X
ญาติต้องมาดึงตาออก

ศพสาว 19 แขวนคอ ประชดลุงตู่ปิดเมืองสกัดโควิด ถึงวัดใกล้บ้านเกิดแล้ว

ฉะเชิงเทรา – ศพสาวแขวนคอ ประชดลุงตู่ปิดเมืองสกัดการระบาดของโรคโควิด 19 ส่งมาถึงวัดใกล้บ้านเกิดแล้ว ขณะผู้เป็นตาเคยเลี้ยงดูมาแต่เด็กตรงโผเข้าลูบหน้าผาก ก่อนปล่อยโฮน้ำตาซึมรำพันถาม “ทำไมหนูถึงตัดสินใจเด็ดเดี่ยวนัก” เผยไม่เคยทราบมาก่อนหลานสาวฝักใฝ่การเมือง แต่เคยสั่งห้ามรับเงินสงเคราะห์คนชราจากรัฐบาลเพียงครั้งเดียว ก่อนเตรียมตั้งพิธีศพสวดพระอภิธรรมนาน 4 คืน

วันที่ 29 เม.ย.63 เวลา 16.00 น. ที่วัดแสนภูดาษ พื้นที่ ม.2 ต.แสนภูดาษ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา เจ้าหน้าที่อาสาสมัครจากมูลนิธิการกุศล ได้ทำการเคลื่อนย้ายร่างของ น.ส.ปลายฝน อ่ำสาริกา อายุ 19 ปี รปภ.สาว ผู้ที่ตัดสินใจปลิดชีพตนเองด้วยการแขวนคอตายในห้องพัก หลังจากได้ทำการวาดภาพของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ก่อนเขียนระบายถึงความอัดอั้นตันใจ

วัดแสนภูดาษ

ในความทุกข์ยากจากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด 19 จนรัฐบาลต้องประกาศเคอร์ฟิวปิดเมือง ทำให้ไม่มีเงินซื้อนมให้ลูกกินนั้นได้ถูกส่งมาถึงยังที่ศาลาปลงสังเวชภายในวัดแสนภูดาษแล้ว ท่ามกลางการเตรียมสถานที่จัดงานสวดพระอภิธรรมศพของบรรดาญาติ ที่เข้ามาเตรียมจัดงานไว้รองรับ โดยมี นางเรวดี ตันเสถียร หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นหน่วยงานรัฐหน่วยงานแรก ที่เดินทางมารอรับตั้งแต่เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา

ตาตรงเข้าถาม

ทันทีที่เจ้าหน้าที่เปิดโลงบรรจุศพ เพื่อเตรียมนำร่างของผู้เสียชีวิต ออกมาตั้งเพื่อรอทำพิธีรดน้ำศพ นายพร อ่ำสาริกา อายุ 69 ปี อยู่บ้านเลขที่ 13/4 ม.2 ต.หนองจอก อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ผู้เป็นตาและเป็นผู้เลี้ยงดูหญิงสาวผู้เสียชีวิตมาตั้งแต่เด็ก ได้ตรงเข้าไปเปิดผ้าคลุมศพ เพื่อลูบใบหน้าและร้องถามว่า “ทำไมหนูถึงตัดสินใจเด็ดเดี่ยวนักลูก” ก่อนที่จะมีญาติมาดึงพาออกไป

ผู้เป็นตา พร้อมมารดาเล่าให้ฟัง

โดยนายพร กล่าวต่อผู้สื่อข่าวว่า ที่ผ่านมาไม่เคยทราบมาก่อนว่า หลานสาวนั้นจะเป็นผู้ที่ฝักใฝ่ทางทางการเมือง แต่ได้เคยโทรศัพท์มาบอกกับตนว่า ไม่ให้รับเงินสงเคราะห์คนชรา จำนวน 2 พันบาทจากรัฐบาล เมื่อช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา ทั้งยังบอกว่าเพราะเดี๋ยวรัฐบาลจะได้ผลงานและจะอยู่ต่อไปอีกเท่านั้น ส่วนด้านการประกอบอาชีพนั้น เดิมหลานสาวเป็นคนตระเวนส่งนม (ดัชมิ้น) อยู่ในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา

ศพสาว 19 มาถึงแล้ว

แต่เนื่องจากมีโรคประจำตัวเป็นภูมิแพ้ จึงมีอาการแพ้แดดและเป็นลมจากความเหนื่อยล้าอยู่บ่อยครั้ง จึงได้เดินทางไปเป็น รปภ. ในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งย่านบางแค ตามการชักชวนของแฟนหนุ่มที่เพิ่งครบหากันได้ประมาณ 4-5 เดือน แต่หลังจากไปทำงานได้เพียงประมาณ 3 เดือน มีรายได้วีคละ 2,000-2500 บาท แต่ก็ยังถูกหักค่าชุดครั้งละ 1 พันกว่าบาท และยังถูกหักค่าหยุดงานอีก เนื่องจากมักจะหยุดงานบ่อย

ชุดก็ยังผ่อน

ทำให้มีรายได้ไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่าย จึงมีการเบิกค่ากินค่าใช้จ่ายล่วงหน้า วันละ 100-200 บาทหากเงินออกแล้ว เมื่อหักค่าเบิกล่วงหน้าเหลือ จึงจะส่งเงินกลับมาให้ พอมาระยะหลังได้ยินบ่นว่าอยากจะย้ายกลับมาอยู่ที่บ้าน แต่เกรงว่าจะกลับมาหางานทำไม่ได้ แล้วจะไม่มีเงินซื้อนมให้ลูกกินตนจึงได้บอกให้อดทนทำไปก่อน เพราะเชื่อว่าในวันข้างหน้าจะดีเอง ประกอบกับได้เกิดสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด 19 พอดี จึงยังกลับมาไม่ได้ และไม่ได้คิดถึงว่าเขาจะคิดถึงขั้นทำในตรงนี้

ส่งมาถึงแล้ว

ส่วนหลานชายวัยเพียง 8 เดือน บุตรของหลานสาวนั้น อยู่ในความดูแลของตน เนื่องจากตนเองนั้นได้เป็นผู้ที่เลี้ยงดูเขามาตั้งแต่เกิด เนื่องจากพ่อแม่ของหลานสาวนั้นได้แยกทางกัน ตนจึงเลี้ยงมาทั้งแม่เด็ก และเลี้ยงหลานต่ออีกทอดหนึ่ง ที่ผ่านมาไม่เคยนึกเลยว่าหลานเราจะไปถึงการเมืองตรงนั้น เพราะเมื่อก่อนที่อยู่บ้าน ไม่เคยรู้เรื่องสับเพเหระอะไรเลย

นายพร ตรงปี่โผเข้าหาศพหลานสาว

เมื่อเลือกตั้งครั้งที่แล้ว เขาก็กลับมาเลือกตั้งและก็ไม่เคยชี้นำให้เลือกพรรคไหนด้วย ต่างคนต่างเลือกต่างคนต่างรู้ จึงเข้าใจว่าเพิ่งจะเริ่มมีความคิดทางการเมืองในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมานี้ ที่อาจจะเหงาหรือนั่งดูข่าวในขณะที่เป็น รปภ. หรือเฝ้าพื้นที่อยู่ จึงได้คิดว่าคนนั้นดี คนนี้ไม่ดี แต่ไม่เคยได้พูดคุยกันเลย และตนก็ไม่เคยซักถามเขาด้วย นายพร กล่าว

ตาผู้เลี้ยงดูมา

และกล่าวต่อว่า สำหรับการสวดพระอภิธรรมศพนั้น จะตั้งสวดบำเพ็ญกุศลเป็นเวลา 4 คืน ในเวลา 18.00 น. ของทุกวัน เนื่องจากเกรงว่าจะติดปัญหาช่วงเวลาเคอร์ฟิว หากสวดดึกมากไป นายพร ระบุ

สมโภชน์หนึ่งในมหาเศรษฐีไทยเปิดตัวชุดหาเชื้อโควิดทราบผลด่วน ตามโครงการ 20 เศรษฐีไทยสู้โควิด

ไม่รอจดหมายบิ๊กตู่ “สมโภชน์” 1 ใน 20 มหาเศรษฐี เปิดตัวชุดหาเชื้อโควิดแบบด่วน ฝีมือคนไทย

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

Picture of สนทะนาพร อินจันทร์

สนทะนาพร อินจันทร์

ลุยงานช่วยเหลือคนเดือดร้อนมาทั้งชีวิต อย่างไม่คิดเรียกสิ่งตอบแทน