ฉะเชิงเทรา – เก็บตัวอย่างวัตถุดิบ ทำขนมจีบพร้อมภารชนะทุกชิ้นส่งตรวจทางวิทยาศาสตร์ ด้านร้านขนมยันทำสะอาดจากวัตถุดิบในครัวเรือนจนสามารถกินเองได้ ไม่เคยใช้สารแปลกปลอมรวมถึงสารกันบูดในเนื้อขนมและน้ำจิ้มที่วางขาย เผยทำส่งและวางจำหน่ายให้แก่ลูกค้าแบบวันต่อวันมานานกว่า 5 ปี จากเหตุที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบซ้ำเติมอาชีพทำกิน ทั้งที่ยังลำบากจากการระบาดของโรคโควิด 19 อยู่ก่อนหน้าแล้ว
วันที่ 11 พ.ค.63 เวลา 16.00 น. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นางสุวรรณี รูปโลก อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2 ม.5 ต.เกาะไร่ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา แม่ค้าผู้ผลิตขนมจีบไส้ไก่ ซึ่งเป็นสินค้าที่ทำขึ้นภายในครัวเรือน ออกไปวางจำหน่ายที่บริเวณตลาดสี่แยกเกาะไร่ และขายส่งให้แก่ลูกค้าประจำที่มารับนำไปจำหน่ายต่อว่า ในการผลิตขนมจีบที่ตนทำกันในครอบครัวนั้น ใช้เพียงวัตถุดิบขั้นพื้นฐานที่มีอยู่ในครัว ที่ไม่ได้มีการเติมแต่งหรือใส่สารพิษใดๆ ลงไปในการผลิต และไม่มีแม้แต่สารกันบูด
โดยตนเชื่อว่าในกระบวนการผลิตของตนนั้น สะอาดถูกต้อง จนสามารถกินเองได้ เพราะใช้วัตถุดิบในครัวตามบ้านเรือนในการประกอบอาหารแบบตามธรรมชาติ ที่มีอยู่ในบ้านทั่วไป เช่น น้ำตาลปี๊บ น้ำตาลทราย น้ำส้มสายชู เกลือ ก่อนนำมาตั้งเตาไฟเคี่ยวจนน้ำเดือด จากนั้นจึงนำซีอิ้วดำใส่ลงไป และปั่นพริกขี้หนูสดใส่ตามลงไปอีกครั้ง กระบวนการผลิตและวัตถุดิบก็มีอยู่เท่านี้
โดยที่ไม่ได้มีการใส่สารพิษหรือสิ่งแปลกปลอมใดๆ ลงไปเลย รวมถึงสารกันบูดก็ยังไม่ได้ใส่ เพราะทำขายแบบวันต่อวัน ที่ผ่านมาทำขายมานานถึงกว่า 5-6 ปีแล้ว ก็มีคนมาซื้อไปบริโภคทุกวัน และไม่เคยเห็นว่ามีใครเป็นอะไรมาก่อน และก็ไม่เคยมีใครกลับมาต่อว่าอีกด้วย หลังจากที่ซื้อไปบริโภคแล้ว
ก่อนหน้านี้เคยทำทั้งแบบขายส่ง และขายเอง วันละประมาณกว่า 100 กล่อง แต่หลังจากเกิดภาวะโรคโควิด 19 ระบาด จึงลดลงมาเหลือเพียงวันละ 30-40 กล่องต่อวันเท่านั้น โดยจะส่งให้แก่ลูกค้าขาประจำที่จะมารับไปขายต่อ ในช่วงเวลา 05.00 – 06.00 น. ส่วนที่เหลือก็จะนำไปขายเองยังที่บริเวณตลาดสี่แยกเกาะไร่ โดยจะขายแค่ช่วงเวลาประมาณ 09.00 น. ของก็จะหมดลงแล้ว
ส่วนรายที่มารับไปขายแล้วเกิดปัญหาจนเป็นข่าวใหญ่ขึ้นมานั้น ก็ขายให้กันมาประจำ เป็นเวลานานหลายปีแล้ว และก็ไม่เคยมีปัญหาอะไรทำนองนี้มาก่อน พอมีข่าวแบบนี้จึงพูดไม่ออกไม่รู้จะพูดอย่างไร เพราะเราก็ทำตามธรรมชาติ แบบบ้านๆ เป็นสินค้าในครัวเรือนที่เคยทำประจำ ไม่ใส่สารพิษ ไม่ได้ใส่สารอะไรทั้งนั้น นอกจากวัตถุดิบที่จำเป็นขั้นพื้นฐานตามสูตรที่บอกไปเท่านั้น จึงไม่รู้สึกตกใจอะไรต่อข่าวที่เกิดขึ้น นางสุวรรณี กล่าว
ด้าน นายสงกราน พุทธวรรณะ อายุ 51 ปี ผู้เป็นสามี กล่าวว่า จากข่าวที่เกิดขึ้น ได้ทำให้เกิดผลกระทบกระเทือนต่ออาชีพ ซึ่งเดิมนั้นก็ได้รับผลกระทบจากโรคระบาดโควิด 19 อยู่แล้ว ที่ของขายได้น้อยลง และเงินเยียวยา 5 พันบาทก็ยังไม่ได้ พอมาถึงตอนนี้กลับมากระทบต่อรายได้อย่างหนักขึ้นไปอีก เพราะไม่รู้จะขายอะไรให้ใครได้แล้ว หมดอาชีพทำกินกันไปเพราะไม่รู้ว่าจะมีใครเข้ามาซื้ออีกหรือไม่
จึงอยากบอกถึงสื่อให้ช่วยพิจารณาให้ถี่ถ้วนดูก่อนว่า สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นมันจริงหรือไม่ มีการตรวจสอบออกมาอย่างชัดเจนแล้วหรือไม่ จึงอยากให้มีการตรวจสอบให้เกิดความชัดเจนก่อน เพราะตอนนี้ชาวบ้านเขารู้กันไปทั่วหมดแล้ว จึงไม่รู้ว่าจะขายให้ใคร ไม่ใช่จะมาโจมตีเราก่อนแบบนี้ จนไม่รู้ว่าจะไปขายของอะไรได้อีกแล้ว โดยภรรยามีอาชีพขายของ ส่วนตนเองนั้นมีอาชีพขับรถสามล้อตุ๊กๆ เลี้ยงครอบครัว
จากข่าวที่เกิดขึ้น ก็ขอให้รอให้ทางหน่วยงานสาธารณสุข จ.ฉะเชิงเทรา ทำการตรวจสอบเสียก่อน แล้วให้ทาง สสจ. ออกมาชี้แจงเองจะดีกว่า โดยทางเจ้าหน้าที่บอกว่าขณะนี้ยังต้องรอผลจากทางห้องปฏิบัติการ (แล็บ) ที่ส่งตรวจอีกประมาณ 1 สัปดาห์ ขณะที่ก่อนหน้าภรรยาตนก็ได้หยุดทำขนมขายมานานหลายวันแล้ว ตั้งแต่เมื่อวันที่ 6 วันพุธ เนื่องจากมีอาการไม่ค่อยสบายตัวและมีไข้ แต่ในวันเสาร์ที่ 9 ที่ผ่านมาลูกค้ารายนี้ (น้องมิ้น) ได้มาคะยั้นคะยอ ให้ช่วยทำให้สัก 10 กล่อง จึงทำขายให้ไป
ซึ่งก็ไม่ทราบว่าปัญหาที่เกิดขึ้นจนมีคนเสียชีวิตนั้น เป็นในช่วงวันใด เนื่องจากเพิ่งมาทราบข่าวเมื่อช่วงเย็นวานนี้ และมีการระบุว่ามีการนำเสนอข่าวกันมาถึง 2 วันแล้ว สำหรับในวันนี้ ทางเจ้าหน้าที่ สสจ. ได้เข้าเมาเก็บตัวอย่างแผ่นเกี๊ยว กระเทียมเจียว ผักกาด น้ำเปล่าบรรจุขวดซึ่งเป็นน้ำดื่มที่มีวางขายอยู่ตามท้องตลาด น้ำประปาที่ใช้ภายในบ้าน แป้งสาลี รวมทั้งการใช้น้ำยาพิสูจน์หลักฐาน มาเก็บตัวอย่างหาสารปนเปื้อนจากหม้อ และซึ้งนึ่งทำขนมจีบและน้ำจิ้ม นายสงกราน กล่าว
–สาวแว้น ขายขนมจีบวอนหน่วยงานตรวจสอบให้ชัด ก่อนตีตราให้ผิด โอดแค่รับมาขาย
