ฉะเชิงเทรา – ผบ.พล11 ร่วมหลายหน่วยงานจัดแถลงข่าวกวาดล้างหนี้นอกระบบและผู้มีอิทธิพลตามนโยบายของรัฐบาลให้หมดสิ้นไปภายใน 15 ก.ค.นี้ ผงะหลังมีชาวบ้านเข้าร้องเรียนต่อสื่อระบุมีกำลังพลในสังกัดทำเองปล่อยเงินกู้หนี้นอกระบบก่อนฉ้อโกงนำหลักทรัพย์ค้ำประกันไปขายทั้งที่ผู้กู้ยังส่งดอกเบี้ยให้ต่อเนื่องในทุกเดือน
วันที่ 10 ก.ค.61 เวลา 10.30 น. ที่ห้องประชุมอาคารมหาเจษฎาบดินทร์ ภายในกองพลทหารราบที่ 11 ค่ายสมเด็จพระนั่งเกล้า ต.บางตีนเป็ด อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา พล.ต.วรยุทธ แก้ววิบูลย์พันธุ์ ผบ.กองพลทหารราบที่ 11 นายสุวิทย์ คำดี ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา พ.ต.อ.เกรียงไกร บุญซ้อน รอง ผบก. ภ.จว.ฉะเชิงเทรา และ พ.ต.ท.วิชัย สุวรรณประเสริฐ ผอ.กองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ได้ร่วมกันแถลงข่าวถึงผลการกวาดล้างจับกุมนายทุนเงินกู้นอกระบบในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา รวมมูลค่ากว่า 12.3 ล้านบาท
โดย พล.ต.วรยุทธ กล่าวว่า การปราบปรามกวาดล้างนายทุนเงินกู้หนี้นอกระบบในครั้งนี้ ได้ดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา ที่กำหนดให้ภายในวันที่ 15 ก.ค.61 นี้ จ.ฉะเชิงเทรา จะต้องปลอดจากนายทุนเงินกู้นอกระบบ หรือกำจัดหนี้นอกระบบให้เป็นศูนย์ให้ได้เป็นจังหวัดแรกของประเทศ เพราะเป็นปัญหาเรื้อรังมานาน
โดยเมื่อวันที่ 21 มิ.ย.61 จนถึง วันที่ 5 ก.ค.61 ที่ผ่านมาได้ประกาศให้นายทุนเงินกู้นอกระบบ พร้อมลูกหนี้ได้เข้ามาลงทะเบียนรายงานตัวต่อทางเจ้าหน้าที่ตามความสมัครใจไว้แล้ว เพื่อเข้าสู่ขบวนการไกล่เกลี่ย จากนั้นหลังจากวันที่ 15 ก.ค.61 จะทำการกวาดล้างจับกุมผู้กระผิดอย่างหนัก และบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้นต่อเนื่องไปจนถึงการยึดทรัพย์ ซึ่งหลังการกวาดล้างจับกุมในขณะนี้สามารถทำการจับกุมเจ้าหนี้นอกระบบได้ จำนวน 9 ราย มีลูกหนี้ผู้เสียหายจำนวน 342 ราย โดยมีวงเงินกู้รวม 12.3 ล้านบาท พล.ต.วรยุทธ กล่าว
ขณะเดียวกันก่อนหน้าการแถลงข่าวในวันนี้ เวลา 08.00 น. ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก น.ส.ตา (นามสมมุติ) อายุ 38 ปี ชาว อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ว่า ได้เข้าไปกู้เงินมาจากนายทหารยศจ่าสิบเอกรายหนึ่ง ชื่อ จ.ส.อ.(พ) สังกัด ร.112 พัน 1 มาเป็นเงินจำนวน 15,000 บาท โดยได้นำเอาทรัพย์สินไปวางไว้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันด้วย และจ่ายดอกเบี้ยให้เจ้าหนี้ในอัตราร้อยละ 10 ต่อเดือน ต่อเนื่องในทุกเดือนตลอดระยะ 3 เดือน
ต่อมาเมื่อตนต้องการจะที่เข้าไปใช้หนี้สินทั้งหมด เพื่อไถ่ถอนหลักทรัพย์ค้ำประกันคืนกลับพบว่า “จ่าพอ” ได้นำหลักทรัพย์ของตนไปขายนำเงินไปใช้แล้ว และไม่มีหลักทรัพย์คืนให้ทั้งที่ตนเองนั้นได้ส่งดอกเบี้ยให้มาโดยตลอดไม่เคยขาด จึงได้รับความเดือดร้อนจากนายทุนเงินกู้นอกระบบรายนี้เป็นอย่างมาก เพราะทรัพย์สินที่นำไปจำนองก็มีความจำเป็นต้องใช้ น.ส.ตา กล่าว
ด้าน พล.ต.วรยุทธ ได้กล่าวต่อผู้สื่อข่าวบนเวทีแถลงข่าวว่า หากกรณีที่เกิดขึ้นนี้เป็นไปตามคำร้องเรียนของประชาชนจริง ตนเองจะไม่เอาไว้อย่างแน่นอนโดยจะจัดการขั้นเด็ดขาด และรับรองว่าจะไม่มีการปกป้องแน่นอน เพราะเป็นนโยบายของรัฐบาลโดยหากมีข้อมูลว่าข้าราชการในหน่วยงานไปเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์สามารถประสานมายังที่ตนได้โดยตรง หรือหากไม่ไว้ใจใครก็สามารถร้องเรียนผ่านทางคิวอาโค้ดได้
ที่ผ่านมาเราได้มีการระมัดระวังกำลังพลอยู่แล้วว่าอย่าให้มีเรื่องผลประโยชน์มาเกี่ยวข้องโดยเด็ดขาด เพื่อขจัดและแก้ไขปัญหาให้หมดไปตามการประกาศของทางผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราที่ได้ให้นโยบายไว้ว่าภายในวันที่ 15 ก.ค.61 หนี้นอกระบบใน จ.ฉะเชิงเทรา จะต้องเป็นศูนย์เป็นจังหวัดแรก ตามนโยบายของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.ต.วรยุทธ กล่าว
