ฉะเชิงเทรา – บัสเบนซ์ เบียด จยย.สามพ่อแม่ลูกขับแทรกระหว่างกลางถูกเกี่ยวล้มเจ็บกลางเมืองแปดริ้ว โชคดีไม่มีใครเสียชีวิต หลังโชเฟอร์รถบัสมีสติโยกตัวรถหลบให้จนรอดพ้นจากการถูกล้อรถเหยียบซ้ำ ก่อนตำรวจเรียกไปเจรจาตกลงกันยังที่โรงพัก เบื้องต้นรถใหญ่ทั้งคู่มีการทำประกันภัยเอาไว้
วันที่ 4 ก.ย.61 เวลา 19.30 น. ร.ต.อ.พิชิต วรรณารักษ์ รองสารวัตรสอบสวนเวร สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ถูกรถยนต์บัส และรถยนต์เก๋งเฉี่ยวชน ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บนอนแน่นิ่งอยู่บริเวณกลางถนนท่ามกลางการจราจรที่คับคั่ง บริเวณบนถนนมหาจักพรรดิ์ก่อนถึงด้านหน้าวิทยาลับเทคนิคฉะเชิงเทรา ต.หน้าเมือง อ.เมืองฉะเชิงเทรา จึงเดินทางไปสอบสวนยังในที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุพบหญิงอายุประมาณ 24 ปี นอนแน่นิ่งอยู่บนพื้นถนน ในช่องทางการจราจรที่ 2 จากทั้งหมดด้านละ 3 ช่องจราจร ฝั่งขาเข้ามุ่งหน้าสะพานเฉลิมพระเกียรติฯ ข้ามแม่น้ำบางปะกง โดยมีเด็กชายวัย 5 ขวบ สวมชุดนักเรียนโรงเรียนอนุบาลแห่งหนึ่งยืนร้องไห้จ้าอยู่กลางถนน โดยมีผู้เป็นบิดาซึ่งขับรถมาด้วยกันพยายามอุ้มปลอบประโลมระหว่างเจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัยฉะเชิงเทรา กำลังให้การช่วยเหลือปฐมพยาบาลให้แก่ผู้เป็นมารดาของเด็ก
ข่าวน่าสนใจ:
ในที่เกิดเหตุพบรถ จยย.รุ่นเก่าไม่ทราบยี่ห้อสีเขียวหมายเลขทะเบียน 1 กฒ-8263 ฉะเชิงเทรา นอนล้มตะแคงข้างอยู่กลางถนนใกล้กับร่างของผู้บาดเจ็บ โดยมีพลเมืองดีเข้ามาช่วยยกรถขึ้นและนำเข้าไปแอบไว้ข้างทางแล้ว ห่างออกมาจากจุดพบผู้ได้รับบาดเจ็บมาทางด้านหลังประมาณ 4 เมตร พบรถยนต์ยี่ห้อหรู เมอร์เซเดสเบนซ์ คันหมายเลขทะเบียน 4 กว-9907 กทม. จอดอยู่ สภาพกันชนแก้มขวาหน้าฉีกหลุดออกมาจากตัวรถ และมีรอยครูดยาวไปตามแนวประดูรถทั้งสองบาน กระจกมองข้างขวาแตกหัก
ห่างออกไปจากจุดแรกประมาณ 35 เมตร พบรถยนต์บัสรับส่งพนักงาน ยี่ห้อนิสสัน หมายเลขทะเบียน 30-1550 ฉะเชิงเทรา ลายการ์ตูนพื้นสีม่วงจอดอยู่ที่บริเวณใต้สะพานลอยด้านหน้าวิทยาลัยเทคนิคฉะเชิงเทรา
จากการสอบสวน นายสมบัติ พุ่มเรือง อายุ 43 ปี อยู่ห้องเช่าเลขที่ 46/24 ถ.ศรีโสธรตัดใหม่ ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา เล่าว่า ได้พบเห็นเหตุการณ์ตั้งแต่แรกเพราะขับรถ จยย.ตามหลังมาว่า รถยนต์เก๋งเบนซ์ได้ขับออกมาจากเลนซ้ายสุดและเบียดเข้ามาในเลนกลาง โดยมีรถ จยย.สามพ่อแม่ลูกขับแซงขึ้นไปทางขวาจนเลยผ่านตัวรถยนต์เก๋งไปอยู่ตรงบริเวณหัวมุมด้านหน้าของรถเก๋งแล้ว โดยมีรถยนต์บัสขับแซงขึ้นไปในเลนด้านขวา
จึงทำให้ประตูของรถบัสนั้นไปเกี่ยวเข้ากับหัวไหล่ของคนบนรถจักรยานยนต์ที่ขับอยู่ระหว่างกลางจนเซล้มไปเบียดใส่รถยนต์เก๋ง ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นมารดาเด็ก 1 ที่มีเลือดไหลออกมาจากศีรษะนองพื้น ส่วนเด็กชายวัย 5 ขวบมีบาดแผลถลอกตามท่อนแขนเล็กน้อยเพราะแม่เด็กอุ้มไว้ ขณะที่พ่อเด็กไม่เห็นแสดงอาการบาดเจ็บ หลังเกิดเหตุตนจึงได้จอดรถและเข้าไปให้การช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บดังกล่าวด้วย นายสมบัติ กล่าว
ด้าน รองศาสตราจารย์สำราญ มั่นทับ อายุ 61 ปี อยู่บ้านเลขที่ 798 หมู่บ้านสวนริมคลอง 2 ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา อาจารย์คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมหาวิทยาธรรมศาสตร์ ซึ่งขับรถยนต์เก๋งยี่ห้อหรูคันดังกล่าวมา กล่าวว่า หลังจากมาออกกำลังกายตีเทนนิสเสร็จแล้ว จึงได้ขับรถยนต์มาตามเส้นทางในเลนกลางเพื่อที่จะเข้าไปหาเพื่อนยังภายในวิทยาลัยเทคนิคฉะเชิงเทรา
แต่เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุได้เห็นรถบัสขับเบียดรถ จยย. จนล้มเข้ามาครูดที่ด้านขวาของตัวรถที่ตนขับมา จึงหันไปดูและพบว่ารถ จยย.ถูกเบียดจนล้มลงมาแล้วโดยรถบัสแซงขึ้นมาภายหลังก่อนเกิดเหตุ รศ.สำราญ กล่าว
ขณะที่ นายสิทธิพงศ์ ธรรมรัตน์ อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 51 ม.2 ต.หนองบัว อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา คนขับรถบัสกล่าวว่า ขณะเกิดเหตุตนได้รับสัญญาณไฟเขียวจึงได้ขับออกมาจากทางสามแยกสัญญาณไฟปากซอยสมัครแยกเข้าศาลากลางบนเลนที่ 2 และเห็นรถยนต์เก๋งพยายามที่จะขับปาดออกมาจากเลนซ้ายเพื่อเข้าสู่เลนกลาง ตนจึงบีบแตรเตือนไป 1 ครั้ง จากนั้นตนจึงหลบออกมาทางเลนขวาสุด และขับไปตามทาง
จนมาได้ยินเสียงครูดดังที่ด้านข้างซ้ายของตัวรถจึงได้มองดูและเห็นว่ามีรถ จยย.กำลังล้มลงอยู่ระหว่างกลางถนนจึงได้พยายามโยกหักพวกมาลัยออกไปชิดทางด้านขวาสุด ริมขอบเกาะกลางถนนเพราะเกรงว่าล้อรถจะเหยียบรถ จยย.ที่กำลังล้มลงและกลิ้งไปตามแรงชนของรถเบนซ์ ซึ่งหากไม่หักหลบออกมาตนเชื่อว่าล้อรถน่าจะทับร่างของผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างแน่นอน
โดยตนขับรถรับส่งพนักงานให้แก่บริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์แห่งหนึ่งย่านกิ่งแก้ว จ.สมุทรปราการ มาส่งยังตัวเมืองฉะเชิงเทรา ซึ่งมีพนักงานเหลืออยู่บนรถแค่เพียงสองคนเท่านั้นขณะเกิดเหตุ นายสิทธิพงศ์ กล่าว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: