชั้นอนุบาล 2 จนถึงชั้น ป.6 มีครูจำนวน 9 คน ผู้บริหาร 1 คน ธุรการ 1 คน และนักการภารโรง 1 คน มีเนื้อที่ขนาด 2 ไร่ ปัจจุบันมีขีดความสามารถสูงสุดสามารถรองรับเด็กนักเรียนได้จำนวนประมาณไม่เกิน 200 คน ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจของชาวบ้านและผู้นำชุมชน ตลอดจนครูในโรงเรียน ที่สถานศึกษาขนาดเล็กประจำท้องถิ่นแห่งนี้ฟื้นกลับคืนมาอย่างมีชีวิตชีวาได้อีกครั้ง นางทองสุข กล่าว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: