ฉะเชิงเทรา – นายกบางไผ่ ควงทนายบุกขึ้นโรงพัก สภ.เมืองฉะเชิงเทรา เข้าแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีต่อสื่อบางสำนัก กรณีกระทำการเผยแพร่ภาพบิดเบือนถนนเลียบทางรถไฟพังเสียหายก่อนเวลาอันควร ยันจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด อ้างกระทำการหมิ่นประมาททำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง และนำข้อมูลอันเป็นเท็จเผยแพร่เข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์
วันที่ 6 ส.ค.61 เวลา 13.50 น. นายยศดนัย สินสมบัติ นายก อบต.บางไผ่ อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา พร้อมด้วย นายชยกร ลี้หยง ทนายความจากสำนักงานกฎหมายชยกร (ทิด) ทนายความ ได้หอบหลักฐานซึ่งเป็นภาพถ่ายและข้อความ ที่นายยศดนัย ระบุว่าเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับถนนสายเลียบทางรถไฟ สายม.4-ม.7 ต.บางไผ่ ที่ถูกนำเผยแพร่ออกสู่สาธารณชนผ่านทางระบบคอมพิวเตอร์ เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ ร.ต.อ.พิชิต วรรณารักษ์ รองสารวัตรเวรสอบสวน สภ.เมืองฉะเชิงเทรา
โดยนายยศดนัย กล่าวว่า จากการกระทำของผู้ประกอบอาชีพสื่อมวลชนบางรายที่ไปถ่ายภาพถนนชำรุด ในส่วนที่ยังอยู่ระหว่างรอขั้นตอนและกระบวนการอนุมัติงบประมาณในการประมูลจัดหาผู้รับเหมาเข้ามาก่อสร้างไปเผยแพร่ออกสู่สาธารณชน จนตนได้รับความเสียหายเสื่อมเสียชื่อเสียงและถูกดูหมิ่นเกลียดชังจากประชาชน จนมีผู้ที่ไม่ทราบข้อเท็จจริงเข้ามาคอมเมนต์ในทางเสื่อมเสียที่ด้านท้ายของข่าวเป็นจำนวนมากนั้น
ข่าวน่าสนใจ:
ในวันนี้จึงได้ทำการรวบรวมพยานหลักฐานเดินทางเข้ามาพบพนักงานสอบสวน เพื่อเข้าแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีต่อผู้ประกอบอาชีพสื่อมวลชนรายดังกล่าว ในข้อกล่าวหา “กระทำการหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ทำให้ได้รับความเสียหายและเสื่อมเสียชื่อเสียง” และข้อหา “นำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์และกระทำการเผยแพร่” ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เนื่องจากการกระทำดังกล่าวนี้ทำให้ตนได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก จึงจะดำเนินคดีจนถึงที่สุดโดยไม่มีการยอมความโดยเด็ดขาด นายยศดนัย กล่าว
และกล่าวว่า การเข้าแจ้งความดำเนินคดีในวันนี้เพื่อจะกระทำให้เป็นเยี่ยงอย่าง สำหรับผู้ที่ประกอบอาชีพสื่อมวลชนนั้นจะต้องมีความเป็นกลาง และมีจรรยาบรรณของสื่อ การทำหน้าที่นำเสนอข่าวเรื่องถนนพังนั้นถือเป็นหน้าที่ของสื่อมวลชนนั้นตนเข้าใจ แต่การที่จะนำเสนอข่าวเผยแพร่ออกไปนั้นควรจะทำไปด้วยความบริสุทธิ์ใจตามความเป็นจริง จึงไม่น่าที่จะนำภาพถนนที่พังเสียหายตรงส่วนที่ไม่ได้เกี่ยวข้องไปทำการเผยแพร่เพื่อให้ตนเกิดความเสียหาย องค์กรเสียหายประชาชนที่ไม่ทราบข้อเท็จจริงเข้าใจผิด จึงอยากให้รู้จักแยกแยะในการทำงาน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าเคยมีเรื่องโกรธเคืองกันกับผู้สื่อข่าวรายนี้หรือไม่ นายยศดนัย กล่าวว่า น่าจะเป็นเรื่องของทางการเมือง ที่ผู้ประกอบอาชีพสื่อรายนี้เคยเป็นรองนายก อบต.บางไผ่ มา 2 สมัย เมื่อครั้ง นายก อบต. คนก่อนดำรงตำแหน่ง โดยเชื่อว่าผู้สื่อข่าวรายนี้ทราบดีอยู่แล้วว่าถนนในโครงการก่อสร้างที่พังนั้นอยู่ตรงไหนอย่างไรเพราะเป็นคนในพื้นที่ จึงเป็นการจงใจที่จะทำให้ตนเองนั้นเสียหายเสื่อมเสียชื่อเสียงอย่างชัดเจน นายยศดนัย กล่าว
ขณะที่นายชยกร ทนายความ กล่าวว่า การดำเนินการตามกฎหมายในครั้งนี้ ได้มีการกระทำความผิดที่ชัดเจนอยู่แล้วว่า ภาพถนนในจุดที่เสียหายหนักนั้นไม่เกี่ยวข้องกันกับถนนที่ทาง อบต.บางไผ่ เพิ่งใช้งบประมาณในการดำเนินการประมูลจัดจ้างให้ผู้รับเหมาก่อสร้างไปจึงทำให้ทาง นายก อบต.เสียหาย นายชยกร กล่าว
ด้าน ร.ต.อ.พิชิต กล่าวว่า คดีนี้เพิ่งเริ่มต้นนับหนึ่งจึงยังไม่สามารถให้ข้อมูลใดๆ ต่อผู้สื่อข่าวได้ และจะต้องขออนุญาตจากทาง ผบ.ตร.ก่อนจึงจะให้สัมภาษณ์ต่อทางสื่อมวลชนได้ โดยเบื้องต้นได้รับแจ้งความร้องทุกข์เอาไว้แล้วเกี่ยวกับคดีกระทำการหมิ่นประมาท ส่วนคดีการนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์และกระทำการเผยแพร่นั้นกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาอีกครั้งว่าเข้าข่ายหรือไม่ ร.ต.อ.พิชิต กล่าว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: