ฉะเชิงเทรา – หลอนค้าง โปลิศชัยภูมิพาหนุ่มแปดริ้วขึ้นด่วนเที่ยวระทึก ซิ่งกวดไล่ตามรถบัสโดยสารที่ละทิ้งลูกค้า ขณะถูก จนท. หิ้วลงไปสุ่มตรวจฉี่หาสารเสพติดระหว่างทาง ทั้งที่ยังมีสัมภาระของผู้โดยสารติดไปกับรถทัวร์ แต่ยังโชคดีที่ ตร. ยังมีความรับผิดชอบ ช่วยนำพาขึ้นรถขับไล่ติดตามแฉลบหลายโค้งจนทัน รวมระยะทางไกลนับ 10 กม. สอบถามคนขับบอกแค่ลืม
วันที่ 12 มี.ค.63 เวลา 14.30 น. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากชายหนุ่มวัย 36 ปี ชาว ต.หนองยาว อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา ได้ขึ้นรถโดยสารสาย เลย-ระยอง ของบริษัทขนส่งชื่อดังรายหนึ่ง (นครชัยทัวร์) จากสถานีขนส่งผู้โดยสาร จ.เลย เพื่อมาลงยังที่สถานีขนส่งผู้โดยสารพนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ในราคา 441 บาท พร้อมด้วยเป้สัมภาระติดตัว 1 ใบ
ข่าวน่าสนใจ:
ซึ่งภายในเป็นของใช้ส่วนตัวและอะไหล่รถยนต์โบราณที่หายาก โดยรถเที่ยวดังกล่าวเป็นรถทัวร์โดยสารเที่ยวสุดท้าย ที่จะออกเดินทางจากต้นทางในเวลา 19.30 น. แต่ได้ออกล่าช้าไปประมาณเกือบ 30 นาที เป็นเวลาประมาณ 20.00 น. หลังจากขึ้นรถทัวร์โดยสาร หมายเลขข้างรถ 824-23 มาได้สักระยะหนึ่งแล้วจึงเผลอหลับไป
มาสะดุ้งตื่นขึ้นหลังจากได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ เดินขึ้นมาสะกิดปลุกให้ตนเองลงไปตรวจปัสสาวะ หาสารเสพติด ซึ่งมีการตั้งด่านจุดตรวจบริเวณด้านหน้าป้อมยามประจำท้องที่ ของ สภ.ช่องสามหมอ อ.คอนสวรรค์ จ.ชัยภูมิ ช่วงเวลาประมาณเที่ยงคืน ซึ่งตนได้ให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่ เดินลงจากรถไปให้เจ้าหน้าที่ทำการตรวจแต่โดยดี
แต่ขณะที่เจ้าหน้าที่ให้ทำการถ่ายปัสสาวะใส่ถ้วย สำหรับใช้ตรวจทดสอบ ตนฉี่ไม่ออกอยู่เป็นเวลานานนับสิบนาที จึงได้ขอเข้าไปฉี่ในห้องน้ำ ก่อนนำมาให้เจ้าหน้าที่ทำการตรวจ แต่หลังทางเจ้าหน้าที่ตรวจเสร็จแล้วไม่พบความผิดปกติอะไร และตนจะเดินทางต่อไป แต่ปรากฏว่า รถทัวร์ที่นั่งมาได้หายไปแล้ว จึงได้แจ้งบอกต่อทางเจ้าหน้าที่ให้ทราบ จากนั้นทางเจ้าหน้าที่จึงได้นำพาตนขึ้นรถยนต์สายตรวจ พาขับไล่ติดตามหารถทัวร์คันที่นั่งมา
โดยเจ้าหน้าที่พาขับรถไล่คิดตามด้วยความเร็วสูงถึง 160-170 กม./ชม. เป็นระยะทางไกลนับ 10 กม. ไปจนทัน โดยระหว่างทางต้องขับรถผ่านทางโค้งหลายครั้ง ที่ตัวรถแฉลบเกือบหลุดโค้งหลายจุด จนทำให้ตนตกใจกลัว ในขณะที่รถทัวร์ก็ได้ใช้ความเร็วสูง หลังจากเจ้าหน้าที่ไล่ติดตามไปจนประชิดต่อท้ายแล้ว ทำการกระพริบไฟใส่จากด้านหลังให้จอด แต่รถทัวร์ไม่ยอมจอด ทั้งบีบแตรเรียกก็ไม่ยอมหยุดรถ
จนตนเองต้องบอกให้เจ้าหน้าที่ขับรถแซงขึ้นไปประกบตรงตำแหน่งที่นั่งของคนขับ แล้วตนได้ยื่นมือไปชี้หน้าคนขับเขาจึงยอมจอดหยุดรถให้ หลังจากขึ้นรถทัวร์คันดังกล่าวไปได้แล้ว จึงได้ทำการต่อว่า ต่อทางคนขับว่าทำไมทิ้งผู้โดยสาร หรือทำการตรวจสอบที่นั่งผู้โดยสารก่อน ว่าขึ้นมาครบหรือไม่ก่อนที่จะออกรถ แต่กลับได้รับคำตอบจากคนขับว่า “ลืม” แล้วก็บอกว่าขอโทษ เท่านั้น
ซึ่งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนไม่ทราบว่าตามกฎหมายแล้ว ทางเจ้าหน้าที่มีสิทธิ์ที่จะกระทำอย่างนั้นหรือไม่ หรือหากทำแล้วทำไมปล่อยให้รถทัวร์ออกไปจากจุดตรวจ ทั้งที่ผู้โดยสารยังขึ้นรถไปไม่ครบ และรถยังเป็นเที่ยวสุดท้ายอีกด้วย หากตำรวจตามไม่ทันแล้วตนจะกลับบ้านอย่างไร ทรัพย์สินสัมภาระของตนจะไปอยู่ที่ไหน อีกทั้งหากตนประสบอุบัติเหตุจากการขับรถไล่ติดตามรถทัวร์ของตำรวจจะเป็นอย่างไร และรถทัวร์โดยสารควรมีความรับผิดชอบมากกว่านี้หรือไม่ หนุ่มรายนี้ระบุ ฝากถามผ่านทางผู้สื่อข่าว
พร้อมเล่าถึงสาเหตุที่ต้องไปเดินหาซื้ออะไหล่รถจนถึงยัง จ.เลย และ จ.เพชรบูรณ์ ว่า ตนได้ซื้อรถยนต์กระบะรุ่นเก่าโบราณยี่ห้อหนึ่งมา เพื่อที่จะนำมาทำการตกแต่งให้เป็นร้านขายแฮมเบอร์เกอร์แบบเคลื่อนที่ ซึ่งอะไหล่บางชิ้นนั้นค่อนข้างหายาก และแฟนตนเองมีภูมิลำเนาอยู่ที่ จ.เลย จึงได้นั่งติดรถยนต์ส่วนตัวของแฟนไปเดินหาซื้อในช่วงขาไป ที่ จ.เพชรบูรณ์ ก่อนนั่งรถโดยสารกลับเองในช่วงขากลับ
ซึ่งอะไหล่แต่ละชิ้นนั้นมีราคาค่อนข้างแพง เนื่องจากเป็นของหายาก และหากสูญหายไปก็อาจหาซื้อไม่ได้อีก เพราะบางร้านเหลือของอยู่เพียงชิ้นเดียว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: