ฉะเชิงเทรา – ร้องถอดถอนนายก อบต.เกาะขนุน อ้างถูกเลือกปฏิบัติ กระทำอันเป็นการขัดต่อระเบียบทางการปกครอง ประชาชนในพื้นที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม การประกอบอาชีพและธุรกิจเสียหาย หลังเคยยื่นอุทธรณ์และทวงถามขอความเป็นธรรมมาอย่างต่อเนื่องยาวนานหลายปีแล้ว แต่กลับถูกเพิกเฉย
วันที่ 22 พ.ค.63 เวลา 10.00 น. นายอดุลย์ แสงจันทร์ ผู้ประกอบการธุรกิจบ่อลูกรัง และอดีตนายก อบต.เกาะขนุน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ได้เดินทางเพื่อขอเข้าพบและร้องเรียนขอความเป็นธรรมต่อ นางปิณฑิรา เก่งการพานิช นายอำเภอพนมสารคาม และผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา ว่า เป็นผู้ได้รับความเดือดร้อนเสียหายจากการกระทำของ นายก อบต.เกาะขนุน คนปัจจุบัน
ที่กระทำการขัดต่อระเบียบทางการปกครอง ตาม พ.ร.บ.สภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ.2537 (และแก้ไขเพิ่มเติม) มาตรา 92 เนื่องจากละเลยไม่ปฏิบัติตามหรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ ตลอดจนวิธีปฏิบัติขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ด้วยการถูกกระทำการในลักษณะถูกเลือกปฏิบัติกลั่นแกล้งจนได้รับความเสียหายต่อทางธุรกิจครอบครัว
โดยขอให้ทางอำเภอและทางจังหวัดฉะเชิงเทรา ทำการสอบสวนหาข้อเท็จจริง หาตัวผู้กระทำความผิด และทำการถอดถอน นายก อบต. เกาะขนุน ออกจากตำแหน่งต่อไป แต่ปรากฏว่า นางปิณฑิรา ไม่อยู่ จึงได้ให้ นายอัคเรศ พรหมสาขา ณ สกลนคร ปลัดอำเภอพนมสารคาม ผู้รับผิดชอบงานอำนวยความเป็นธรรม มาเป็นผู้รับเรื่องร้องเรียนขอให้ถอดถอนดังกล่าวไว้แทน
โดย นายอดุลย์ กล่าวว่า เมื่อประมาณปี 2559 ตนเองได้ซื้อที่ดินบ่อลูกรังเก่าไว้ เพื่อที่จะทำเป็นสระเก็บน้ำ ในพื้นที่ ม.5 ต.เกาะขนุน อ.พนมสารคาม และได้ใช้รถแบ็คโฮเข้าทำการปรับปรุงพื้นที่ จำนวน 2 คัน ต่อมาได้มี นายก อบต.เกาะขนุน รายดังกล่าวได้นำเจ้าหน้าที่เข้าไปทำการจับกุมรถแบ็คโฮ พร้อมด้วยคนงานของตนมาทำการเปรียบเทียบปรับ โดยกล่าวหาว่าทำการขุดดินถมดินโดยไม่ได้รับอนุญาต
โดยที่ตนผู้เป็นนายจ้าง และเป็นผู้จ่ายค่าปรับแทน ได้ถูกเรียกเก็บเงินค่าปรับไปเป็นจำนวนเงินคันละ 5 หมื่นบาท รวม 1 แสนบาท ทั้งที่ทาง อบต.นั้นไม่มีอำนาจหน้าที่ในการเรียกเก็บเงินค่าปรับตามจำนวนดังกล่าวนั้นโดยตรง เนื่องจากตามระเบียบแล้ว จะต้องมีกระบวนการแต่งตั้งคณะกรรมการเข้ามาพิจารณาอนุมัติตามขั้นตอน ตามวิธีการปฏิบัติทางการปกครอง
และเมื่อตนเห็นว่าการกระทำนั้น ทางท้องถิ่นไม่ได้มีการปฏิบัติให้เป็นไปตามระเบียบทางปกครอง ซึ่งเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง จึงได้มีการร้องคัดค้านและยื่นหนังสืออุทธรณ์ เพื่อโต้แย้งไปยังที่ทำการ อบต.เกาะขนุน นับตั้งแต่ปี พ.ศ.2559 มาจนถึงปัจจุบัน แต่ก็ยังถูกเพิกเฉยไม่ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการอุทธรณ์ที่ได้ยื่นไป ในวันนี้จึงได้มาร้องเรียนขอให้มีการตรวจสอบและถอดถอน นายก อบต. รายนี้ออกจากตำแหน่ง เนื่องจากเป็นการเลือกปฏิบัติ และไม่ปฏิบัติตาม พ.ร.บ.สภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล
ทั้งที่ในพื้นที่ ต.เกาะขนุน นั้น มีผู้ประกอบการบ่อลูกรังอยู่เป็นจำนวนมาก หลายรายรวม 4-5 บ่อ ทั้งยังมีบ่อลูกรังของบุตรชายนายก อบต. รายนี้ที่เพิ่งเปิดบ่อใหม่รวมอยู่ด้วย แต่กับไม่ได้มีการเข้าจับกุม หรือดำเนินการตามกฎหมายเกี่ยวข้องกับ พ.ร.บ.ขุดดินถมดินแต่อย่างใด แต่กลับมีการเข้ามาเลือกปฏิบัติแต่กับเฉพาะเพียงครอบครัวของตนเท่านั้น ทั้งที่เป็นพื้นที่ใกล้เคียงกัน
สำหรับบ่อลูกรังเก่าแห่งนี้ ตนเองได้ซื้อต่อมาจากอดีต ส.อบจ.รายหนึ่ง ซึ่งก่อนหน้ายังไม่ได้มีการกำหนดระเบียบบังคับไว้ ให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่สีเขียวจึงมีการขุดตักดินออกไปขาย แต่เมื่อตนซื้อบ่อมาเพื่อที่จะนำมาปรับแต่ง ให้เป็นบ่อเก็บน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้ง และช่วยชาวบ้านคนในชุมชน ทำเป็นโครงการประปาหมู่บ้าน กลับถูกทาง นายก อบต.รายนี้ เข้ามากลั่นแกล้งทำการจับกุมเปรียบเทียบปรับ ในขณะที่กำลังทำการขุดปรับแต่งบ่อดังกล่าว นายอดุลย์ เผย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: