ฉะเชิงเทรา – ถ่วงศพ ยื้อคาดับจิตใน รพ.ดัง กลางเมืองแปดริ้วนานข้ามวัน ทำญาตินั่งน้ำตานองหน้ารอคอยสวดศพเก้อ ทั้งที่มีการเตรียมจัดงานตั้งสวดพระอภิธรรมไว้รอท่า หลังจากไม่มีเงินเรียกใช้บริการแบบครบวงจรตามข้อเสนอของ จนท.บางราย ที่มีบริการเข้ามาแนะนำให้ใช้แบบเดลิเวอรี่ จึงถูกเตะถ่วงให้รอเวลา ทั้งยังอ้างระเบียบหลักการเอกสารซึ่งเป็นข้อแม้มากมาย แต่สุดท้ายไม่ได้ใช้
วันที่ 20 มี.ค.63 เวลา 10.30 น. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยร้องเรียนในความเดือดร้อนจาก นางศิรินภา ศรีมอญ อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 134/1 ม.5 ต.น้ำขุม อ.ศรีนคร จ.สุโขทัย น้องสาวของ นายแอ้ด สมเพท อายุ 54 ปี พนักงานขับรถบรรทุกท่อก๊าซแห่งหนึ่ง ซึ่งมีหน้าที่ขับรถบรรทุกแบบเทรลเลอร์ ส่งท่อก๊าซขนาดใหญ่เพื่อนำไปวางตามแนวถนนให้แก่บริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่ของไทยรายหนึ่ง
ข่าวน่าสนใจ:
ที่ได้มีอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรงแบบเฉียบพลัน ในขณะที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ นำท่อก๊าซมาส่งให้ไซด์งาน เมื่อวันที่ 18 มี.ค.63 ที่ผ่านมาในพื้นที่ อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา ก่อนถูกนำตัวส่งต่อมาจาก รพ.บางน้ำเปรี้ยว เข้ามาทำการรักษายัง รพ.ขนาดใหญ่ประจำในตัวจังหวัด และได้เสียชีวิตลงเมื่อช่วงเวลาประมาณ 15.42 น.วานนี้ (19 มี.ค.63) ด้วยอาการเส้นเลือดในสมองแตก จากสาเหตุความดันโลหิตสูง
โดยนางศิรินภา เล่าว่า ขณะที่ตนและญาติมาติดต่อขอรับศพกลับบ้าน เพื่อที่จะนำไปตั้งบำเพ็ญกุศลยังที่บ้านเกิดใน จ.สุโขทัย ที่บริเวณห้องเก็บศพของทางโรงพยาบาล แต่กลับถูกทางเจ้าหน้าที่ประจำห้องเก็บศพปฏิเสธที่จะปล่อยศพออกจากห้องดับจิต ให้แก่ทางญาติเพื่อรับกลับไปตั้งบำเพ็ญกุศล โดยอ้างว่าจะต้องมีใบมรณะบัตรมาแสดงก่อน จึงจะสามารถรับศพกลับไปได้
ทั้งที่ทางโรงพยาบาล ที่แผนกผู้ป่วยอายุรกรรม ประกันสังคมชายนั้น ได้ออกใบรับรองการเสียชีวิตมาให้แล้ว ทั้งยังบอกว่าทางญาติสามารถที่จะนำไปใช้เพื่อเป็นหลักฐานในการขอรับศพกลับสู่ภูมิลำเนาไปได้เลย แต่ทางเจ้าหน้าที่ประจำห้องเก็บศพกลับไม่ยินยอม โดยอ้างว่าจะต้องไปขอใบมรณะบัตรมาจากทางเทศบาลเมืองฉะเชิงเทราก่อน จึงจะยินยอมปล่อยศพออกไปได้
แต่เนื่องจากเวลาในขณะนั้น เป็นเวลาประมาณ 17.00 น.แล้ว ซึ่งเลยเวลาราชการไปแล้ว ตนจึงได้เดินทางไปพบกับพนักงานสอบสวน ยังที่ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา และได้เข้าไปพบกับร้อยเวรผู้รับแจ้งเหตุ การเสียชีวิตของพี่ชาย ซึ่งทางตำรวจก็ยังได้บอกว่า ให้ทางญาติรับศพกลับไปก่อนได้เลย ส่วนใบมรณะบัตรเอาไว้แจ้งในภายหลังได้ ภายใน 24 ชม. แต่ทางเจ้าหน้าที่ห้องเก็บศพของทาง รพ. ก็ยังไม่ยินยอมอีก
โดยที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็ยังได้โทรศัพท์ไปพูดคุยกับทางเจ้าหน้าที่ของทางเทศบาลแล้ว ทางเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา ก็ยังบอกว่า ให้ญาติเอาศพกลับไปก่อนได้ แล้วทิ้งให้ญาติบางคนรอแจ้งขอใบมรณะบัตรตามกลับไปในวันรุ่งขึ้นได้ ส่วนทางเทศบาลไม่สามารถออกให้ได้ในขณะนั้น เนื่องจากเลยเวลาราชการแล้ว
ขณะที่เจ้าหน้าที่ห้องเก็บศพ ยังพูดจาไม่ดีต่อทางญาติด้วย ทั้งยังขู่กรรโชกอย่างไม่สุภาพ และยังท้าอีกว่า ถ้าไม่มีใบแจ้งตายมาแสดง ก็ไม่สามารถปล่อยศพออกไปได้ ที่ไหนก็เป็นเหมือนกันหมด “ให้ล้านนึงเอาบาทเดียว” ทั้งที่เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยฯ ที่ตนได้ติดต่อขอให้มาช่วยรับศพกลับสู่ภูมิลำเนาจาก จ.กำแพงเพชร คือ กู้ภัยสว่างกำแพงเพชร
ซึ่งเคยไปรับศพออกมาจาก รพ.หลายแห่งแล้ว ได้ยืนยันว่าใน รพ.ที่อื่นๆ ทุกแห่งนั้น เมื่อมีใบรับรองการเสียชีวิตจากแพทย์แล้ว ทางญาตินั้นสามารถใช้เป็นหลักฐานในการติดต่อขอรับศพกลับไปก่อนได้เลย
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ตนเสียความรู้สึกอย่างมาก กับการบริการของเจ้าหน้าที่ห้องเก็บศพที่ รพ.แห่งนี้ ทั้งที่การบริการด้านอื่นๆ ของทางโรงบาลนั้น ดีมาตลอดจนตนรู้สึกประทับใจในการบริการหลายๆ เรื่อง โดยเฉพาะที่แผนกอายุรกรรมชาย ประกันสังคม ชั้น 3 ที่เจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกให้แก่ทางญาติเป็นอย่างดีในทุกๆ ด้าน ทั้งการนำเสียงธรรมมะและบทสวดมนต์มาเปิดให้แก่ผู้ป่วยฟังก่อนตาย
และการช่วยสวดนำทางให้แก่ดวงวิญญาณของผู้ตาย โดยให้ผู้ตายสวดท่องตามเท่าที่เขายังรับฟังได้ และการเตรียมเครื่องพานดอกไม้ขอขมากันก่อนสิ้นใจ และทางเจ้าหน้าที่พยาบาลที่ตึกนั้น ยังบอกกับญาติว่าสามารถใช้ใบรับรองการเสียชีวิตจากทางตึก ไปรับศพกลับออกไปได้เลย แต่เหตุใดที่แผนกห้องเก็บศพ กลับทำในทางตรงกันข้ามทุกอย่าง นางศิรินภา กล่าว
ขณะที่ น.ส.เกศินี ไพศรี อายุ 35 ปี ภรรยาผู้ตาย กล่าวว่า เป็นเพราะเราไม่มีเงินจึงไม่ได้ใช้บริการของเขาที่พยายามแนะนำ เพราะเห็นศพรายอื่นๆ ที่ใช้บริการซื้อโลงศพจากเขา ที่มีการมานำเสนอให้ในราคาใบละ 12,000 บาท แต่ตนใช้โลงศพของมูลนิธิหน่วยกู้ภัยฯ ที่นำมาบริจาคให้ฟรีและยังนำรถมารับศพกลับบ้านไปให้เราฟรีอีกด้วย โดยเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ บอกว่าแล้วแต่เราจะบริจาคเป็นค่าน้ำมันให้ เนื่องจากครอบครัวเราไม่ได้มีฐานะร่ำรวยอะไร
แต่ต้องมาเสียค่าใช้จ่ายหลายอย่างจิปาถะ ทั้งค่ารถ จยย.รับจ้าง ค่ารถตุ๊กๆ สามล้อ ค่าโรงแรมที่พักเพื่อรอแจ้งตาย ในการนำใบมรณะบัตรมาขอรับศพนานข้ามคืน ทั้งยังเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคโควิด19 ด้วย เพราะต้องรออยู่ในโรงพยาบาลเป็นเวลานาน แต่เมื่อนำใบมรณะบัตร ที่กว่าจะไปขอมาได้มาแสดงในวันนี้เขากลับไม่ได้ดูเลยแม้แต่นิดเดียว แต่กลับไปดูใบรับรองการตายใบเดิมของเมื่อวาน ตามที่แพทย์ออกให้
ตนจึงอยากร้องเรียนให้ผู้บริหารของทางโรงพยาบาลแห่งนี้ทราบ ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พวกเราบ้านอยู่ไกล เงินก็ไม่มี แต่เมื่อวานได้มีการเตรียมจัดงานตั้งศพสวดแล้ว แต่ศพกลับรับไปไม่ได้ จนต้องบอกคืนข้าวของที่ได้สั่งเตรียมมาไว้ไปก่อน ซึ่งล้วนแต่มีค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น เพราะเขาเอาของมาเตรียมส่งไว้ให้แล้ว น.ส.เกศินี กล่าว
และกล่าวว่า หลังจากรับศพกลับไปได้แล้ว ในวันนี้จะนำไปตั้งสวดพระอภิธรรม ยังที่บ้านเป็นเวลา 3 คืน ก่อนที่จะนำไปฌาปนกิจยังที่วัดบ้านคลองเจริญธรรม ในวันจันทร์ที่ 23 มี.ค.63 นี้
ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวยังได้รับการเปิดเผยเพิ่มเติมจากผู้ที่เคยประสบเหตุการณ์ในทำนองเดียวกัน จากญาติของผู้เสียชีวิต และเคยมารับศพออกไปจาก รพ.แห่งนี้อีกว่า แผนกจัดการศพหลังการเสียชีวิตของ รพ.แห่งนี้ ได้มีขบวนการกินศพแอบแฝงฝังตัวอยู่เป็นเวลานานแล้ว จนทำให้ญาติของผู้เสียชีวิตได้รับความเดือดร้อนกันอยู่เป็นประจำอย่างถ้วนหน้า ที่ต้องมีค่าใช้จ่าย ค่าบริการในการแต่งหน้าศพ 650 บาท ค่าฉีดยาศพ 500 บาท ค่าโลงศพ 12,000 บาท และยังมีค่ารถขนส่งศพอีก รายละ 2-3 พันบาทหรือตามแต่ระยะทาง
นอกจากนี้หากศพใดมีเงื่อนงำหรือข้อสงสัยแห่งสาเหตุของการตาย ญาติยังจะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการขนส่งศพ เพื่อนำไปผ่าชันสูตรอีก 3,000-4,000 บาท โดยหากญาติของผู้เสียชีวิตรายใดไม่ยินยอมให้ความร่วมมือ หรือไม่ใช้บริการจากกลุ่มคนเหล่านี้ มักจะถูกเตะถ่วง ยื้อเวลา และจะไม่พยายามเร่งรีบดำเนินการตามกระบวนการให้ โดยอาจต้องเสียเวลาอย่างน้อย 3-4 ชม. และบางรายอาจถูกเตะถ่วงจนต้องใช้เวลามากมายจนถึงข้ามวัน เช่นเดียวกันกับศพของผู้เสียชีวิตรายนี้
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: