ฉะเชิงเทรา – นักธุรกิจ สาวใหญ่เมืองแปดริ้ว คว้ารางวัลนักการตลาดเชิงสร้างสรรค์ดีเด่นประจำปี 2561 จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า จากการต่อยอดธุรกิจในครอบครัวสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ชิ้นใหม่อย่างต่อเนื่อง จนสามารถสร้างคุณค่าในผลิตภัณฑ์และครองตลาดได้อย่างยาวนานและเติบโตสู่ตลาดใหม่ที่กว้างขวางมากขึ้น
วันที่ 25 ก.ย.61 ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก น.ส.ภาวริน น้อยใจบุญ อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 15 ม.3 ต.โสธร อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา นักธุรกิจประเภทร้านค้าของฝาก “ร้านขนมริน” ผู้รับมรดกตกทอดร้านขนมไทยขึ้นชื่อประจำเมืองแปดริ้วมาจากครอบครัวที่ดำเนินธุรกิจทางด้านนี้มานานถึงกว่า 44 ปีเต็ม และมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์การทำขนมของฝากมาอย่างต่อเนื่องอย่างหลากหลายนับจากกระยาสารทขนมขึ้นชื่อดั้งเดิมประจำร้านต่อเนื่องมาเป็นขนมของฝากอีกนับร้อยชนิด
จนล่าสุดเธอเพิ่งได้รับรางวัล “นักการตลาดเชิงสร้างสรรค์ดีเด่นประจำปี 2561” (DBD-ACM) เมื่อวันที่ 5 ก.ย.61 ที่ผ่านมาจากนางกุลณี อิศดิศัย อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ซึ่งเป็นรางวัลหนึ่งเดียวในระดับประเทศ จากการเข้าร่วมโครงการฝึกอบรม
สำหรับประวัติของ “ภาวริน น้อยใจบุญ” สาวใหญ่ผู้คว้ารางวัลรายนี้เธอจบปริญญาโท (MBA) จาก KENTSTATE UNI โอไฮโอ สหรัฐอเมริกา จบปริญญาตรี คณะพาณิชย์ศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ครอบครัวได้เปลี่ยนอาชีพจากธุรกิจฟาร์มเลี้ยงไก่ และสวนกล้วยไม้ มาเริ่มทำธุรกิจค้าของฝากเมื่อปี พ.ศ.2517
โดยผู้เป็นบิดาเคยเป็นนักการเมืองท้องถิ่น (อดีต ส.อบจ.) 2 สมัย ตัวเธอเองได้เข้ามารับช่วงธุรกิจเมื่อปี 2544 ในลักษณะช่วยดูแลธุรกิจแบบครอบครัว และได้เข้ามาดำเนินธุรกิจด้วยตนเองอย่างเต็มตัวเมื่อปี 2559 ที่ผ่านมา ปัจจุบันผลิตภัณฑ์สินค้าของทางร้านถูกพัฒนาจนได้รับการยอมรับอย่างหลากหลายจากสังคมทั่วไปและสายการบินชั้นนำที่เตรียมนำไปขึ้นเครื่องเป็นของว่างบนเที่ยวบินอีกด้วย
นอกจากนี้ผู้เป็นบิดายังได้เคยได้รับรางวัลพ่อตัวอย่างแห่งชาติ และรางวัลผู้อนุรักษ์และส่งเสริมขนมไทยดีเด่น ประจำปี 2549 มารดาเคยได้รับรางวัลครอบครัวไทยมีสุขจากสภาสตรีแห่งชาติ 2551 ตลอดจนรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย โดยครอบครัวมีพี่น้องรวม 3 คน มีพี่สาว 1 คนซึ่งแต่งงานมีคู่สมรสแยกครอบครัวไปแล้ว ส่วนตัวเธอนั้นเป็นบุตรสาวคนกลาง และมีน้องชายคนเล็กอีก 1 คน
เธอบอกว่า การเข้าร่วมฝึกอบรมในโครงการนี้ได้ใช้ระยะเวลาเข้าร่วมโครงการแบบต่อเนื่องถึงสอง 2 ปี ปีละ 10 วัน ทำให้เรามีแนวคิดที่กว้างกว่าเดิมได้รู้จักการตลาดสมัยใหม่ ได้แนวคิดที่จะทำตลาดอย่างสร้างสรรค์ เช่น ในการอบรมตามโครงการนี้ได้ทำให้เราได้ฝึกคิดที่จะสรรค์สร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ โดยเราจะต้องคิดว่าเราจะนำอะไรมาผสมกับอะไรแล้วเกิดเป็นอะไร
โดยอะไรในสั่งนั้นอาจจะไม่ใช่แค่ตัววัตถุดิบ และเป็นการสร้างแนวคิดแบบประยุกต์ว่าจะนำสิ่งใดมารวมกับสิ่งใดได้ให้เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่เกิดขึ้นมา จึงทำให้เราเกิดการพัฒนาทางด้านความคิด และให้เราลองคิดว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดในผลิตภัณฑ์ของเรานั้นคืออะไร ถ้าเราตัดสิ่งนั้นออกจะเกิดประโยชน์กับใคร และจะเกิดประโยชน์อะไร ซึ่งเป็นการสร้างทำให้เรารู้จักคิดและพัฒนาสิ่งใหม่ๆ ให้เกิดขึ้นเสมอ
สิ่งที่จะนำมาใช้ในธุรกิจจากที่ได้รับการอบรมในโครงการนี้ ทำให้เรารู้จักที่จะคิดโดยเฉพาะการพัฒนาสินค้าให้มีนวัตกรรม สอนให้เรารู้จักเขียนแผนการตลาดที่เป็นแนวใหม่ จนทำให้หลังจากผ่านการฝึกอบรมแล้วตนเองสามารถสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ขึ้นมาได้ในชื่อ “ข้าวมธุรส” อีกหนึ่งชิ้น ซึ่งเป็นการต่อยอดมาจากขนมกระยาสารท แต่เป็นชนิดที่รับประทานแล้วจะไม่ติดฟันอีกทั้งยังมีรสชาติอร่อยและนุ่มมากจนหยุดไม่ได้ ล่าสุดยังได้รับความสนใจจากทางสายการบินที่จะให้ส่งผลิตภัณฑ์ชิ้นใหม่นี้ไปขึ้นเครื่องต่อไป น.ส.ภาวริน กล่าว
