ฉะเชิงเทรา – ชมรมสื่อสิ่งแวดล้อม ลงพื้นที่ดูปัญหาความขัดแย้งชาวบ้านโยธะกาและฝ่ายทหารเรือที่เตรียมบุกเข้าขอคืนพื้นที่ทำกินจากชาวบ้านกว่า 4 พันไร่ จนมีการเคลื่อนไหวออกมาต่อต้านอีอีซีอย่างต่อเนื่อง ขณะทหารบกโดย ผบ.พล ร.11 ลงพื้นที่โปรยยาหอมลั่นจะอยู่เคียงข้างประชาชน ยันไม่มีการไล่รื้อพร้อมเตรียมประสานเจรจาร่วมกัน
วันที่ 4 ต.ค.61 เวลา 11.00 น. กลุ่มสื่อมวลชนโดยชมรมนักข่าวสิ่งแวดล้อม สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ได้เดินทางลงพื้นที่ดูปัญหาความขัดแย้งของชาวบ้าน ต.โยธะกา อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา กับกองเรือลำน้ำซึ่งเป็นหน่วยงานสังกัดกองทัพเรือ ที่เกิดปัญหาข้อพิพาทในเรื่องที่ดินทำกินอย่างต่อเนื่องมานานกว่า 4 ปีเต็ม
ข่าวน่าสนใจ:
หลังจากทางฝ่ายกองทัพเรือได้มีนโยบายที่จะขอคืนพื้นที่ราชพัสดุจำนวนกว่า 4 พันไร่จากชาวบ้านที่ถือครองปลูกบ้านเรือนอยู่อาศัยและทำกินมาอย่างยาวนานนับร้อยปีตลอดหลายชั่วอายุคนเพื่อต้องการนำที่ดินบางส่วนไปก่อตั้งสถานีสื่อสารกองทัพเรือ และก่อตั้งหน่วยย่อยกองเรือลำน้ำบริเวณพื้นที่ยุทธศาสตร์แม่น้ำสามสาย แม่น้ำปราจีนบุรี แม่น้ำนครนายก ไหลลงมาบรรจบรวมกันเป็นแม่น้ำบางปะกง
และยังมีกระแสข่าวสะพัดในพื้นที่ด้วยว่า ทางกองทัพเรือได้เตรียมนำที่ดินที่จะยึดคืนมาจากชาวบ้านไปให้แก่บริษัทเอกชนรายใหญ่รายหนึ่งเช่าช่วงต่อ เพื่อนำไปก่อสร้างเป็นเมืองใหม่เพื่อรองรับการพัฒนาพื้นที่ระเบียงเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี มาอย่างต่อเนื่องอีกด้วย จึงทำให้ชาวบ้านออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านในนาม “กลุ่มโยธะการักษ์ถิ่น” และประกาศเจตนารมณ์ขอสู้ตายในผืนแผ่นดินเกิดโดยจะไม่ยินยอมย้ายถิ่นฐานออกจากพื้นที่ไปไหน
ขณะเดียวกันในวันนี้ เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานภาครัฐระดับจังหวัดและอำเภอนำโดย พลตรีพณิชย์ ศิริพละ รอง ผอ.กอ.รมน.จังหวัดฉะเชิงเทรา พลตรีวรยุทธ แก้ววิบูลย์พันธุ์ ผบ.กองพลทหารราบที่ 11 ค่ายสมเด็จพระนั่งเกล้า อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา นายประเทือง สุขเกษม นายอำเภอบางน้ำเปรี้ยว นายเฉลิมพล ต.สุวรรณ โยธาธิการและผังเมืองจังหวัด นายภูริต กุศลผลบุญ รักษาการแทนธนารักษ์พื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา ได้ลงพื้นที่พบปะชี้แจงพูดคุยเพื่อคลี่คลายปัญหาข้อข้องใจต่อชาวบ้านด้วย
โดย พล.ต.วรยุทธ ได้กล่าวกลางที่ประชุมซึ่งมีชาวบ้านกว่า 150 คนเดินทางมารับฟังการชี้แจงว่า ทหารบกจะอยู่เคียงข้างประชาชนโดยที่จะไม่มีใครเข้ามาไล่รื้อบ้านเรือนของราษฎรออกไปจากพื้นที่โดยเด็ดขาด โดยเชื่อว่าที่ผ่านมาตามที่มีประกาศออกมาเพื่อบังคับให้ชาวบ้านออกไปให้พ้นพื้นที่ภายใน 7 วันนับตั้งแต่เมื่อปี พ.ศ.2557 หลังจากธนารักษ์พื้นที่งดเข้ามาเก็บเงินค่าเช่าที่ดินจากชาวบ้านจำนวน 166 ครัวเรือนที่อาศัยทำกินอยู่ในพื้นที่เป็นเพียงการทำไปตามกระบวนการขั้นตอนของหน่วยงานในระบบราชการ
และหากทางกองทัพเรือจะเข้ามาใช้ประโยชน์ในพื้นที่จริงๆ จะต้องมีการเข้ามาเจรจาพูดคุยตกลงกันกับชาวบ้านและเยียวยาหรือจัดหาที่อยู่ที่ทำกินให้ใหม่โดยที่จะไม่มีใครเข้ามาไล่รื้อถอนบ้านเรือนของชาวบ้านออกไปอย่างเด็ดขาด ซึ่งตนจะเป็นตัวกลางในการประสานให้ทางกองทัพเรือเข้ามาเจรจาพูดคุยกับชาวบ้านเพื่อให้เกิดความกระจ่างชัดเจนต่อไป พล.ต.วรยุทธ กล่าว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: