ประชาชนจำนวนมากพากันหมุนเวียนเข้ามานอนเฝ้าดูฝนดาวตกเจมินิดส์ที่แปดริ้วกันอย่างคึกคัก ขณะกลุ่มนักเรียนนอนนับดาวได้อัตราตกเฉลี่ยแค่ 40 ดวงต่อชั่วโมง ด้านนักดาราศาสตร์ระบุเวลาปะทะสูงสุดเป็นช่วงเวลากลางวันที่ผ่านไปแล้ว เมื่อช่วงบ่ายวันนี้
วันที่ 15 ธ.ค.60 เวลา 00.01 น. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศประชาชนผู้สนใจทางด้านดาราศาสตร์จากหลายพื้นที่ ทั้งในกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกและชาวกรุงเทพฯ ที่ต่างพากันเดินทางมาเฝ้ารอชมปรากฏการณ์ฝนดาวตกเจมินิดส์ และเข้าร่วมกิจกรรมทางด้านดาราศาสตร์กับทางหอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา ประจำภูมิภาค ตั้งอยู่ ต.วังเย็น อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทราว่า บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคักตั้งแต่ในช่วงหัวค่ำ
โดยมีประชาชนต่างพากันทยอยเดินทางเข้ามาร่วมกิจกรรมกันอย่างต่อเนื่อง ทั้งการเข้ามาร่วมกิจกรรมในท้องฟ้าจำลอง กิจกรรมการสังเกตการณ์บนท้องฟ้าผ่านทางกล้องโทรทรรศน์ดูดาว และกิจกรรมเฝ้านอนนับดาวดูฝนดาวตกเจมินิดส์ด้านบนลานดูดาว ที่มีประชาชนต่างพากันเข้ามานอนเรียงรายกระจายกันอยู่จนเต็มทั่วพื้นที่ของลานดูดาวแห่งนี้ พร้อมส่งเสียงดีใจขึ้นเป็นระยะหลังได้พบเห็นปรากฏการณ์ฝนดาวตก ที่มีเฉดสีต่างๆ ตกลงมาจากท้องฟ้า แม้ความถี่หรือระยะห่างของการพบเห็นปรากฏการณ์นั้นจะไม่ถี่มากนัก
โดย นายวรวิทย์ ตันวุฒิบัณฑิต ปราชญ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านดาราศาสตร์ชาว จ.ฉะเชิงเทรา และที่ปรึกษาหอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา ประจำภูมิภาค สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) กล่าวว่า ในวันนี้มีประชาชนเดินทางเข้ามาร่วมกิจกรรมต่างๆ ภายในบริเวณหอดูดาวแห่งนี้ไม่ต่ำกว่าหนึ่งพันคน โดยเป็นการหมุนเวียนกันเข้ามา ซึ่งมีทั้งชาว จ.ฉะเชิงเทราเอง และจากจังหวัดใกล้เคียงตลอดจนชาวกรุงเทพมหานคร และสมุทรปราการนั้น ต่างก็ได้พากันเดินทางมาร่วมกิจกรรมกับทางหอดูดาวแห่งนี้กันเป็นจำนวนมาก ทั้งที่ในช่วงหัวค่ำที่ผ่านมาจะมีกลุ่มเมฆมาก แต่หลังจากช่วงเวลา 21.00 น. ผ่านไปแล้วจึงได้เริ่มมีกิจกรรมดูดาวนั้น ท้องฟ้าได้เปิดโล่ง
ขณะที่อัตราการตกของฝนดาวตกชุดนี้จากการนอนนับดาวตามหลักวิชาการอย่างถูกต้องของนักเรียน โรงเรียนหัวถนนวิทยาคม อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี ที่ได้นำนักเรียนจำนวน 114 คน เดินทางมาร่วมกิจกรรมนั้น สามารถนับได้จำนวนกว่า 80 ดวง ในช่วงระหว่างเวลา 21.00-23.00 น. จึงเฉลี่ยอัตราการตกได้ประมาณ 40 ดวงต่อชั่วโมง และมีทั้งสีเขียว สีแดง สีฟ้า สีเหลือง หลากหลายสี โดยลูกไฟมีขนาดใหญ่พอสมควร
ซึ่งถือว่าไม่ผิดหวัง แม้อัตราการตกจะน้อยกว่าที่ได้มีการคาดการณ์กันเอาไว้ก่อนหน้านี้ ที่ประมาณ 120 ดวงต่อชั่วโมง เนื่องจากช่วงเวลาพีคหรืออัตราสูงสุดในการประทะนั้นได้ผ่านพ้นไปก่อนหน้าแล้ว คือ เมื่อช่วงเวลาประมาณ 13.30 น. ตามเวลาในประเทศไทย โดยเป็นเวลากลางวัน แต่ที่สหรัฐอเมริกานั้นสามารถมองเห็นอัตราการตกของฝนดาวตกเจมินิดส์ ได้จำนวน 120 ดวงต่อชั่วโมงจริง ในเวลาเดียวกันเมื่อช่วงเวลา 03.00 น. ของคืนวันที่ 13 ธ.ค.60 หรือบ่ายโมงครึ่งของวันที่ 14 ธ.ค.60 ตามเวลาบ้านเรานั่นเอง นายวรวิทย์ กล่าว
