X
ถูกกระแสน้ำพัด

สุดเศร้า นักเรียน ม.1 เซ่นน้ำป่าหลากพนมสารคามแล้ว 1 ศพ

ฉะเชิงเทรา – สุดเศร้า นักเรียนหญิงชั้น ม.1 เซ่นน้ำป่าหลากแล้ว 1 ศพ หลังไม่สนเสียงร้องเตือนจากชาวบ้านขับรถ จยย.ฝ่ากระแสน้ำเชี่ยวกรากที่ไหลบ่าตัดข้ามเส้นทางการสัญจรก่อนถูกพลัดปลิวจมน้ำหายไปต่อหน้าต่อตาผู้เห็นเหตุการณ์ เผยพยายามหาสิ่งของท่อนไม้ไผ่ยื่นให้ยึดจับไว้แล้วแต่ไม่สำเร็จ

วันที่ 17 ก.ย.61 เวลา 17.30 น. ร.ต.อ.สมศักดิ์ ปวงสุข รองสารวัตรเวรสอบสวน สภ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งเหตุมีเด็กนักเรียนหญิงถูกกระแสน้ำพัด จนยานพาหนะรถจักรยานยนต์เสียหลักถูกพัดปลิวหายไปตามกระแสน้ำและจมน้ำเสียชีวิตในที่สุด ที่บริเวณเส้นทางเข้าสู่หมู่บ้านคูเมือง พื้นที่ ม.1 ต.ท่าถ่าน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา จึงเดินทางไปสอบสวนยังในที่เกิดเหตุ

ม.1 ถูกดน้ำพัดที่เกิดเหตุพบชาวบ้านและหน่วยกู้ภัยพนมสารคามกำลังช่วยกันดำน้ำงมหาอยู่เป็นเวลานานถึงกว่าครึ่ง ชม. หลังเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 16.27 น. และใช้เวลางมหาจนพบรถจักยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า เฟรช 2 สีฟ้าหมายเลขทะเบียน ขษร-745 สงขลา ก่อนนำขึ้นมาจากน้ำได้เมื่อเวลา 17.02 น. จากนั้นอีกกว่า 10 นาที ต่อมาจึงสามารถงมหาร่างของผู้เสียชีวิตจนพบเมื่อเวลา 17.12 น.เซ่นกระแสน้ำเชี่ยวทราบชื่อต่อมา คือ ด.ญ.อาริษา ปิ่นกุล อายุ 13 ปี อยู่บ้านเลขที่ 157 ม.1 ต.ท่าถ่าน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นเด็กนักเรียนชั้น ม.1 ของโรงเรียนวัดหนองเสือ ตั้งอยู่ในพื้นที่ ต.เกาะขนุน โดยขณะเกิดเหตุกำลังเดินทางจากโรงเรียนกลับบ้าน ด้วยการขับรถฝ่ากระแสน้ำที่กำลังไหลบ่าอย่างเชี่ยวกรากตัดข้ามเส้นทางผู้เห็นเหตุการณ์เล่านาทีชีวิตโดย นายระเบียบ บุญมาก อายุ 72 ปี ชาวบ้านผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ผู้ตายขับรถจักรยานยนต์ฝ่ากระแสน้ำที่กำลังไหลแรงตัดผ่านข้ามถนน โดยตนได้พยายามโบกมือบอกไม่ให้ขับรถผ่านข้ามมา แต่ผู้ตายไม่สนใจสัญญาณแจ้งเตือนจากตน ยังคงขับรถเดินหน้าฝ่ากระแสน้ำมาต่ออีกจึงถูกน้ำพัดปลิวตกลงไปยังข้างทาง ซึ่งตนได้รีบวิ่งนำท่อนไม้ไผ่ยื่นไปให้การช่วยเหลือจับยึดแล้ว แต่ไม้ไผ่มีความยาวไม่ถึง จึงเห็นผู้ตายผุดโผล่ขึ้นมาจากน้ำอยู่ 3 ครั้ง จากนั้นจึงจมหายไปต่อหน้าต่อตา นายระเบียบ กล่าวรถคันเกิดเหตุ

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

Picture of สนทะนาพร อินจันทร์

สนทะนาพร อินจันทร์

ลุยงานช่วยเหลือคนเดือดร้อนมาทั้งชีวิต อย่างไม่คิดเรียกสิ่งตอบแทน