X
ปลายฝน อ่ำสาริกา

ตาปลายฝนมั่นใจ หลานเขยหน้าใหม่ยักยอกเงินลุงตู่ ชนวนเหตุทำหลานตาย

ฉะเชิงเทรา – ตาปลายฝนมั่นใจ หลานเขยหน้าใหม่ยักยอกเงินเยียวยาจากรัฐบาล ทำหลานสาวน้อยใจแขวนคอประชดลุงตู่ เผยแค้นจนสุดจะกลั้นหากทราบความจริงมาก่อนล่วงหน้า​  ตั้งแต่วันมาร่วมงานสวดศพ​ อาจได้ใส่โซ่ตรวนกลับเข้ามาร่วมจัดงานหลานสาวแล้ว ด้านผู้เป็นยายเผยชีวิตรักหลานสาวสุดชอกช้ำไม่ราบรื่น เปิดประวัติแฟนเก่าไม่เอาถ่าน ติดยามีจิตใจโหดร้ายชอบทุบตี

วันที่ 2 พ.ค.63 ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากนายพร อ่ำสาริกา อายุ 69 ปี ผู้เป็นตาของ น.ส.ปลายฝน อ่ำสาริกา อายุ 19 ปี รปภ.สาวที่ตัดสินใจแขวนคอเสียชีวิตภายในห้องพักที่ กทม. เมื่อช่วงก่อนรุ่งเช้ามืดของวันที่ 28 พ.ค.63 ที่ผ่านมา หลังจากวาดภาพ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมเขียนข้อความตัดพ้อถึงความทุกข์ยาก จนถึงขั้นไม่มีเงินซื้อนมให้ลูกกิน เหตุจากยังไม่ทราบว่าตนเองนั้นได้รับเงินเยียวยาช่วยเหลือจากทางรัฐบาลแล้ว

แขวนคอ เพราะเข้าใจลุงตู่ผิด

โดยเมื่อคืนที่ผ่านมาผู้เป็นตาได้เล่าว่า ตนเองนั้นเชื่อมั่นว่า​ สาเหตุที่หลานสาวต้องจบชีวิตลง​ ด้วยการผูกคอตายนั้น เป็นเพราะไม่ทราบว่าได้รับเงินช่วยเหลือ 5 พันบาทจากรัฐบาลแล้ว เนื่องจากหลานเขยหน้าใหม่ ที่เพิ่งคบหากันได้เพียงประมาณ 4 เดือนนั้น ได้ยักยอกเงินไป​ โดยที่ไม่ได้บอกให้ทราบว่าได้รับเงินเยียวยาจากรัฐบาลแล้ว เพราะเขาเป็นคนถือบัตรเอทีเอ็ม และได้นำเงินไปส่งเป็นค่างวดรถจักรยานยนต์

นายพร อ่ำสาริกา

ตลอดจนเงินค่าแรงงานจากการทำงานเป็น รปภ. หลานเขยก็เป็นคนรับเอาซองเงินค่าจ้างแรงงานมาให้ เนื่องจากหลานสาวของตนยังไม่มีบัญชีธนาคารที่ตรงกับทางบริษัทใช้ในการจ่ายเงินค่าแรง เนื่องจากอยู่ในช่วงสถานการณ์ปิดเมือง จากโรคโควิด 19 จึงยังเปิดบัญชีใหม่ไม่ได้ จึงทำให้เงินเหลือมาถึงมือหลานสาวเพียงวีคละ 2 พันบาทเท่านั้น

จึงทำให้ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา น้องปลายฝน ไม่ทราบว่าตนเองนั้นได้เงินค่าจ้างแรงงานจากการทำงานมาครั้งละเท่าไหร่ และถูกหักค่าชุดค่าเบิกล่วงหน้าไปเท่าไหร่ จึงคิดว่าตนเองนั้นมีรายได้ไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่าย ค่าครองชีพในกรุงเทพฯ ที่สูงมากกว่าที่ จ.ฉะเชิงเทรา เพราะข้าวของและความเป็นอยู่แพงกว่ามาก หลังจากหลานสาวได้ไปทำงานเป็น รปภ. ได้ 2 เดือน เมื่อช่วงประมาณเดือน ก.พ.63 ที่ผ่านมา

ตายเพราะเข้าใจผิด

ได้มีการโอนเงินมาให้เป็นค่านมลูกรวม 4 ครั้ง ผ่านมาทางบัญชี ของหลานเขยหน้าใหม่ โดยครั้งแรกมีการโอนมาให้เป็นเงิน 3 พันบาท ครั้งต่อมาโอนมาวีคละ 2 พันบาทรวม 3 ครั้ง ตนจึงเชื่อว่าหลานเขยใหม่รายนี้ เป็นผู้ยักยอกเอาเงินไป จนทำให้หลานสาวเข้าใจผิด และตัดสินใจก่อเหตุแขวนคอตายดังกล่าว ซึ่งหากตนทราบความจริงมาก่อนล่วงหน้า ที่เขาจะมาร่วมงานสวดศพในคืนวันที่ 2 นั้น

ตนคงอดใจไม่ไหว และอาจจะก่อเหตุหรือกระทำอะไรบางอย่างลงไปแล้ว เพราะเขาทำให้หลานสาวของตนตายไปทั้งคน วันนี้จึงอาจต้องใส่โซ่ตรวนมาขอร่วมจัดงานศพหลานแล้ว ส่วนในทางคดีนั้นยังไม่ได้พูดคุยกันว่าจะเอาอย่างไร ต้องรอปรึกษากันหลังจากเสร็จสิ้นงานศพไปก่อน แต่ได้ปรึกษากับทางนักกฎหมายมาบ้างแล้ว ทราบว่ายังไม่สามารถเอาผิดอะไรต่อเขาได้มากนัก เพราะไม่หลักฐาน ส่วนคดียักยอกทรัพย์นั้น มีโทษไม่สูงมากนักจึงยังต้องรอดูก่อน นายพร กล่าว

ญาติมั่นใจ ถูกยักยอกเงิน ทำหลานตาย

ด้านนางสาคร อ่ำสาลิกา อายุ 67 ปี ผู้เป็นยายของ น.ส.ปลายฝน เล่าถึงปัญหาครอบครัวของหลานสาวว่า แฟนคนเก่าซึ่งเป็นพ่อของเด็กวัย 8 เดือนนั้น ชอบบังคับให้หลานสาวของตนออกไปทำงานหาเงินมาให้ ส่วนตัวเองนั้นไม่ได้มีอาชีพอะไรทำ เพราะไปเข้าทำงานที่ไหน ก็ทำได้เพียง 2-3 วันก็ต้องออกจากงาน เป็นอยู่อย่างนี้ตลอด อีกทั้งยังเป็นผู้ติดยาด้วย จึงต้องเลิกรากันไป เมื่อประมาณ 5-6 เดือนที่แล้ว หลังจากครบหากันมาประมาณกว่า 1 ปีเศษ

ก่อนที่จะมาครบหากันกับแฟนคนใหม่รายนี้ได้เพียงประมาณ 4 เดือนเท่านั้น จากนั้นจึงได้มาพาไปอยู่ด้วยกัน และทำงานเป็น รปภ.ในกรุงเทพฯ ซึ่งครั้งแรกแฟนเก่ายังได้ตามไปราวีอยู่บ้าง แต่ก็ถูกกลุ่ม รปภ.ด้วยกันช่วยไว้ ขณะเดียวกันตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา หลานสาวก็ยังได้โทรศัพท์มา ผ่านทางวีดีโอคอน ในทุกๆ วัน ช่วงเวลาเย็นๆ ใกล้ค่ำ

นางสาคร อ่ำสาลิกา

โดยได้โทรฯ มาพูดคุยเล่นกับบุตรชาย ซึ่งในวันล่าสุดก่อนเกิดเหตุ น.ส.ปลายฝน ได้มีการปิดคาดหน้า และก้มให้เห็นเพียงแค่ลูกตา (ลูกนัยน์ตา) ตนจึงยังได้ทักท้วงไปว่าทำไมถึงทำอย่างนั้น แต่เขาไม่ได้ตอบกลับมา เพียงแต่มัวเล่นกับบุตรชาย ก่อนที่ผู้เป็นตาจะเอาโทรศัพท์ไป นางสาคร กล่าว

ทัพนักการเมืองนับร้อย บุกงานปลายฝน ทำแรมโบ้อีสานถอยกรูด หลังพบฝ่ายค้านเต็มแน่นศาลา

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

Picture of สนทะนาพร อินจันทร์

สนทะนาพร อินจันทร์

ลุยงานช่วยเหลือคนเดือดร้อนมาทั้งชีวิต อย่างไม่คิดเรียกสิ่งตอบแทน