ฉะเชิงเทรา – ร่างปู่ 92 ถูกผลักอกจนล้มหงายท้องทั้งยืน นอนรักษาอาการนาน 20 วันจนสิ้นใจในที่สุด ถูกส่งกลับมาตั้งบำเพ็ญกุศลแล้ว ที่วัดใกล้บ้านบุตรสาว หลัง จนท.นำส่งเข้าไปทำการผ่าพิสูจน์ทางนิติเวชใน รพ.ตำรวจ เพื่อใช้ประกอบสำนวนคดีเอาผิดเพิ่มเติมต่อผู้ก่อเหตุ ขณะผู้เป็นบิดาของทางฝ่ายผู้ต้องหาเดินทางมาร่วมรดน้ำศพ เพื่อเป็นการขอขมาแทนบุตรชายแล้ว
วันที่ 5 พ.ค.63 เวลา 16.30 น. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นายเกรียงศักดิ์ ดิษฐาพร อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 47 ม.3 ต.บางขนาก อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา ข้าราชการครูบำนาญ บุตรชายคนที่ 2 ของนายบัญชา ดิษฐาพร อายุ 92 ปี อดีตข้าราชการครูบำนาญเช่นเดียวกัน ที่ถูกหนุ่มวัย 28 ปี บุตรชายนายตำรวจยศ ร.ต.ต.ชุดสืบสวน สภ.บางน้ำเปรี้ยว ก่อเหตุผลักจนล้มหงายท้อง
ในขณะที่คุณปู่รายนี้ กำลังขับรถยนต์เก๋งถอยออกจากจุดจอดรถหน้าร้านทองริมถนน สายบางน้ำเปรี้ยว-บางขนาก กลางตลาด อ.บางน้ำเปรี้ยว อย่างเชื่องช้า จนทำให้ฝ่ายคู่กรณีไม่พอใจ ได้ทำการเร่งเครื่องยนต์ (เบิ้ลเครื่องรถ) จนเกิดเสียงดังหลายครั้ง และเมื่อคุณปู่ขยับถอยรถออกมาเฉี่ยวที่คันชนหน้ารถยนต์กระบะของชายวัยหนุ่มหัวร้อน ที่ขับมาจอดรอขวางอยู่
จึงทำให้ชายคู่กรณีไม่พอใจ ลงมาต่อว่าและดึงเอากุญแจรถไป ก่อนที่คุณปู่จะเดินลงมาจากรถเพื่อไปขอกุญแจคืน แต่กลับถูกอีกฝ่ายผลักอกจนล้มลงหงายท้องหมดสติคาที่ นอนพักรักษาตัวอยู่เป็นเวลานานถึงว่า 20 วัน ก่อนที่มาเสียชีวิตลงในที่สุด เมื่อเวลา 05.00 น. ของวันที่ 4 พ.ค.63 ที่ผ่านมา ตามที่ได้มีการนำเสนอข่าวอย่างต่อเนื่องไปแล้วนั้น
ล่าสุดในวันนี้ได้มีการเคลื่อนย้ายร่างของนายบัญชา จาก รพ.ตำรวจ เดินทางมาตั้งบำเพ็ญกุศล ยังที่วัดถวิลศิลามงคล ตั้งอยู่เลขที่ 60 ม.8 ต.ท่าไข่ อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นวัดที่ตั้งอยู่ใกล้กับบ้านพักของบุตรสาวคนโตของคุณปู่วัย 92 ปีรายนี้ และได้มีพิธีรดน้ำศพในเวลา 15.00 น. ที่ผ่านมา ท่ามกลางประชาชนที่ทราบข่าวและพากันเดินทางมาร่วมพิธีกว่า 200 คน รวมถึงผู้เป็นบิดาของผู้ก่อเหตุด้วย
นายเกรียงศักดิ์ ระบุว่า ได้เตรียมตั้งพิธีสวดพระอภิธรรมศพไว้เป็นเวลา 5 คืน และจะมีพิธีขอพระราชทานเพลิงศพ ในเวลา 16.00 น. ของวันที่ 10 พ.ค.63 ที่วัดแห่งนี้ และสำหรับพิธีสวดในวันนี้จะเริ่มสวดพระอภิธรรมในเวลา 17.00 น. แต่ในวันถัดไป จะเริ่มสวดในเวลา 18.00 น. เป็นเวลาอีก 4 คืน สำหรับในส่วนของทางคดีนั้น ทางญาติยังขอให้เป็นหน้าที่ของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในการดำเนินการ โดยทราบว่าทางฝ่ายของผู้ต้องหานั้น ยังไม่ได้รับการประกันตัวออกมา
สำหรับอาการก่อนหน้าของผู้เป็นบิดานั้น ในวันแรกที่เกิดเหตุที่ รพ.บางน้ำเปรี้ยว ท่านยังฟื้นขึ้นมาในช่วงแรก และยังพูดห่วงของและบอกเล่าเรื่องราวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ แต่หลังจากนั้นท่านได้หมดสติแน่นิ่งลงไปในขณะที่ถูกนำตัวส่งมายัง รพ.ประจำจังหวัด (รพ.พุทธโสธร) ซึ่งในช่วง 5 วันแรกนั้น ท่านยังคงมีอาการตอบสนองหรือบีบมือได้ และหลังจากนั้นท่านไม่มีอาการตอบสนองอีกเลย
แพทย์ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจให้อาหารทางสายยาง จนมาเสียชีวิตลงในที่สุด ซึ่งเรื่องดังกล่าวที่เกิดขึ้นนี้ ลูกๆ ทั้งหมดยังไม่มีใครบอกให้แก่ นางสุดา ดิษฐาพร อายุ 89 ปี ผู้เป็นมารดาทราบ เนื่องจากเกรงว่าท่านจะเสียใจ และมีอาการทรุดหนักไปกว่าเดิมอีกคน ที่ท่านมีอาการป่วยด้วยโรคชราตามสภาพอยู่ก่อนแล้ว
สำหรับค่ารักษาพยาบาลที่เกิดขึ้นทั้งหมด ส่วนใหญ่ได้ใช้สิทธิ์การรักษาจากการเบิกจ่ายตามสิทธิ์ของข้าราชการบำนาญทั้งหมด โดยมีเพียงบางส่วนที่ต้องจ่ายเองที่นอกเหนือไปจากสิทธิ์ที่จะเบิกได้ เช่น ค่าจ้างเจ้าหน้าที่เวรผู้ช่วยพยาบาลในการดูแล ในช่วงเวลากลางคืน ที่ญาติไม่สามารถที่จะเข้ามาเฝ้าดูแลได้ เนื่องจากเป็นช่วงของการประกาศเคอร์ฟิว ที่ทางโรงพยาบาลไม่อนุญาตให้ทางญาติเฝ้าดูแลผู้ป่วยได้ นายเกรียงศักดิ์ ระบุ
–ญาติปู่วัย92 ถูกผลักหงายท้องเดือด หลังสื่อบางสำนักเสนอข่าวเพี้ยน
–เดือดแทน ชาวบ้านประณามหนุ่ม 28 ผลักปู่ 92 ล้มหัวฟาดพื้น
–ปู่ 92 ยังไม่ฟื้น ญาติทำใจปล่อยรักษาตามอาการ พบเสี่ยงสูงหากฝืนผ่าตัด
