ฉะเชิงเทรา – ลอบขนต่างด้าว เข้าประเทศฝ่า พ.ร.ก.ห้ามเข้าเมืองช่วงสถานการณ์โควิด 19 ระบาด จับได้ล็อตใหญ่มากถึง 88 ชีวิต พร้อมขบวนการ 5 คนไทยผู้นำพาเข้ามาจนประชิดเมืองหลวง เผยถึงความพยายามเดินเท้าข้ามแดนมาอย่างยาวนานถึงกว่า 8 ชม. หอบหิ้วทั้งลูกเล็กเด็กแดงพากันเดินเข้ามา ด้วยเงินรายหัว 3,600 บาท ด้าน ผอ.ศูนย์ ศปชก.ตร.รุดลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด พร้อมซักถามความเคลื่อนไหวขบวนการต่อหน้าสื่อ
วันที่ 11 ก.ค.63 เวลา 11.00 น. ที่ห้องประชุมชั้น 2 สภ.เมืองฉะเชิงเทรา พล.ต.อ.ณัฐธร เพราะสุนทร ที่ปรึกษาพิเศษ ตร. ซึ่งได้รับมอบหมาย จาก ผบ.ตร. ให้ปฏิบัติหน้าที่เป็น ผอ.ศูนย์ปราบปรามคนร้ายข้ามชาติและเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย พร้อมด้วย พล.ต.ท.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผบช.ประจำ ผบ.ตร. รอง ผอ.ศูนย์ฯ ได้เดินทางมาติดตามเข้าร่วมประชุมรับฟังผลการจับกุมขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ห้ามเข้าเมืองในช่วงสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด 19 ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่
ข่าวน่าสนใจ:
- ตรัง แม่ค้าร้านดังถูกหลอก อ้างเป็นเลขานายกฯสั่งข้าวกล่องช่วยน้ำท่วมสูญเงิน 3 พัน
- นครพนม น้องขวัญ นำทัพกลุ่มนครพนมร่วมใจ เปิดตัว ส.อบจ.นครพนม ทั้ง 30 เขต
- นครพนม : หมอสงค์ หมอผู้สร้าง เปิดตัวสมัครนายก อบจ.นครพนม พร้อม ส.อบจ.นครพนม
- ผู้กำกับ สภ.บางเสาธง เชิญตัวคู่กรณีทั้งสองฝ่ายพูดคุยถึงเหตุการณ์ที่รถชนกันแล้วมีอ้างรู้จักตำรวจ
จากนั้นในเวลา 12.45 น. จึงได้เดินทางขึ้นไปยังห้องประชุมชั้น 4 สภ.เมืองฉะเชิงเทรา เพื่อซักถามสอบปากคำ 5 คนไทย ซึ่งเป็นผู้นำพาหรือลักลอบขนแรงงานต่างด้าวเข้ามาจากในพื้นที่ อ.ตาพระยา และ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ก่อนนำมาพักยังภายในบริเวณป่ากระถินริมถนนสุวินทวงศ์ (304) พื้นที่ ต.หนามแดง อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อรอการมารับช่วงและส่งต่อ ให้เข้าไปทำงานยังในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลโดยรอบ จ.ฉะเชิงเทรา โดยมีผู้ต้องหาเป็นแรงงานชาวกัมพูชา ชาย 50 คน หญิงกว่า 30 คนและเด็ก 5 คน รวม 88 คน
พล.ต.อ.ณัฐธร กล่าวถึง การจับกุมขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวเข้าเมืองในครั้งนี้ว่า จากการสืบสวนหาข่าว ซึ่งนำทีมโดย พล.ต.ต.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบก. ทว. สพฐ. หัวหน้าชุดปฏิบัติการ จนทราบถึงความเคลื่อนไหวของขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวกลุ่มนี้ ที่มีนายหน้าชาวกัมพูชาติดต่อมายังนายหน้าฝั่งคนไทยเพื่อลักลอบนำพา โดยทยอยขนกลุ่มแรงงานเหล่านี้เข้ามาทางเส้นทางธรรมชาติ ในพื้นที่ อ.ตาพระยา อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว
จึงได้ติดตามมาจนถึงล้ง หรือจุดพักเพื่อรอการส่งต่อในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา และได้เข้าทำการจับกุมเมื่อเวลา 07.00 น.ของวันนี้ โดยมีกำลังร่วมกันหลายฝ่ายในการเข้าจับกุม ก่อนที่จะนำมาให้ทางเจ้าหน้าที่สาธารณสุข อ.เมืองฉะเชิงเทรา ทำการตรวจคัดกรองโรค และทำประวัติเพื่อสอบสวนดำเนินคดีและส่งกลับตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป
สำหรับ 5 คนไทย ประกอบด้วย นายชวลิต ผดุงเวช อยู่บ้านเลขที่ 138 ม.1 ต.หนองบอน อ.เมือง จ.สระแก้ว นายวิโรจน์ เขจรสาย อยู่บ้านเลขที่ 111/192 ม.1 ต.บึงน้ำรักษ์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี นายสุคล วงศ์สุพรรณ์ อยู่บ้านเลขที่ 167/12 ม.3 ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี นายองอาจ ทดทสี อยู่บ้านเลขที่ 105 ม.16 ต.บ้านหวาย อ.วาปีปทุม จ.มหาสารคาม และนายญัฐพงษ์ ดอนสินพูล อยู่บ้านเลขที่ 195 ม.8 ต.หลักเหลี่ยม อ.นามน จ.กาฬสินธุ์
ได้เตรียมแจ้งข้อกล่าวหา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายในข้อหา “ร่วมกัน รู้ว่าคนต่างด้าวซึ่งเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืน พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม” และตั้งข้อกล่าวหาแก่คนต่างด้าวทั้งหมดว่า “เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต และมั่วสุมในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรคตามข้อกำหนดในมาตรา 9 ฉบับที่ 1 ข้อ 5 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พ.ศ.2548”
พร้อมยึดรถยนต์กระบะของกลางจำนวน 5 คัน ประกอบด้วย รถยนต์กระบะอีซูซุ สีเทา ทะเบียนป้ายแดง ง-7475 กทม. รถยนต์กระบะอีซูซุ สีดำ ทะเบียน บล-4769 กาฬสินธุ์ รถยนต์กระบะอีซูซุ สีดำ ทะเบียน 1ฒข-3471 กทม. รถยนต์กระบะนิสสัน สีดำ ทะเบียน บล-9420 สุพรรณบุรี และรถยนต์กระบะนิสสัน สีขาว ทะเบียน กล-6584 ระยอง ไว้ ซึ่งจะได้มีการสอบสวนขยายผลการจับกุมต่อไป พล.ต.อ.ณัฐธร กล่าว
ด้านนายสว่าง วน อายุ 33 ปี แรงงานชาวกัมพูชา กล่าวว่า ตนเองเคยเข้ามาทำงานเป็นแรงงานก่อสร้างในเขต อ.ศรีมหาโพธิ์ จ.ปราจีนบุรี และได้เดินทางกลับประเทศไปในช่วงเดือน มี.ค.63 แต่ในประเทศไม่มีงานทำ จึงอยากกลับมาทำงานที่เมืองไทยอีก แต่รอนานมากแล้วจนรอไม่ไหวที่จะกลับเข้ามาเนื่องจากด่านชายแดนไม่เปิด จึงได้พากันเดินเท้าข้ามแดนมายังทางฝั่งไทย ตั้งแต่ช่วงเวลา 19.00 น. เมื่อวานนี้ และข้ามมาถึงยังจุดนัดหมายในเวลา 03.00 น. ก่อนมีรถมารับพาเลยมายังที่ จ.ฉะเชิงเทรา โดยได้จ่ายเงินให้แก่นายหน้าผู้นำพาไป จำนวน 3,600 บาท นายสว่าง กล่าว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: